จุดเด่นประเทศไทย ในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์


การแบ่งอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ของประเทศไทยนั้น คณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม 15 สาขาคือ

  1. กลุ่มวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ เช่น งานฝีมือ การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์  ธุรกิจอาหารไทยและการแพทย์แผนไทย
  2. กลุ่มศิลปะ เช่น ศิลปะการแสดง  ทัศนศิลป์
  3. กลุ่มสื่อ เช่น  ภาพยนตร์  สิ่งพิมพ์  กระจายเสียง  เพลง
  4. กลุ่มงานสร้างสรรค์เพื่อประโยชน์ใช้สอย เช่น การออกแบบ  แฟชั่นต่างๆ อาทิ  เสื้อผ้า กระเป๋า  รองเท้า  เครื่องประดับ  สถาปัตยกรรม  โฆษณา  และซอฟแวร์ต่างๆ

 

หลายท่านถามว่า  แล้วเราจะนำจุดเด่นอะไรของประเทศไทย มาใช้ผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ได้บ้าง??? 

คนไทยที่อยู่เมืองไทย  มักไม่ค่อยทราบว่า ชาวต่างชาติเค้าชื่นชมเมืองไทยมากมายแค่ไหน และมีอะไรบ้างที่เรามีแล้วเด่นไปกว่าชาติอื่น  ที่สามารถสร้างสรรค์ ยกมาชู มาโปรโมทได้ทันที

ในสายตาของชาวต่างชาติ นอกจากอาหารไทยที่ไต่ระดับขึ้นไปเป็นอาหารอร่อยและเป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีมากในระดับโลกแล้ว ในเรื่องวัฒธรรม เช่น ดนตรี  ศาสนาพุทธ (ถือเป็นศาสนาที่เป็นมากกว่าปรัชญา) แฟชั่น (โดยเฉพาะรองเท้าแตะคีบ พื้นสีขาว หูสีน้ำเงิน รุ่น original เพื่อนฝรั่งในชิคาโก ชอบมาก)  ศิลปะการต่อสู้ (มวยไทย)  วิถีการดำเนินชีวิต (แบบไทย-พุทธ) กีฬาและการละเล่นต่างๆ  และช้างไทย  ก็สามารถนำมาใช้ผลักดันได้

เพราะหนึ่งในหัวใจหลักของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ก็คือ การนำวัฒนธรรม (ซึ่งลอกเลียนแบบได้ยากมาก) มาใช้และสร้างสรรค์ให้เข้ากับแนวคิดการตลาดปัจจุบัน

ลองดูตัวอย่างนี้ค่ะ  ว่า ฝรั่งต่างชาติ รักในวัฒนธรรมของเราแค่ไหน

เป็นอีกเรื่องดีๆ น่ารักๆ ที่เอามาฝากกันวันนี้ค่ะ

 

ขอบคุณที่มา http://forum.sanook.com/forum/?topic=2975362

หมายเลขบันทึก: 310932เขียนเมื่อ 4 พฤศจิกายน 2009 19:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สิ่งที่ใกล้ตัวมักจะไม่เห็นคุณค่า แต่เมื่อสูญเสียไปจึงเกิดสำนึกและรู้ซึ้งถึงคุณค่า

ขอบคุณที่ท่านบอกเล่าให้คนไทยได้ตื่นขึ้นมา

สวัสดีครับ

น่าสนใจครับ

ปัญหาของเรื่องนี้อยู่ที่คนไทยครับ รัฐบาลควรมุ่งส่งเสริมและผลักดันให้คนไทยมีศักยภาพมากขึ้นเพื่อรองรับตลาดโลก

เฉพาะภาคบริการ คนไทยสามารถไปสร้างโอกาสในต่างประเทศได้สบาย

อินเดียได้ใช้จุดแข็งของเขาในเรื่องความเก่งด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และภาษาอังกฤษ เข้าสู่ธุรกิจไอทีและซอร์ฟแวร์ จนปัจจุบันนี้ เป็นผู้นำระดับโลกไปแล้วครับ

เมืองไทยของเรามีสิ่งดีมากมาย  ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองควรที่จะได้มองหาจุดดี  จุดด้อย  และจุดพัฒนา  เร่งส่งเสริม เร่งประชาสัมพันธ์เพื่อไทยวัฒนา....อย่ามัวแต่ตีกัน แยกไทยเป็นหลายก๊กหลายเหล่า

คุณ P พรชัย

ใช่ค่ะ  ที่เราไม่ค่อยเห็นว่าวัฒนธรรม ประเพณี  วิถีชีวิต ศาสนา กีฬา และความเป็นไทยของเรามีคุณค่ามากขนาดไหน

เวลาไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง  ถึงจะรู้ซึ้งดีค่ะ ว่าประเทศไทยนี่ สุดยอดแล้ว

อย่าลืมบอกต่อเพื่อนๆ คนอื่นๆ ด้วยนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ

คุณ P พลเดช วรฉัตร

 

จริงๆ ค่ะ ที่รัฐบาลจะต้องมุ่งส่งเสริมศักยภาพคนไทย (เน้นให้พูดได้มากกว่า 1 ภาษา) 

แอมมี่ได้มีโอกาสไปเที่ยวเชียงใหม่ ก็พบว่า หลายโรงเรียนเริ่มให้นักเรียนพูดได้ถึง 3 ภาษา (เพราะชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวกันเยอะขึ้น)  ภาษาหลัก นอกจากเด็กๆ จะพูดภาษาไทยเหนือ และไทยกลางได้แล้ว  ก็ยังต้องเลือกอีก 2 ภาษา เช่น อังกฤษ  ญี่ปุ่น  จีน  เกาหลี หรือ ฝรั่งเศส  เยอรมัน

ที่จริงแอมมี่เห็นด้วยกับคุณพลเดชนะคะ  ว่าเมืองไทยเรามีจุดเด่นที่ดีเด่นกว่าชาติอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัดเจนก็คือเรื่อง "จิตสำนึกในการให้บริการ"  นี่แหละค่ะ

รัฐบาลน่าจะส่งเสริมจุดนี้อย่างจริงจัง  ผลิตบัณฑิตในสาขาบริการ เช่น

  • งานในส่วนของการโรงแรมในทุกระดับชั้น - ตั้งแต่ส่วน front  ส่วน house keeping ไปจนถึง ผู้บริหารระดับต้น - กลาง - สูง  (ซึ่งแอมมี่ทราบมาว่ายังขาดอยู่มากในทั่วโลก และเมืองไทย)
  • แพทย์ พยาบาลและผู้ช่วยในโรงพยาบาล ทั้งการแพทย์ตะวันตกและตะวันออก (โดยเฉพาะแผนไทย)  งานในส่วนของทันตกรรม  และศัลยกรรมความงาม
  • อาหารและบริการด้านอาหารในทุกระดับชั้น (ทั้ง chef ที่ต้องสอนให้ใช้ความคิดสร้างสรรค์มากกว่านี้ ประดิษฐ์หรือ create อาหารไทย ให้ทันสมัย ประยุกต์ ปรับปรุงให้ดีขึ้น มีเมนูน่าสนใจ น่าลองชิม  ...ในส่วนของร้านอาหารก็ต้องส่งเสริมให้ยกระดับให้เป็นมาตรฐานสากล  คือ การบริหารจัดการร้านอาหารเพื่อให้สามารถอยู่ได้อย่างยั่งยืน  มีการจัดการที่เป็นระบบ พนักงานเสิร์ฟได้รับการเทรนให้สามารถให้บริการได้ในระดับมาตรฐานสากล เป็นต้น)
  • กีฬาต่างๆ เช่น มวยไทย  ว่าวไทย  ตะกร้อ  เรือยาว  ทำให้เหมือนกับวิชาการบริหารกอล์ฟ ที่เปิดอยู่ในหลายมหาวิทยาลัยในเวลานี้ค่ะ

เอาเป็นว่า  เดี๋ยวแอมมี่จะเล่าเพื่อแลกเปลี่ยนไอเดีย  ว่าในภาครัฐควรจะส่งเสริมในแต่ละหัวข้อด้วยวิธีใด  และประชาชนอย่างเราๆ ท่านๆ จะช่วยส่งเสริมได้อย่างไรในตอนต่อไปนะคะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและแสดงความคิดเห็นเพื่อต่อยอดความรู้ค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณ P ครูตา ลป.

จริงๆ ด้วยค่ะ  วิกฤตเศรษฐกิจแบบนี้  หมดยุคแบ่งแยกกันแล้ว
อยากให้คนไทยสามัคคีกันมากๆ
เมืองไทยมีอะไรดีดีเยอะแยะ  และบางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องรอรัฐบาลให้มาช่วยมากนัก 
ประชาสัมพันธ์โดยการเขียนบล็อค ก็ช่วยได้ค่ะ โดยเฉพาะภาพถ่ายเมืองไทยสวยๆ วัฒนธรรมดีดี สวยงาม
ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน และ แสดงความคิดเห็นดีดีนะคะ

จุดเด่นสามารถนำมาใช้ หากคนไทย เลิกทะเลาะกัน อะ ท่าน อาจารย์

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท