กระบวนการจัดการความรู้ เป็นองค์ประกอบสำคัญประการหนึ่งในการพัฒนาระบบราชการไทย ซึ่งในพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖มาตรา ๑๑ ได้กำหนดไว้ว่า ส่วนราชการมีหน้าที่พัฒนาความรู้ในส่วนราชการเพื่อให้มีลักษณะเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้อย่างสม่ำเสมอ โดยต้องรับรู้ข้อมูลข่าวสารและสามารถประมวลผลความรู้ในด้านต่างๆเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติราชการได้อย่างถูกต้อง รวดเร็วเหมาะสมกับสถานการณ์ รวมทั้งต้องส่งเสริมและพัฒนาความรู้ความสามารถ สร้างวิสัยทัศน์ และปรับเปลี่ยนทัศนคติของข้าราชการในสังกัดให้เป็นบุคลากรที่มีประสิทธิภาพและมีการเรียนรู้ร่วมกันนอกจากนั้นในแนวทางการจัดทำคำรับรองการปฏิบัติราชการ และการติดตามประเมินผลปฏิบัติราชการประจำปี ได้กำหนดการจัดการความรู้ในองค์กรไว้เป็นประเด็นในการประเมินผลการปฏิบัติราชการในมิติที่ ๔ คือ ด้านการพัฒนาองค์กร ซึ่งแสดงให้เห็นได้ว่าการบริหารราชการแนวใหม่ได้ให้ความสำคัญกับการจัดการความรู้ เพื่อรวบรวมองค์ความรู้และพัฒนาให้เป็นระบบ เพื่อการพัฒนาคน งาน และองค์กรต่อไป
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัยมีนโยบายดำเนินการการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้เป็นตามปรัชญาของมหาวิทยาลัยที่ว่า “ศูนย์กลางการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม” และปฏิบัติตามมาตรฐานอุดมศึกษาข้อที่ ๓ ของกระทรวงศึกษาธิการ ที่กำหนดให้มหาวิทยาลัยมีการสร้างและพัฒนาสังคมฐานความรู้และสังคมแห่งการเรียนรู้ สอดคล้องกับตัวบ่งชี้ที่ ๗.๓ ของการประกันคุณภาพการศึกษาภายในระดับอุดมศึกษา ซึ่งกำหนดให้มีการนำการจัดการความรู้ มาใช้ในกระบวนการบริหารการศึกษา
ดังนั้น เพื่อให้บุคลากรของมหาวิทยาลัยฯ ทราบและเข้าใจทิศทางและแนวทางการจัดการเรียนรู้ของมหาวิทยาลัย รวมทั้งเพื่อให้การจัดการความรู้ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายของมหาวิทยาลัย จึงจัดให้มีโครงการจัดการความรู้ของมหาวิทยาลัยเพื่อให้มหาวิทยาลัยก้าวไปสู่องค์การแห่งการเรียนรู้วิถีพุทธ
นมัสการพระคุณเจ้า
มาติดตามข่าวเจ้าค่ะ
อากาศเย็น หวังว่าพระคุณเจ้าจะมีสุขภาพดีนะเจ้าค่ะ