ชื่อเรื่อง การศึกษาความต้องการและการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากร
บุคคลของครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกา จังหวัดชลบุรี
ผู้วิจัย สมศรี ไตรสรณะศาสตร์
ปีที่วิจัย 2543
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อศึกษาความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี
2. เพื่อศึกษาการตอบสนองความต้องการการพัมนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี
3. เพื่อเปรียบเทียบความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน
4. เพื่อเปรียบเทียบการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครู โรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรี จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน
วิธีการดำเนินงานศึกษาค้นคว้า
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1. ประชากร ในการศึกษาได้แก่ครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 2,313 คน
2. กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ครูโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา สังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชน ในจังหวัดชลบุรี จำนวน 327 คน โดยประมาณขนาดกลุ่มตัวอย่างจากตารางเครซี่และมอร์แกน โดยสุ่มแบบหลายขั้นตอน
ขั้นที่ 1 สุ่มอำเภอ จำนวนร้อยละ 50 ของจำนวนอำเภอทั้งหมด 10 อำเภอ ได้อำเภอ 5 อำเภอ
ขั้นที่ 2 สุ่มโรงเรียนจากโรงเรียนแต่ละอำเภอ จำนวนร้อยละ 50 ของจำนวนโรงเรียนแต่ละอำเภอได้โรงเรียนทั้งหมด 36 โรงเรียน
ขั้นที่ 3 สุ่มครูแต่ละโรงเรียนร้อยละ 50 ของแต่ละโรงเรียน ได้จำนวนครูทั้งหมด 327 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เพื่อศึกษาค้นคว้าเป้นแบบสอบถามที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นเองเกี่ยวกับความต้องการทรัพยากรบุคคล แบ่งออกเป้น 2 ตอน คือ
ตอนที่ 1 เป็นข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดส่วนตัวของผู้ตอบแบบสอบถาม
ตอนที่ 2 เป็นแบบสอบถามที่เกี่ยวกับความต้องการทรัพยากรบุคคลและการตอบสนองความต้องการของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษาจังหวัดชลบุรีใน 3 ด้าน คือ
1. ด้านการฝึกอบรม
2. ด้านการศึกษาต่อ
3. ด้านการพัฒนาตนเอง
ลักษณะของมาตราส่วนประมาณค่าแบบของลิเคิร์ท แบ่งเป็น 5 ระดับ ซึ่งกำหนดความมากน้อยตามระดับความต้องการ โดยกำหนดเกณฑ์ 5 4 3 2 1
การสร้างเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ศึกษาเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล
2. สร้างแบบสอบถามขึ้นเองตามกรอบแนวคิดสำหรับการศึกษาของโรงเรียนเอกชน สังกัดคณะกรรมการการศึกษาเอกชน จำนวน 50 ข้อ แล้วนำแบบสอบถามที่สร้างเสนอคณะกรรมการควบคุมงานนิพนธ์ระดับสูง เพื่อพิจารณาแล้วนำเสนอให้ผู้ทรงคุณวุฒิตรวจสอบความถูกต้อง ความเที่ยงตรง และความครอบคลุมของเนื้อหา รวมทั้งการใช้ภาษาที่เหมาะสม และนำไปปรับปรุงแก้ไขร่วมกับคณะกรรมการที่ปรึกษางานนิพนธ์ระดับสูงอีกครั้ง
3. ปรับปรุงแบบสอบถามตามที่ผู้ทรงคุณวุฒิเสนอแนะ
4. นำแบบสอบถามที่แก้ไขแล้วไปทดลองใช้(try out) กับครูโรงเรียนสัตหีบ เขตฐานทัพเรือสัตหีบ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี จำนวน 30 คน ซึ่งไม่ใช่กลุ่มตัวอย่าง แล้วนำแบบสอบถามทั้ง 30 ฉบับ มาวิเคราะห์หาค่าอำนาจจำแนกรายข้อ(discrimination)โดยหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ระหว่างคะแนนรายข้อกับคะแนนรวม(item-total correlation)โดยวิธีหาค่าสหสัมพันธ์อย่างง่ายของเพียร์สัน(Pearson product-moment correlation) ได้ค่าจำแนกระหว่าง 0.20-1.00
5. จากนั้นนำแบบสอบถามไปหาค่าความเชื่อมั่น(reliability) โดยวิธีหาค่าสัมประสิทธิอัลฟา ของครอนบาค จากการหาค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามได้ค่าความเชื่อมั่น.95
6. นำแบบสอบถามที่ได้ทดลองใช้แล้วไปเก็บรวบรวมข้อมูลต่อไป
การเก็บรวบรวมข้อมูลและการจัดกระทำกับข้อมูล
1. ผู้วิจัยขอหนังสือจากภาควิชาบริหารการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เพื่อขอความร่วมมือจากผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนเอกชนระดับประถมศึกษา จาก 5 อำเภอ 36 โรงเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในจังหวัดชลบุรี ในการแจกแบบสอบถามให้กลุ่มตัวอย่าง
2. ผู้วิจัยดำเนินการแจกแบบสอบถามให้ผู้ตอบแบบสอบถาม แล้วดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง
3. ในกรณีที่ไม่ได้รับแบบสอบถามคืนจากกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยได้ติดตามประสานงานกับกลุ่มตัวอย่าง เพื่อติดตามและรวบรวมแบบสอบถามปรากฏว่าได้กลับคืนมา 324 ฉบับคิดเป็นร้อยละ 99
4. นำแบบสอบถามมาตรวจให้คะแนนน้ำหนักที่กำหนดไว้ แล้นำไปวิเคราะห์วิธีทางสถิติต่อไป
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
1. การศึกษาความต้องการและการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา ใช้การหาค่าเฉลี่ย และค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน
2. เปรียบเทียบความต้องการและการตอบสนองความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานใช้การทดสอบค่าที(t-test)
ผลวิจัยพบว่า
ความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน ระดับประถมศึกษา จังหวัดชลบุรีโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก และการตอบสนองควมต้องการโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง การเปรียบเทียบความต้องการการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของครูโรงเรียนเอกชน จำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน โดยรวมไม่แตกต่างกัน วิเคราะห์เป็นรายด้านพบว่าครูโรงเรียนเอกชนที่มีวุฒิต่ำกว่าปริญญาตรีและปริญญาตรีขึ้นไป มีความต้องการด้านการฝึกอบรมและการพัฒนาตนเองแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ด้านการศึกษาต่อเพิ่มเติมมีความต้องการไม่แตกต่างกัน และการตอบสนองความต้องการจำแนกตามวุฒิการศึกษาและประสบการณ์ในการปฏิบัติงานโดยรวมและรายด้านไม่แตกต่างกัน
น้องเอ๋...แล้วสถิติที่ใช้กับ ผลการวิจัยละน้อง... พี่รออยู่
ค่ะพี่...น้องกำลังดำเนินการค่ะ สักครู่นะจ๊ะ.......
พี่เอ๋ ส่งอีกแล้วขยันจริงๆๆๆ
ขยันจริง พี่เรา
เรื่องที่สามแล้ว เริ่มชำนาญแล้วใช่มั๊ยเนี่ย
ขยันมากเลยเนี่ย ระวัง จะผอมนะครับ