งาน KM Forum สายงานผลิตไฟฟ้า ครั้งที่ 3


Theme ของงานในปีนี้ คือ “กลยุทธ์การขับเคลื่อน KM” อย่างยั่งยืน ที่ตั้ง Theme อย่างนี้ เพราะว่า สายงานผลิตไฟฟ้าเรากำลังขยายผลการใช้ KM แบบที่เรียกกันว่า Human KM นี้ไปใช้ให้ทั่วทั้งสายงาน แต่ยังมีภาพความเข้าใจ KM แบบเก่า ๆ หลงเหลืออยู่ในบางที่ ในขณะที่หลาย ๆ ที่ก็ใช้ KM เป็นเครื่องมือได้อย่างดี

ผ่านไปนาน ไม่ได้เข้ามาเขียน blog เสียหลายเดือน หลังจากที่เขียนเรื่อง ประชาธิไตยจากการเขียนเรียงความแล้วมีสถิติคนเข้ามาอ่านเกินคาดไปมาก เดาว่าคนเข้ามาอ่านน่าจะเป็นเด็ก ๆ ที่เอาหัวข้อเรียงความมาค้น (5 5 5)

วันนี้จะมาเล่าเรื่องงาน KM Forum ครั้งที่ 3 ที่จัดไปแล้วเมื่อวานนี้ (25 พย.) ซึ่งผมได้มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเตรียมงาน ได้เห็นเบื้องหลังบางส่วน ซึ่งได้เก็บส่วนที่ประทับใจมาเล่าให้ฟัง

Theme ของงานในปีนี้ คือ “กลยุทธ์การขับเคลื่อน KM” อย่างยั่งยืน ที่ตั้ง Theme อย่างนี้ เพราะว่า สายงานผลิตไฟฟ้าเรากำลังขยายผลการใช้ KM แบบที่เรียกกันว่า Human KM นี้ไปใช้ให้ทั่วทั้งสายงาน แต่ยังมีภาพความเข้าใจ KM แบบเก่า ๆ หลงเหลืออยู่ในบางที่ ในขณะที่หลาย ๆ ที่ก็ใช้ KM เป็นเครื่องมือได้อย่างดี ก็เลยเกิดแนวคิดว่า น่าจะจัดเป็นเวทีให้คนที่ใช้ KM ในรูปแบบต่าง ๆ ได้มาแลกเปลี่ยนกัน

ในตอนเข้า เราได้รับเกียรติจากท่าน อ.ประพนธ์  ผาสุขยืด มาเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้ ด้วยหัวข้อเรื่องเดียวกันกับ theme งาน โดยทีมงานได้นำที่มาของ theme ไปเรียนให้ท่านอาจารย์ทราบก่อน ซึ่งท่านอาจารย์ได้ตีโจทย์ที่เรานำไปให้ท่านช่วยขบคิดมาเป็นเนื้อหาที่บรรยายได้อย่างแตกละเอียดมากว่า ซึ่งท่านที่สนใจอ่านได้จากข้อสรุปใน Blog ของท่านเอง ที่นี่ (เชื่อว่าหลายท่านอาจได้อ่านก่อนอ่าน blog ของผมนี้ .. ฮา...)

ช่วงสาย เป็นการจัด Panel ให้ผู้บริหารที่มีผลงานการขับเคลื่อน KM ในสายงานของตนได้อย่างดี มา Share ให้ท่านอื่น ๆ ฟังวิธีการขับเคลื่อนของแต่ละท่าน ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนในต่างบริบทกัน ส่วนช่วงบ่าย เป็นการเล่าเรื่องการใช้เครื่องมือ KM ของคนทีมีประสบการณ์จริงที่ได้นำ KM ไปใช้ในการทำงานและได้ผล (มีบางท่านบอกว่านำไปใช้ในชีวิตประจำวันด้วย)

บรรยากาศในช่วงเช้า มีคนสนใจเข้ามาฟังกันจนล้นห้องประชุมที่มีความจุประมาณ 300 คน บวกกับเก้าอี้เสริมที่เตรียมไว้ และคนที่ไม่มีเก้าอี้นั่งก็เต็มใจที่จะยืนดูหรือนั่งบนขั้นบันไดทางเดินของที่นั่งชั้นบน ตรวจสอบยอดผู้มาลงทะเบียนเข้างานทั้งสิ้น 583 คน

มีเกร็ดเล็กน้อย เกี่ยวกับเรื่องความเชื่อคนไทย คือว่าของชำร่วยที่นำมามอบแก่คนที่มาร่วมงานส่วนหนึ่งเป็นมีดพับขนาดเล็ก คล้าย ๆ กับของยี่ห้อ Victorinox หรือที่หลาย ๆ ท่านคุ้นเคยกับการเรียกว่า แมคไกเวอร์ ซึ่งคนไทยเรามีความเชื่อกันเรื่องให้/รับมีดจากผ้อื่น แต่ผู้จัดงานได้ BAR กันไว้ก่อนแล้วว่าจะมีผู้มีความเชื่อนี้ ก็เลยนำกล่องสำหรับบริจาคการกุศลที่มีอยู่ใต้ถุน Office ไปตั้งไว้ ใครที่เชื่อเรื่องนี้ ก็ “ซื้อ” มีดโดยจ่ายเงินใส่กล่องบริจาคไป ก็เป็นการยิงปืนนัดเดียวได้นกตัวอ้วน ๆ หลายตัว

ผม AAR กับตัวเองคร่าว ๆ แล้วเห็นว่า มองในเป้าหมายหลักของการจัดงานครั้งนี้ เราได้ตามวัตถุประสงค์ครบถ้วน ในส่วนย่อยมีทั้งส่วนที่ดีเกินคาดและส่วนที่ยังต่ำกว่าที่คาด ซึ่งจากการจัดงานครั้งนี้ ทำให้ผมเกิดมาไฟที่อยากจะเขียน blog มาเล่าไว้ หลังจากที่ไม่มีอารมณ์จะเขียนเสียนาน (สงสัยย่างเข้าวัยทอง อิอิ)

 

หมายเลขบันทึก: 316220เขียนเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2009 10:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 09:25 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท