เราๆ ท่านๆ คงจะทราบคุณค่าของการพักผ่อนหลับนอนมาแล้ว เช่น ช่วยให้ร่างกายได้สร้างเสริม และซ่อมแซมร่างกาย ทำให้สดชื่น มีแรงมีกำลังที่จะทำงานใหม่ต่อไป ฯลฯ
วันนี้มีข่าวดีจากอาจารย์นายแพทย์สันไจ ปาเต็ล (Dr. Sanjay Patel) อาจารย์แพทย์แห่งมหาวิทยาลัยเคส เวสเทิร์น รีเซอร์ฟ คลีฟแลนด์ สหรัฐอเมริกา
ผู้เขียนคิดว่า อาจารย์ท่านนี้น่าจะมีเชื้อสายอินเดียหรือศรีลังกา และอาจมีชื่อ “สัญชัย” ชื่อยอดนิยมของอินเดียก็ได้
เพราะคนอินเดียเก่งหลายอย่าง ทั้งด้านคอมพิวเตอร์ วิศวกรรม การแพทย์ วิทยาศาสตร์ และการค้า
อาจารย์ท่านสำรวจติดตามผู้หญิงวัยกลางคน 68,183 คนตั้งแต่ปี 2529 ติดตามมานานถึง 16 ปี ผลการศึกษาพบว่า
น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น 15 กก.ทำให้ความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน และโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันเพิ่มขึ้น
คนที่นอนน้อยกว่าวันละ 5 ชั่วโมงมีน้ำหนักเฉลี่ยมากกว่าคนที่นอนวันละ 7 ชั่วโมงประมาณคนละ 2.45 กก.ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นศึกษา
ตรงนี้แสดงว่า การอดนอนอาจจะมีผลต่อน้ำหนักตั้งแต่ก่อนวัยกลางคนแล้ว
เมื่อใช้วิธีการทางสถิติวิเคราะห์อายุและน้ำหนักของกลุ่มตัวอย่าง(เปรียบเทียบกับคนที่นอนคืนละ 7 ชั่วโมง)พบว่า
อาจารย์สันไจท่านให้ความเห็นว่า ภาวะนอนไม่พออาจทำให้ร่างกายปรับตัว โดยลดระดับการเผาผลาญอาหารเป็นพลังงานลง
ถ้าเปรียบเป็นรถจะคล้ายรถที่เหยียบคันเร่งน้อยลง ถึงจะวิ่งไปไม่หยุดก็วิ่งช้าลง เผาผลาญอะไรๆ น้อยลง สะสมไข(มัน)ไว้เพิ่มขึ้น
นอกจากนั้นภาวะนอนไม่พออาจทำให้คนที่อดนอนมีอิริยาบถที่ใช้พลังงานมาก เช่น ยืน เดิน วิ่ง ฯลฯ ลดลง และมีอิริยาบถที่ใช้พลังงานน้อย เช่น นั่ง นอน อยู่เฉยๆ ฯลฯ มากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงอิริยาบถดังกล่าวอาจมีผลทำให้อัตราการใช้พลังงานจากอิริยาบถที่ใช้พลังงานสูงหรือ “นี้ท (non-exercise associated thermogenesis / NEAT) ” ลดลง
ท่านผู้อ่านที่นอนน้อย และรู้สึกสดชื่นดีไม่ต้องตกใจครับ คนเราแต่ละคนต้องการชั่วโมงนอนไม่เท่ากัน ท่านอาจจะมีธรรมชาติประเภท “นอนน้อย ทว่า...เพียงพอ” ก็ได้
ส่วนท่านผู้อ่านที่อดนอน และรู้สึกอ่อนเพลียควรหาเวลานอนชดเชยอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง เพื่อป้องกันอุบัติเหตุซึ่งพบบ่อยขึ้นในคนที่อดนอน
นอกจากนั้น... ควรออกกำลังกายอย่างน้อยเทียบเท่าการเดินเร็ววันละ 30 นาที หาโอกาสเดินให้มากขึ้น นั่งๆ นอนๆ ให้น้อยลงหน่อย
เพียงเท่านี้น้ำหนักคงจะไม่เพิ่ม และมีสุขภาพดีได้ไปอีกนานครับ...
ขอแนะนำ...
แหล่งที่มา:
ขอบคุณค่ะคุณหมอ
ขอขอบคุณอาจารย์สิริพร...