ทำไมคณะนิติศาสตร์ของแต่ละมหาวิทยาลัยจึงต้องจัดพิมพ์สมุดคำตอบหลายสี??
ในการจัดการสอบแต่ละครั้งของคณะนิติศาสตร์ในแต่ละมหาวิทยาลัย มักจะพบว่ามีกระดาษคำตอบหลากหลายสี หลายแบบมาก ทั้งนี้เป็นเพราะอะไร?
เนื่องจากในวิชาหนึ่ง ๆ มีผู้สอนในรายวิชาหลายท่าน และแต่ละท่านก็ออกข้อสอบหลายข้อเพราะถ้ามีอาจารย์ประจำวิชาเพียงท่านเดียวก็ไม่จำเป็นต้องแยกสีกระดาษคำตอบ
คำตอบคือ เพื่อความสะดวกในการจัดเรียงข้อสอบและแยกให้อาจารย์แต่ละ่ท่านตรวจอย่างรวดเร็วจึงใช้วิธีการจัดทำกระดาษคำตอบหลายสี ประกอบกับการสอบของคณะนิติศาสตร์เป็นการสอบแบบอัตนัยทั้งหมด (เป็นการจัดทำคำถามแบบการคิดเชิงบวก คือเป็นคำถามปลายเปิดที่นักศึกษาสามารถบรรยายเหตุผลในการตอบได้)
ดังนั้นเพื่อความสะดวกรวดเร็วในการแยกกระดาษคำตอบให้กับอาจารย์ผู้สอน ได้ตรวจข้อสอบ และเป็นการอำนวยความสะดวกให้คณะกรรมการคุมสอบคณะนิติศาสตร์จึงได้จัดทำกระดาษคำตอบหลายสี
แต่ทั้งนี้ก็เป็นปัญหาขึ้นมาอีกเมื่อนักศึกษามักจะทำข้อสอบผิดสีทำให้เกิดความลำบากเริ่มตั้งแต่คณะกรรมการคุมสอบในการรวบรวมกระดาษคำตอบ อาจารย์ผู้สอนที่นำไปตรวจซึ่งบางครั้งเป็นอาจารย์พิเศษไม่สามารถส่งกระดาษคำตอบให้อีกท่านหนึ่งได้ดังนั้นในข้อสอบมักจะมีคำสั่งว่า "หากทำข้อสอบผิดสี จะไม่ได้รับการตรวจ" ทั้งนี้ส่วนหนึ่งก็สามารถวัดความละเอียดรอบคอบของนักศึกษาว่ามีมากน้อยเพียงไรได้
ผู้ใดคิดว่าการแยกกระดาษคำตอบเป็นสีไม่สมเหตุสมผล บ้างค่ะ
และคำสั่งที่ว่า "หากทำข้อสอบผิดสี จะไม่ได้รับการตรวจ" นั้นเป็นอย่างไร?
เป็นเรื่องเล็กน้อยจริงๆ ผู้ตอบไม่รอบคอบ ทำผิดสี ไม่ต้องตรวจให้นั้น
ดีแล้ว ของแค่นี้ ถ้าทำไม่ได้ ก็ไม่สมควรให้ปริญญา เพราะในชีวิต
ข้างหน้าจะต้องเจออุปสรรค และ ปัญหาอีกมากมายนัก
ดิฉันคิดว่าการฝึกฝนให้เป็นคนละเอียดรอบคอบเป็นสิ่งจำเป็น เพียงแต่ใครจะทำให้ นศ.ทำเอง หรือ คณะและอาจารย์ทำให้นศ. ซึ่งถ้าได้ทั้งสองทางก็จะดีเยี่ยม อย่างไรก็ตาม นศ.อาจรู้สึกว่าโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ทำไมต้องมาจ้ำจี้จ้ำไช ดังนั้นการที่นศ.จะฝึกฝนตนเองจึงดีกว่า เพราะจะไม่รู้สึกว่าอาจารย์เห็นว่านักศึกษายังเป็นเด็ก และอาจารย์ให้เกียรตินศ.
อย่างไรก็ดี ถ้านศ.ไม่ได้ฝึกฝนตนเองตามวรรค 1 ผลที่ตามมาจะเป็นอย่างไร
เป็น....ไปตามยถากรรมค่ะ
เช่น เข้าสอบเนติ เเต่เขียนทั้งชื่อและนามสกุล รวมทั้งหมายเลขประจำตัวสอบ (ทั้งชุด) ลงไปในสมุดคำตอบ เพราะไม่อ่านคำสั่งให้ดีว่า ให้เขียนเฉพาะเลขประจำตัวสอบ เป็นต้น
ดังนั้นการฝึกฝนตนเองขณะเป้นนักศึกษาชั้นปริญญาตรีจึงสำคัญมาก
ในฐานะคนสอนหนังสือ เราคงไม่อยากได้ยินคำว่า อาจารย์รังแกผม/หนู (เพราะไม่ช่วยฝึกฝนพวกหนูๆเลย) ทำให้วันที่ต้องสอบทางวิชาชีพของลูกศิษย์กลายเป็นฝันร้ายไป เพราะอาจารย์คอยตามหาข้อสอบที่เขียนผิดสีมาตรวจให้ คอยตรวจดูว่าสมุดคำตอบที่เขียนหัวกระดาษไม่ครบน่าจะเป็นของใคร เป็นต้น
เราไม่อยากเป็นครูไหวใจร้าย แต่เราก็ไม่อยากให้การสอบนอกสถาบันของลูกศิษย์เป็นฝันร้ายตลอดชีวิตเช่นกัน
1.ตอบคุณ panchatan
ขอบคุณมากคะสำหรับความคิดเห็น
ดิฉันคิดว่าการฝึกฝนในชั้นปริญญาตรีสำคัญมาก หากนักศึกษาไม่รอบคอบ แล้วเมื่อเติบโตขึ้นเป็นทนายความแล้วไม่ละเอียดก็จะเป็นผลร้ายแก่ตัวเขาเองและลูกความ
เช่นถ้าฟ้องคดีผิดศาล หรือนับวันผิดทำให้ไม่สามารถฟ้องคดี/ยื่นคำร้อง/ยื่นอุทธรณ์คำสั่งได้ ทนายความท่านนั้นอาจจะจบชีวิตในวิชาชีพทนายความเลยก็เป็นได้
ตอบ อาจารย์ตุ๊ก ม.อุบล
ลูกศิษย์มักไม่ค่อยเห็นความหวังดีของอาจารย์ในปัจจุบันเท่าไหร่ แต่มักจะสำนึกได้เมื่อเวลาผ่านไปเมื่อเขาพบอุปสรรคในชีวิต
เยี่ยมคับมีเวทีมากขึ้น
ฝากประชาสัมพันธ์เวปตั๋วเงินด้วยครับ www.law.ubu.ac.th/bills
นิติศาสตร์ เป็นวิชาชีพ ที่ต้องการ "ความรอบคอบ" มิใช่น้อย เพราะความเป็น ความอยู่ ความรอด ทั้งของลูกความ และตัวของผู้ประกอบวิชาชีพเอง ก็พึงต้องระวังและกระทำเช่นนั้นเสมอ
นอกจากกระดาษคำตอบต่างสีแล้ว การสอบเนติฯ แม้คุณจะทำถูกสี แต่ใช้ปากกาผิดชนิดจากลูกลื่นเป็นหมึกเจล กรรมการก็ไม่ให้คะแนนผู้สอบได้ ถือเป็นการฝึกความรอบคอบทางอ้อม
เพราะถ้าเรื่องเล็กน้อยเพียงนี้ยังไม่สามารถ เรื่องใหญ่กว่าจะรอดหรือ??