ฝันไปข้างหน้า : สิ่งที่อยากเห็นการเตรียมพร้อมสำหรับประเทศไทยและโลก


วันนึงเมื่อร่างกายเราถูกดินกลบหน้าไป คนที่อยู่ข้างหลังเราเค้าคงถามว่า "เกิดมาแล้วทำอะไรดีๆ ไว้บ้าง"

ผมมองสิ่งต่างๆรอบๆตัวพวกเราวันนี้แล้ว อยากจะแบ่งปันอะไรสักเล็กน้อย แม้ผมอาจจะไม่ใช่คนฉลาดมากนัก และ ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ ด้วยความที่ชอบลองคิด เลยอยากจะเอาความคิดมาแชร์บ้าง ในสายตาผม ผมเห็นว่าสิ่งที่ประเทศไทยต้องเตรียมพร้อม และพวกเราทุกคนต้องเตรียมพร้อม คือ

1. การเตรียมทรัพยากรมนุษย์ที่มีทั้งความรู้และคุณธรรม  ต้องมีระบบการศึกษาที่ทำให้คนไทยตระหนักในคุณค่าของคุณงามความดี และสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งช่วยเหลือตัวเองได้ และสำคัญที่สุด คือ รู้จักคิดเป็น  (ทำยากมาก เราทั้งสังคมต้องช่วยกัน)

2. การเตรียมแผนพัฒนาเศรษฐกิจ (รัฐบาลต้องกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึง ความมั่งคั่งในแง่ของผมอาจจะไม่ใช่ความร่ำรวย แต่เป็นการมีปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตที่พอเพียง) การเก็บภาษีที่เป็นธรรมและทั่วถึง ไม่ใช่ เอาเงินคนชั้นกลางไปอุดหนุนคนยากจนอย่างเดียวและ อนุญาตให้คนรวยและมีอำนาจเลี่ยงภาษี (ต้องสร้างให้คนจนสามารถยืนได้ด้วยตัวเองอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องรอแบมือ ขอให้รัฐช่วยอย่างเดียว) และเปิดโอกาสให้คนทุกคนมีโอกาสในการประกอบธุรกิจอย่างเท่าเทียมกัน ไม่มีการผูกขาด โดยมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างทั่วถึง

 3.การเตรียมแผนรองรับสภาพแวดล้อมธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงไป

*************************************************************

 

คิดเล่นๆนะครับ (ถ้าเห็นว่าไร้สาระ ไม่ต้องอ่านครับ)

(ถ้าสภาพการเมืองไทย และนักการเมืองไทยยังเล่นเกมส์ อยู่ ทั้งสองฝ่ายอย่างนี้  และถ้าน้ำท่วมกรุงเทพและบางส่วนของประเทศไทยจริงๆ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมของโลก เราเตรียมตัวไม่ทันหรอกครับ ผมเอง แม้จะยัง ศึกษาข้อมูลเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลกไม่มาก แต่ลึกๆ ผมเห็นว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่ระดับน้ำจะสูงขึ้น และ ท่วมเมืองหลวง และเมืองอื่นๆ ของไทย ถ้าน้ำท่วมจริง  เราจะทำอย่างไร แต่อันนี้ถ้าไม่เกิดดีที่สุด 555 อาจจะคิดมากไป แต่ ลองคิดเล่นๆ ถ้าจะมีแผน น่าจะเป็น

3.1 แผนการลดการกัดเซาะริมตลิ่ง โดยใช้วิธีธรรมชาติ (ทำแปลงปลูกป่าชายเลน และส่งเสริมอาชีพ เกษตรกร) และวิธีที่ไม่ธรรมชาติ เช่นการก่อสร้างเขื่อนกั้น เพื่อควบคุมระดับน้ำ เหมือนประเทศเนเธอแลนด์ และจัดการระดับน้ำทะเลบริเวณใกล้ชายฝั่ง ในอ่าวไทยให้ลดความรุนแรง และลดการกัดเซาะตลิ่งริมน้ำ

3.2 กรณีแผนหนึ่งไม่ได้ผล ต้องเตรียมแผนสอง 

3.2.1. แผนอพยพคน (ทรัพย์สินของเอกชน เอกชนต้องออกค่าใช้จ่ายเอง)

3.2.2  ย้ายข้อมูลราชการ และข้อมูลทางเศรษฐกิจ ข้อมูลความมั่นคง

3.2.3 ย้ายทรัพย์สินทางราชการ หน่วยงานราชการ

3.2.4 การจัดการทรัพย์สินทางวัฒนธรรมและ สิ่งก่อสร้างทางวัฒนธรรม)

3.2.5 การจัดการ อาหาร ยารักษษโรคและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานสำหรับประชากร

3.2.6 การจัดการทรัพยากรธรรมชาติที่เหลือหลังน้ำท่วม และการกระจายทรัพยากรไปถึงคนไทยทุกระดับ

(ถ้าเห็นว่าไร้สาระ ไม่ต้องอ่านครับ)

*********************************************************

4.แผนการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ และการฟื้นฟู ธรรมชาติ การจัดการทรัพยากรที่ดิน และการใช้ที่ดิน

5. แผนอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาของชาติ

6. แผนฟื้นฟูคุณธรรมคนในชาติ (ผมว่าตอนนี้วิกฤตนะ หรือคนอื่นเห็นว่ายังไง)

7. แผนพัฒนาคุณภาพชีวิตคนไทยการดูแลทรัพยากรบุคคลตั้งแต่เด็กจนถึงเกษียร และการใช้ประโยชน์จากผู้เกษียรอายุที่มีคุณภาพ การให้สิทธิและสถานะคนในสังคมอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

8. แผนปรับปรุงและการบังคับใช้กฎหมายอย่างเท่าเทียมทั่วถึง ไม่มีข้อยกเว้น และการตัดสินสิ่งต่างๆ อย่างเป็นธรรม มีเหตุมีผลและรอบด้าน และปรามปรามการฉ้อราษฎรบังหลวง

9. แผนการจัดการอาหาร และการสาธารณสุข

10. แผนการจัดการพลังงาน

11. แผนลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

หมายเลขบันทึก: 313361เขียนเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2009 06:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 10:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ข้อ 6 จะทำอย่างไรจึงจะฟื้นฟูคุณธรรมของคนในชาติได้ เห็นมีแต่คนหน้าด้าน พูดเอาแต่ได้ ไม่แยกถูกผิด เห็นแก่ประโยชน์ตนมากกว่าประโยชน์ชาติ หน้าที่ตัวเองไม่ทำเช่น ส.ส. ส.ว. ไม่เข้าประชุมจนสภาล่มแล้วล่มอีก เลวจริง ๆ ท่านสมาชิกผู้มีเกียรติทั้งหลาย

ผมว่าต้องใช้มาตรการลงโทษทางสังคมครับ เพราะ คนในสังคมเราปล่อย คนที่ควรทำหน้าที่เลยได้ใจ ถ้าเค้าไม่ดีก็ไม่ต้องไปเคารพ ไปให้เกียรติเค้า เลิกสนใจครับ แล้วถอดถอน แต่อันนี้ต้องมีเกณฑ์ที่ชัดครับ เพราะ ทุกคนต่างก็บอกว่าตัวเองทำดีแล้ว ทำผิดก็ไม่เคยยอมรับ แล้วเราใช้ระบบอุปถัมภ์กันมากไปครับ เด็กใครถ้าทำผิด แต่มีลูกพี่ช่วย ก็ไม่ถูกลงโทษ ลูกพี่ก็อุ้มเด็กตัวเอง เด็ก ก็ไม่เคยสำนึก พอโตขึ้นมาก็สานต่อความเคยชินของตัวเองครับ ต้องช่วยกันทั้งสังคมครับ

จำได้ว่าอาจารย์สูงอายุคนหนึ่ง สมัยรัฐบาลที่ผ่านมา ได้มีโอกาสกลายไปเป็นรัฐมนตรี แล้วก็ปกป้องรัฐบาลต่างๆ นาๆ โดย ไม่ดูความถูกต้อง บอกแค่ว่ามันถูกตามกฎหมาย หรือชอบด้วยกฎหมาย (แต่มันขัดศิลธรรมและความรูสึกคนทั้งชาติที่รู้ผิดชอบชั่วดี) เค้าก็ยังดึงดันทำช่วยรัฐบาล พอรัฐบาลหมดอำนาจ เค้าก็ตกอับ แล้วก็คราวนี้ ลูกศิษย์ลูกหาที่เคยสอน ก็เชิญ อาจารย์คนนี้ไปแขกในงานแต่งงาน แต่ปรากฏว่าลูกศิษญ์คนอื่นๆ ไม่มีใครเดินไปไหว้ไปทักเลยครับ นี่เป็นการลงโทษทางสังคมแบบหนึ่ง ซึ่งภาคประชาสังคมต้องเข้มแข็งมากๆ ถึงจะมีแรงขับดันไปได้

แต่ยากครับ สังคมไทยปัจจุบัน ใครมีเงินมีอำนาจ ทำอะไร ไม่มีคำว่าผิด ถ้าผิด (กู)ก็ แก้กฎหมายให้เป็นถูกได้ แล้วก็บอกว่า กฏหมายบอกว่าถูก คำถามที่สำคัญ กฎหมายใครออกล่ะครับ ก็พวกเค้าทั้งนั้น

มีสุภาษิตกฎหมายบางคำที่ผม อยากจะถาม เหล่านักการเมืองไทยว่า ท่านรูจัก คำว่า Lex injusta non est lex ไหม แล้วท่านให้คุณค่ากับคำๆนี้มากแค่ไหน ถ้าวันหนึ่งคนในสังคมรับกับสิ่งที่ท่านทำไม่ได้ แล้วถ้าเค้าไม่ถูกท่านบางคนแบ่งแยก หรือจูงใจให้รู้ผิดทาง แล้ว หันกลับมารุมทำร้ายพวกท่านเพราะเค้าเห็นว่ากฎหมายที่พวกท่านออกมันไม่สมประโยชน์ของชาติประชาชนเจ้าของประเทศเลยมันจเป็นยังไง... แต่จะถึงวันนั้นได้สังคมไทยต้องผ่านวิกฤตวันนี้ให้ได้ครับ ถาคประชาสังคมต้องเข้มแข็ง และรวมตัวกันตรวจสอบนักการเมือง...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท