ครั้งก่อน ได้นำเสนอใน หมวดที่ 2 ว่าด้วยหน้าที่และความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบล (เกษตรตำบล) เพื่อให้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานที่ถูกต้อง ชัดเจน
ครั้งนี้จะได้นำเสนอในหมวดที่ 3 ว่าด้วยหลักเกณฑ์และแนวทางปฎิบัติเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำผิด เพราะบางครั้งการปฏิบัติราชการอาจมีการกระทำที่เสี่ยงต่อการกระทำผิดทั้งในทางปกครอง การกระทบกระทั่งกับผู้เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการด้วยกัน หรือเกษตรกรบุคคลเป้าหมาย จึงได้นำเสนอวิธีปฏิบัติงานให้ถูกต้อง ชัดเจน โดยมีระเบียบรองรับ ดังนี้
ข้อ 20 ในการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบล ถือเป็นหลักปฏิบัติว่า การดำเนินงานตามหน้าที่รับผิดชอบจะต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความรับผิดชอบ รวมทั้งพิจารณาให้เกษตรกรมีส่วนร่วมตามความเหมาะสม
ข้อ 21 เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบลต้องไม่มีส่วนได้เสีย หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อนในการดำเนินงาน หรือดำเนินโครงการต่างๆ ที่ตนเข้าไปสนับสนุนหรือดูแลรับผิดชอบ
ข้อ 22 ในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบล ให้ปฎิบัติตามระเบียบ คำสั่ง หลักเกณฑ์ และข้อกฏหมาย ตลอดจนให้ยึดถือคู่มือในการปฏิบัติงานตามที่กรม หรือส่วนราชการอื่นๆในเรื่องนั้นๆ ได้ประกาศหรือกำหนดไว้
ข้อ 23 การรับจดทะเบียนเกษตรกร หรือการรับแจ้งข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับที่ดินทำกินของเกษตรกร เพื่อขอรับความช่วยเหลือจากทางราชการ ให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบลตรวจสอบความถูกต้องในเบื้องต้น ดังนี้
1.บัตรประจำตัวประชาชนของเกษตรกรผู้ให้ข้อมูล
2.ทะเบียนบ้านของเกษตรกรผู้ให้ข้อมูล หรือสำเนาทะเบียนบ้านที่มีรายชื่อเกษตรกรผุ้ให้ข้อมูล
3.หลักฐานแสดงสิทธิการถือครองที่ดิน เช่น โฉนดที่ดิน น.ส.3 น.ส.3ก ส.ค.1 สัญญาเช่า หนังสือยกให้ หรือเอกสารรับรองจากกำนัน/ผู้ใหญ่บ้าน/สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือหลักฐานอื่นใดที่แสดงให้เห็นว่ามีสิทธิครอบครอง และทำประโยชน์บนที่ดินนั้น
ข้อ 24 ในการรับจดแจ้งข้อมูลใดๆ จากเกษตรกร ให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบล ตรวจสอบความถูกต้อง และหากมีข้อสงสัยอาจไปตรวจสอบพื้นที่ หรือรายละเอียดอื่นๆด้วยตนเอง หรืออาจแจ้งให้เกษตรกรายนั้น ชี้แจงข้อเท็จจริงหรือจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมก่อนการรับจดทะเบียนก็ได้
เมื่อเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบลได้ตรวจสอบข้อมูลที่รับแจ้งจากเกษตรกรและพบว่าถูกต้องตรงตามความจริง กรณีนี้ให้ถือว่าข้อมูลดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลที่ถูกต้อง และหากเกษตรกรผู้แจ้งข้อมูลประสงค์จะขอแก้ไขข้อมูลเดิม ก็ให้นำเอกสารหลักฐานและพยานบุคคล เช่น ผู้นำชุมชน หรือเจ้าของที่ดินข้างเคียงมาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบล และในกรณีนี้ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนั้นใหม่
ข้อ 25 ให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบล ศึกษาโครงการหรือคู่มือก่อนที่จะปฏิบัติงาน และเรื่องใดที่ไม่ชัดเจนให้หารือกรม หรือหน่วยงานเจ้าของเรื่อง ก่อนที่จะดำเนินการ และหากเกิดปัญหา หรือมีข้อสงสัยในทางปฏิบัติเกี่ยวกับกฏหมาย ระเบียบ คำสั่ง ประกาศ ให้หารือแนวทางการปฏิบัติจาก กองนิติการ กรมส่งเสริมการเกษตร
ข้อ 26 ให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบล มีอำนาจในการเพิกถอนการรับจดแจ้งข้อมูลที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดหรือบางส่วนได้ ในกรณีที่ตรวจพบว่ามีการจงใจแจ้งข้อมูลอันเป็นเท็จ หรือแจ้งข้อมูลผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เช่น จำนวนพื้นที่ หรือข้อมูลอื่นๆในแบบที่กำหนด ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญในการรับจดแจ้งข้อมูลในเรื่องนั้นๆ
กรณีตามวรรคหนึ่งหากเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตระดับตำบล ได้เพิกถอนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องทั้งหมดหรือบางส่วน จากการรับจดแจ้งข้อมูลจากเกษตรกรรายใด ให้แจ้งให้เกษตรกรรายนั้นได้รับทราบ และหากมีเกษตรกรที่ถูกเพิกถอนหลายราย จะทำประกาศแจ้งรายชื่อผู้ถูกยกเลิกหรือเพิกถอนติดไว้ ณ องค์การบริหารส่วนตำบล และที่สำนักงานเกษตรอำเภอก็ได้
ประกาศ ณ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2552 โดยนายอรรถ อินทลักษณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร
มีประโยชน์มากสำหรับเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรระดับตำบลไว้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเพื่อป้องกันมิให้เกิดการกระทำผิดในหน้าที่
ไม่มีความเห็น