การบ้านที่ครูให้หนูมาพิจารณาเช้านี้คือ
อะไรทำให้เรายังวิ่งตามหลังพี่ ทำไมยังวิ่งตามเรียนรู้กับพี่อยู่
พอว่างจากงานหนูจึงมานั่งลงตั้งใจถอดบทเรียนในการบ้านที่ครูให้
บางทีก็รู้สึกเหมือนมีความผูกพัน ทำอะไรก็จะเหมือนมีคำสอนของครูกำกับเตือนสติ ให้ระมัดระวัง ไม่ประมาท ในการดำเนินชีวิต ในการยืน เดิน นั่ง นอน พูดเคลื่อนไหว ทำงาน ขนาดคุยกับแม่บางทีก็นึกถึงคำสอนครู พอจะทำอะไรทั้ง ๆ ที่ทำคนเดียวก็เหมือนมีครูไปด้วย อืมแปลกจังค่ะ เป็นตั้งแต่ตอนไหน หนูก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้เป็นแบบนี้ค่ะ
ขนาดวิ่งในห้างรีบยังมีเสียงครูบอกว่า “สำรวม สำรวม” หนูหยุดวิ่งเองกระทันหัน ฮ่า ๆ
จะแต่งตัวก็นึกถึงคำสอนครู “นักปฏิบัติภาวนาเขาไม่แต่งตัวโป๊นะ” ประมาณนี้ค่ะ หนูไม่แน่ใจว่าใช้คำว่า ความผูกพัน จะแทนความรู้สึกนี้ได้ไหม แต่มันเหมือนกับมีครูอยู่ตลอดเวลาค่ะ
เมื่อก่อนเคยเหงาบ่อย ๆ แต่ตอนนี้ ไม่เหงา แทบไม่มีเวลาเหงา
ครูทำให้ วัชพืชที่ชื่อว่าความเหงาในใจหนู เหี่ยวตาย ต้นไม้แห่งความโกรธขยายพันธุ์ได้ไม่ดี ต้องแจ้งป่าไม้ไหมเนี่ย ฮ่า ๆ
ตอนนี้กลายเป็นว่าต้นไม้แห่งความอดทนและตั้งใจ ค่อย ๆ งอกเงยอย่างงดงาม ตามติดมาด้วยต้นไม้แห่งความเบิกบานค่อย ๆ งอกออกมาจากเมล็ดอย่างเอียงอาย
เฮ้ย ชักจะเพ้อฝันเยอะไปละ กลับมา ๆ ๆ อย่าฟุ้งซ่านปรุงแต่ง
หนูเองก็ตอบไม่ได้ว่าความรู้สึกเป็นห่วงครู เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ พอเห็นเจอปัญหาอุปสรรค หรือครูเหนื่อย ครูโกรธกับความงี่เง่าของหนู ก็รู้สึกผิดที่ทำให้เหนื่อย อยากให้ครูไม่เหนื่อย ต้องคอยเตือนสติว่า
ถ้าไม่อยากเป็นภาระให้ครูก็ต้องตั้งใจและอดทนมาก ๆ
จริง ๆแล้วที่หนูพูดมาทั้งหมดทั้งมวลน่าจะรวม ๆ กันได้ที่คำ ๆนี้ค่ะ
รักและเคารพครูอย่างสุดซึ้ง...............ลูกศิษย์ก้นกุฏิ
สวัสดีค่ะใบไม้ร้องเพลง
พี่นกแวะมาเยี่ยม สิ่งที่เรียกว่าศรัทธา จะนำพาเราก้าวเดินด้วยความมั่นใจ
ยินยีและชื่นชม ต้นไม้แห่งความเบิกบานนะคะ
ขอบพระคุณค่ะ พี่นก ศรัทธาทำให้ใจหนูเบิกบานในการทำหน้าที่ เเละพร้อมที่จะพลีทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อการทำหน้าที่ค่ะ
แต่หนูเองก็ยังเป็นผู้ฝึกตนค่ะ ที่เขียนก็เพื่อพัฒนาตัวเอง ตามคำชี้แนะของครู เพื่อให้ไม่มีตัวตน และหนูยังรออ่านบันทึกของพี่นกอยู่นะคะ เมื่อไหร่จะมาเขียนอีกน้อ