ป้าเจี๊ยบ
น้อง พี่ อา ป้า ครู อาจารย์ คุณ นางสาว ดร. รศ. ฯลฯ รสสุคนธ์ โรส มกรมณี

High Tea มาหลัง Afternoon Tea


G&C October 2006
        เมื่อเร็วๆนี้  ได้รับการ์ดเชิญไปร่วมงานฉลองสมรส  มีวงเล็บที่มุมล่างขวาว่า “High Tea” 
        แปลกใจค่ะ  เพราะนานแล้วที่ไม่ได้ยินคำนี้ หรือใช้คำนี้ในเมืองไทย
        ญาติมิตรที่ได้รับการ์ดก็พากันถามว่า High Tea นี่เป็นยังไง?  จะทำตัวถูกมั๊ยนี่?!?
        เรื่องของ High Tea นี้ เคยเขียนแล้วเมื่อสามสี่ปีก่อน    เขียนเป็นทำนองให้ความรู้เกี่ยวกับวิถีกินของชาติอื่น  รู้ไว้ประดับสมองเพราะเป็นเรื่องที่ค่อนข้างไกลตัว   คนไทยไม่นิยมจัดงานเลี้ยงในลักษณะนี้เท่าใดนัก  
        ตอนนี้ใกล้ตัวแล้วค่ะ  เมื่อมีคำถามก็ต้องจัดการให้คำตอบ
       
        คำๆนี้ ถ้าแปลตรงตัว  ก็เรียกว่า ชาสูง  
        “สูง” ไม่ได้หมายถึง ชาที่ขึ้นในที่สูง หรือชาต้นสูง หรือต้องนั่งกินในที่สูง หรือชาสำหรับชนชั้นสูงหรอกค่ะ แต่เป็นเรื่องของเวลา
        High นี้เป็นคำย่อของ “High noon” ค่ะ หรือเวลาบ่ายแก่ๆ  เกือบค่ำ  ซึ่งถ้าคิดตามเวลาแบบดั้งเดิมของประเทศต้นกำเนิดคืออังกฤษแล้ว  ก็จะเป็นเวลาประมาณบ่าย 5 - 6 โมงเย็น   ซึ่งเป็นเวลาที่ชนชั้นแรงงานหรือคนทำงานเลิกจากงานกลับมาบ้านแล้ว 
        การกินน้ำชาแบบนี้  เริ่มขึ้นในสมัยวิคตอเรียน  ซึ่งเป็นยุคที่อุตสาหกรรมเติบโต  มีชนชั้นแรงงานทำงานในโรงงานมาก   ไม่มีเวลาให้พักกินน้ำชายามบ่าย ซึ่งเรียกว่า Afternoon Tea แบบชนชั้นสูงที่มีเวลามากกว่า   คนเหล่านี้จึงใช้วิธีรวบยอดน้ำชามื้อบ่ายกับอาหารมื้อเย็นเข้าด้วยกันซะ   แบบว่าไม่เปลืองดี
        High Tea  จึงเหมือนกับการกินอาหารเย็นที่เรียกว่า Supper  เพราะจะเป็นอาหารมื้อสุดท้ายของวันไปเลย  อาหารที่กินจะเป็นอาหารที่ค่อนข้างหนักท้อง  อย่างเช่น พาย  สตูว์  เป็นต้น ถ้าเป็นงานเลี้ยงแบบ High Tea ก็จะมีอาหารให้เลือกอย่างหลากหลาย  เป็นอาหารแบบตั้งใจให้กินอิ่ม  และจุดเด่นของงานคือมีน้ำชาเสริฟแบบไม่อั้น   และพายยอดนิยมที่จะขาดไม่ได้สำหรับงานนี้ คือ Shepherd’s Pie
        คนชั้นสูงที่กินน้ำชายามบ่ายแบบ Afternoon Tea  ที่เรารู้จักกันมานาน  จะกินกันตอนบ่ายอ่อนๆ  คือเวลาประมาณ 3-4 โมง  อาหารที่กินกับน้ำชาจึงเป็นพวกอาหารว่างหรือของกินเล่นแบบไม่ได้ตั้งใจให้กินอิ่ม    เพราะจะมีอาหารมื้อเย็นที่เรียกว่า Dinner ตามมาอีกมื้อ  และมื้อเย็นก็มักจะไม่เสริฟน้ำชา  แต่จะเสริฟเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์แทน
       
        ดังนั้น การจัดงานเลี้ยงฉลองสมรสแบบ High Tea ในเมืองไทย  ซึ่งในการ์ดบอกว่าจะเริ่มตั้งแต่บ่าย 3 โมงนั้น  ก็ไม่ขัดธรรมเนียมดั้งเดิมในเรื่องเวลาเท่าไหร่  เพราะคนไทยต้องเผื่อเวลาให้อย่างน้อยก็เกือบชั่วโมง  กว่าจะเริ่มจริงๆ ก็คงจะ 4 โมงเย็นไปแล้ว
        อาหารที่เสริฟก็จะเป็นแบบเดียวกับการเลี้ยงค็อกเทล (Cocktail)  ซึ่งในเมืองไทยจะจัดอาหารได้อย่างหลากหลาย   แขกที่ไปร่วมงานได้กินอิ่มแน่ค่ะ
        เวลาไปก็แต่งตัวชุดหรูๆ แบบราตรีสั้นสำหรับผู้หญิง และสูทแบบสปอตสำหรับผู้ชายก็จะเข้าท่าดี   ถ้าจะช่วยให้เจ้าภาพได้บรรยากาศเก๋ๆ ของงานเลี้ยงน้ำชาแบบผู้ดีอังกฤษ  ก็แต่งกายด้วยสีอ่อนๆ อย่างขาว ครีม  หรือสีพาสเทล  
        การจัดงานเลี้ยงแบบนี้ในช่วงเวลาบ่ายแก่ๆ อย่างนี้  เป็นการบอกนัยๆ แล้วว่า  งานนี้แตกต่างจากงานเลี้ยงค็อกเทล  นั่นคือจะมีที่ให้นั่งพูดคุยกันมากกว่าการให้ยืนและเดิน  และจะไม่เน้นการเสริฟเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์   ถ้าหากมีก็จะเป็นพวกแชมเปญหรือไวน์
       
        ไม่ว่าเครื่องดื่มจะจัดแบบไหนให้เลือกก็ตาม   ชื่อก็บอกแล้วว่าตัวเอกของงานคือ ชา   ฉะนั้นเมื่อไปร่วมงานแบบนี้ทั้งที  ก็ต้องไม่พลาดการดื่มชาค่ะ
 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 313755เขียนเมื่อ 15 พฤศจิกายน 2009 20:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:54 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

สวัสดีค่ะ ป้าเจี๊ยบ

เป็นความฝันว่าอยากเข้าร่วมงาน "น้ำชา" แบบนี้ซักครั้ง เพื่อได้โอกาสพบปะผู้ชื่นชอบ ชา ใหม่ๆ

ใช่ค่ะ ที่อังกิด ดื่มชาผมนมกันเป็นหลัก

แถบเสปน โปรตุเกตุ ชาก็เป็นที่นิยมนะคะ แต่เน้นไปทางเพื่อสุขภาพ (อังกิดเน้น จิบหอมอร่อย)

เมื่อก่อนไม่ชอบชาค่ะ เกือบจะเกลียดด้วยซ้ำค่ะ แต่ก็เปลี่ยนไปเมื่อไปลองชาอินเดียที่เพื่อนชาวอินเดียชงให้สมัยเรียนที่อังกิด เขาใช้ชาของ Tetley tea กับ นม ต้มด้วยกัน อาจจะใส่เครื่องเทศนิดหน่อยแล้วแต่ชอบ ดื่มยามหนาวๆ รู้สึกถึงความอร่อยเลยค่ะ

ตั้งแต่นั้นก็ เสาะแสวงหา ทดลอง ชาใหม่ๆ แปลกๆ ไปเรื่อย มารู้ตัวอีกทีก็ บินไปลองอยู่ที่ฝรั่งเศส แบบว่าคนอื่นเขาไปซื้อกระเป๋าหลุย แต่เราไปสรรหาชา

อ่านมาเยอะ ลองมามาก เริ่มหนักหัวค่ะ เลยได้ความคิดเริ่มเขียนบล็อกแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อผู้ชื่นชอบชาจะได้เทคนิคข่าวสารแบ่งปันกัน เพื่อนร่วมวงน้ำชา น่ะค่ะ เข้าไปให้คำแนะนำได้ที่

smileyteatime.blogspot.com

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท