85. มองวัฒนธรรมการอ่าน ผ่าน มหกรรมหนังสือ


  

มหกรรมหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 14 ผ่านไปแล้ว
ทุกครั้งที่มีมหกรรมหนังสือ...ก็อดไม่ได้ที่จะแวะไป
ซื้อหนังสือที่หมายตาในราคาถูกลง
แต่ขณะเดียวกันก็พยายามทำความเข้าใจกับ
"วัฒนธรรมการอ่าน" ของสังคมไทย
ที่ปรากฎในงานว่าเป็นอย่างไร
............
การเดินทางด้วย "รถไฟฟ้า ฉบับ มาหานะเธอ"
ผู้คนคราคร่ำที่มีเป้าหมายร่วมกัน
ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์

 

 

ปริมาณคนที่หลั่งไหลเข้าสู่งาน
ส่วนหนึ่งเลย คือ มาเป็นครอบครัว...
เพราะเป็นช่วงปิดเทอม

 

 

แผนผังเป็นสิ่งจำเป็น
ในการหาแผงหนังสือที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษ

 

 

ดูบรรยากาศที่พ่อแม่พาลูกตัวเล็กๆ มาเลือกซื้อหนังสือ
ในอริยบทต่างๆ กัน

 

  

ลูกน้อยหลับคาไหล่...แม่เลือกซื้อหนังสือสบายใจ
 

 

หนังสือสำหรับเด็ก...ขายดีทั้งเด็กเล็ก เด็กโต
พ่อแม่เปิดโอกาสให้ลูกๆ เลือกซื้อหนังสือเองมากขึ้น

 

 

เราได้เห็นเด็กๆ วิ่งวุ่นทั่วงาน...อย่างสนุกสนาน
แถมยังมีตัวล่อเด็ก คือ การ์ตูนตัวโต

 

 

การมางานมหกรรมหนังสือ...กลายเป็นวันครอบครัว
 

 

 

แต่ละแผงหนังสือเนืองแน่นด้วยผู้คน
การซื้อหนังสือในงาน...เป็นการอ่านผ่านๆ เหมือนการชอปปิ้ง
ดังนั้น หนังสือบางเล่มซื้อไปแล้ว อาจไม่ถูกใจภายหลังได้
เพราะไม่มีเวลาอ่านเนื้อในนานพอ
เนื่องจากคนเยอะ...ต่างจากในร้านหนังสือทั่วไป
ที่เราจะเห็นคนอ่านได้นานๆ
แต่นั่นล่ะ...ซื้อหนังสือโดยเอาราคาเป็นตัวตัดสินใจง่ายๆ

 

 

 

หน้งสือขายดี ... หนังสือใหม่ที่แนะนำในงาน
มักจะเป็นหนังสือของ...คนดัง...ดารา ที่อ่านเอาสนุก
บางคนก็แจ้งเกิด แต่บางคนก็ดับตั้งแต่ฉบับแรก
วิธีโปรโมทที่ได้ผล คือ การมานั่งแจกลายเซ็นต์

 

พระเอกของงานงวดนี้...นายกอภิสิทธิ์
มาแจกลายเซ็นต์ให้กับแผงหนังสือเคล็ดไทย
ก่อนที่จะเผ่นไปเป็นประธานเปิดงานประชุมอาเซี่ยน ที่หัวหิน
 

 

 

หนุ่มเมืองจันท์...มาแจกลายเซ็นต์ในวันถัดไป
ที่แผงหนังสือของมติชน
ได้ลูกค้าไปเยอะเช่นกัน แต่คงน้อยกว่า "หล่อใหญ่"
ไม่น่าเชื่อว่า...บางคนสามารถคว้าหนังสือไปจ่ายเงินได้
โดยไม่ต้องอ่านว่าหนังสือนั้นเขียนว่าอะไร
เพียงเพื่อให้มี "ลายเซ็นต์" บนปกหนังสือ
หรือ อาจจะเชื่อมือของนักเขียนอยู่แล้วก็เป็นได้

 

 

 

บางแผงหนังสือเงียบเหงา...รอเฉพาะลูกค้าประจำ
เหมือนแผงหนังสือของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์
หนังสือดีๆ ที่ร้อ รอ คนอ่านแวะมา
แต่แผงหนังสือตรงกันข้าง กลับคราคร่ำด้วยคนๆๆๆ
เป็นแผงหนังสือนิยายหวานแหว๋ว...ที่ยังมีสถิติการขายกระหน่ำ
และได้รับความสนใจมากกว่าหนังสือประเภทอื่นๆ
ลูกค้ามีทั้งรุ่นใหญ่ รุ่นเล็ก รอคิวซื้อหนังสือกันแน่น
เฮ้อ!!!....ท่านเนาวรัตน์ คงน้อยใจ

 

 

 

หนังสือที่ขายได้เรื่อยๆ และจุดพลุได้เป็นบางเล่ม
คือ หนังสือเกี่ยวกับคนการเมือง โดยเฉพาะ "เจ้าประจำ..."
สำนักพิมพ์มักจะออกเล่มใหม่ ให้ทันเปิดตัวในงานมหกรรมหนังสือ
แต่ปีนี้...ไม่มีเล่มใดเด่น ดัง เป็นพิเศษ
 

  

 

ส่วนแผงหนังสือที่มีลูกค้าเรื่อยๆ และต้องรอขาประจำ
ก็จะเป็นแผงหนังสือวิชาการที่กระจุกกันอยู่ในโซน C เป็นแผงหนังสือเล็กๆ
แวะไปดู...งวดนี้มีหนังสือใหม่ไม่มากนัก
บางแผงหนังสือบางตา และขนาดของแผงเล็กลง...คาดว่าเศรษฐกิจไม่ดี
 

 

 

สีสันต์ของงานมหกรรมหนังสืออีกอย่าง คือ การโฆษณาหนังสือ
ด้วยวิธีการต่างๆ เช่น ป้ายโฆษณาเคลื่อนที่
ตุ๊กตาตัวโตให้เด็กถ่ายรูป หรือ
กลุ่มน้องๆ ที่แต่งตัวตามคอนเซ็ปของหนังสือมานั่งตามทางเดิน
งวดนี้ หนังสือประเภทนิยายแปล ลี้ลับ พ่อมดแม่มด
ไม่คึกคักเหมือนครั้งก่อนๆ ... มีหนังสือใหม่ไม่กี่เล่ม
ทำให้ความคึกคักของงานน้อยลง

 

 

ลูกค้าที่ชอบซื้อ แต่ไม่ชอบหิ้ว ก็ยังมีอยู่เยอะ
ไปรษณีย์ จึงขายดี ดูจากกองหนังสือ และกล่องรอส่ง
เยอะมากจนล้นมานั่งแพคกันที่พื้นทางเดิน
 

 

งานไม่ได้เผื่อที่นั่งไว้มากนัก ดังนั้น ตามทางเดิน ขั้นบันได
จึงกลายเป็นพื้นที่นั่งพัก นั่งกิน นั่งรอ บนพรมสวยๆ
...............

 

"งานมหกรรมหนังสือ"
อาจทำให้ยอดการอ่านหนังสือของสังคมไทยสูงขึ้นบ้าง
แต่อาจไม่ได้สร้างวัฒนธรรมการอ่านที่เหมาะสม
(ตามความคิดและสายตาของข้าพเจ้า)
เพราะ หนังสือขายดี ยังคงเป็นหนังสือแนวบันเทิง
 นิยายสไตล์เกาหลี-ญี่ปุ่น
หนังสือของคนดัง หรือ แฉคนดัง
ผู้คนที่มามหกรรมหนังสือ ยังคงเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆ
คนในเมือง คนที่มีกำลังซื้อ อาจคิดได้ไม่ถึง 5% ของคนไทย
สำหรับเด็กและผู้คนที่ยากไร้ ยังขาดหนังสืออ่านเช่นเดิม
งานเช่นนี้ไม่ได้กระจายออกไปรอบนอกให้มากพอ
และราคาหนังสือไม่ได้ถูกลงจนทุกคนซื้อได้
หนังสือบางเล่ม...
ข้าพเจ้าเองยังต้องคิดแล้วคิดอีกว่าจะซื้อดีไหม
เมื่อคิดถึงเงินในกระเป๋า
แล้วงานมหกรรมหนังสือก็จบลงอีกครั้ง
เพื่อรอครั้งที่ 15 ในอีกราว 4-5 เดือนหน้า
วัฎจักรของธุรกิจขายหนังสือ...ยังคงดำเนินไป
และ
ค่าเฉลี่ยการอ่านหนังสือของคนไทยยังน้อยเช่นเดิม
...........
 
pis.ratana บันทึก
1 พย.52

 

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 310239เขียนเมื่อ 1 พฤศจิกายน 2009 23:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:49 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

... เห็นด้วยค่ะแนวโน้มการคลอดหนังสือสมัยใหม่ ดูเหมือนว่าจะเปลี่ยนหลักการ เบี่ยงวัตถุประสงค์ที่แท้จริง แม้แต่หนังสือยังไม่วายโดนกระแสกลืน เสมือนบังคับกลายๆ ให้บริโภคตามๆ กัน ผ่านสื่อ และดาราหน้าหนึ่ง  ... แต่ก็นั่นล่ะคะ เมืองเสรี (ขาย) ภาพ  ... อย่างน้อยก็นิดนึงยังได้อ่านไม่เป็นไรนะคะ ชอบภาพท่านนายกฮีโร่นี้จัง ขอบคุณ และฝันดีค่ะ

สวัสดีค่ะ

  • เห็นด้วยค่ะที่เด็กไทยไม่ได้สนใจกับการอ่านที่เหมาะสม
  • ต้องบอก ต้องบังคับจึงจะอ่าน
  • ความสำเร็จในชีวิตจะเป็นไปได้ยาก  หากไม่รักการอ่านด้วยจิตวิญญาณ
  • พฤติกรรมที่เคยเห็น...เห็นหนังสือก็รีบคว้าแต่เปิดดูรูปภาพ
  • ครูไม่รักการอ่าน  เด็กจะรักการอ่านได้อย่างไร
  • ขอขอบพระคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ

- ตอนที่ไปพบแพทย์ รพ. จุฬา มีโอกาสไปงานหนังสือที่ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ ไปวันที่ 2 ช่วงเย็น เพราะกลางวันฝนตกมาก ได้หนังสือดีๆ มา 2 เล่มค่ะ

- เห็นเลยว่าวัฒนาธรรมการอ่านหนังสือสมัยนี้ ไม่ได้อ่านหนังสือเกี่ยวความรู้ด้านต่างๆ

- มีค่านิยมไปอ่านนิยายเกาหลี เรื่องรักๆ ของวัยรุ่น  บางส่วนก็อ่านหนังสือของนักเขียนบ้านเรา แต่เป็นประเภทความรัก วันรุ่น และใช้ภาษาที่ไม่ถูกต้อง มีคำแสลง และคำใหม่ๆ ที่กลุ่มวัยรุ่นใช้กัน ถ้าใครอ่านสารคดี หรือหนังสือเชิงปรัชญา หาจะถือว่า เชย..เอ๊า... ประมาณนั้น

- แต่ก็มีหนังสือดีๆ มาจัดนิทรรศการเยอะเหมือนกันค่ะ

- คงไปหลายวันซินะ... ถ่ายภาพบรรยากาศไว้มากเชียว   เอ....ได้ลายเซ็นต์ของนายกอภิสิทธิ์ หรือเปล่าค่ะ....

- ขอบคุณที่ไปทักทายและดีใจมากที่สุขภาพดีขึ้นค่ะ

- กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับ "คุก" เจาะลึกใดเป็นพิเศษหรือเปล่าคะ ..เป็นงานท้าทายมากๆ อยากมีส่วนร่วมบ้าง อยากมีประสบการณ์เกี่ยวกับการทำวิจัยให้มากขึ้นค่ะ

- ตอนนี้ ครูใจดี กำลังวางแผนว่า จะทำวิจัยที่เกี่ยวกับชุมชนที่โรงเรียนตั้งอยู่ ซึ่งมีความเป็นมา และวัฒนธรรมของคนไทยญวนโบราญที่เข้ามาอยู่ที่ลับแล.....แต่ยังหาคอบเซ็ปที่ชัดเจนไม่ได้... อยากมีที่ปรึกษาที่ เชี่ยวชาญและเป็นนักวิจัยจริงๆ อย่างคุณpis.ratana เพราะคิดว่าหากได้รับคำปรึกษา งานวิจัยน่าจะมีความสมบูรณ์ และนำผลการวิจัยไปใช้พัฒนาชุมชน หรือทำประโยชน์ในด้านต่างๆ ให้กับชาวลับแลได้อย่างแท้จริงค่ะ....

- ถ้าจะขอคำปรึกษาบ้าง จะรังเกียจหรือเปล่าคะ

- การทำกายภาพช่วยให้อาการปวดดีขึ้น และการนวดแผนไทย นวดแบบรักษา เวลานวดอาจจะเจ็บบ้าง แต่ก็ช่วยให้หายจากอากายปวดได้ดี ครูใจดีก็ต้องนวดบ่อยๆ เพราะเป็นไมรแกรนค่ะ

- วันนี้อย่าลืมไปลอยกระทงขอขมาพระแม่คงคา และใช้วัสดุธรรมชาติทำกระทงนะคะ ช่วยกันลดโลกร้อนค่ะ

- งานไม่มีไปแถวบ้านครูใจดี.. เสียดายจัง  แต่ว่างๆ ก็หาโอกาสมาพักผ่อนบ้างก็ได้ค่ะ  ได้เห็นภาพถ่ายเขื่อน หมู่บ้านชาวประมงเหนือเขื่อน และอุทยานแห่งชาติสักใหญ่ จังหวัดอุตรดิตถ์ ฝีมือของอาจารย์ธนิตย์แล้วใช่ไหมค่ะ.... เห็นบอกว่าชอบนี่นา

- อยากให้มาเที่ยวค่ะ

- ขอให้สุขภาพดี หายวัน หายคืน ทำงานอย่างมีความสุข ระลึกถึงเสมอค่ะ

 

สวัสดีค่ะ

* คิดถึงค่ะ  แต่ช่วงนี้ไม่ว่าง เพราะประเมินนักเรียนพระราชทาน ต่อด้วย สมศ. จะเข้าวันที่ 26-30 พย. นี้  5 วันเต็มๆ ค่ะ  และยังมีการแข่งขันความเป็นเลิศทางวิชาการอีก ไม่มีเวลาฃฝึกซ้อมเด็กเลยได้แต่ให้เข้าไปคิดคอนเซ็ปของงาน แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง ให้เขาลองคาดการณ์ดูค่ะ...

* ผอ.แจ้ง สพท.อต.1 ว่า ขอถอนชื่อครูลับแล ออกจากการเป็นกรรมการตัดสินทั้งหมด  เพราะต้องรับการประมเน สมศ. เด็ก เลยค่อนข้างเสียขวัญ เพราะครูไม่ได้ไปด้วย แต่ก็ปลอบและให้กำลังเขาแล้ว....อะไรจะเกิดก็คงต้องเกิดค่ะ

* ช่วงนี้ทำงานดึกทุกวัน... ตอนนี้ก็ยังอยู่โรงเรียนกันค่ะ  เร่งวิเคราะห์ข้อมูลวิจัยในชั้นเรียน เขาให้ทำเกือบทุกวิชาเลยค่ะ... โหดจริงๆ...

* ว๊า!  ตั้งใจมาเยี่ยม กลับเอาเรื่องไม่สบายใจมาให้เครียดอีกแล้ว ต้องขอโทษมากเลยนะคะ

* งานวิจัยใน "คุก" เป็นอย่างไรบ้างคะ.... แหมน่าตื่นเต้น น่าศึกษาจัง  อิจฉา ค่ะ  อิจฉา 

* รักษาสุขภาพด้วยนะคะ  เป็นห่วง และคิดถึงเสมอค่ะ

 

สวัสดีค่ะ ครูใจดี

  • ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยม
  • พักนี้ยุ่งเช่นกัน ออกตจว.บ่อยมาก
  • ว่างๆ ไปคุยด้วยค่ะ
  • หนังสือที่ขายดีกับคุณภาพ อาจเป็นคนละเรื่องเดียวกันใช่มั้ยครับ(ฮา)
  • หลายเรื่องคล้ายนี้ เพราะธุรกิจ เพราะกำไร หรือเพราะโฆษณา สิ่งดีๆหรือคุณภาพว่ากันทีหลัง
  • ขอบคุณข้อสังเกตจากสัปดาห์หนังสือครับ

สวัสดีค่ะคุณpis.ratana คิดถึงจึงเลย

* ทราบว่ากำลังทำงานหนักหน่วง (เหมือนกับครูใจดีเลย)

* ลาออกจากครู และไปเป็นนักวิจัยจะดีไหมเนี่ย!... เขาจะรับหรือเปล่า  ฮา 

* พูดไปยังงั้นเองค่ะ ครายเครียด...  เพราะเกิดมาเพื่อเป็นครู คงเป็นอย่างอื่นไม่ได้อีกแล้ว..

* ส่วนงานวิจัย รู้สึกชอบตั้งเรียนตอนเรียน ป.โท ได้ประสบการณ์ตรง ที่เราต้องลงพื้นที่ไปเก็บข้อมูล แบบลุยๆ เจออะไรหลายๆ รูปแบบ ชีวิตก็มีรสชาติดี

* งานวิจัยที่ทำในสถานที่ที่บอกมา จะพูดอะไร คงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ บางอย่างเราอยากพูก แต่ก็พูดไม่ได้.... เพราะมีผลกระทบถึงคนอีกหลายๆ คน ซึ่งครูใจดีก็เข้าใจ

* ระลึกถึงมากๆ ค่ะ  อย่าลืมทำกายภาพบ่อยๆ และนวดแผนไทยด้วยนะคะ

* คืนนี้มีฝนดาวตก แต่คงไม่ได้เห็น เพราะอยู่ฝนก็ตกฟ้าปิดเมฆครื้มเชียว คงไม่ได้เห็นอีกแล้ว

         

 

 

พยายามจะทวงพื้นที่ของ "การอ่าน" ในสถานศึกษาแห่งหนึ่ง..แลกหนังสือกันอ่านระหว่างเด็กกับผู้ใหญ่ ได้พบข้อแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมที่คั่นด้วยอายุ จริงแล้วเด็กก็อ่านเป็น..เพียงแต่โอกาสได้อ่านมีน้อยกว่า..สิ่งที่น้อยไม่ใช่การอ่าน แต่อาจเป็นโอกาส

ว่าจะลองสู้ดู..เผื่อฟลุกชนะค่ะ

ขอบคุณที่ทำให้เห็นค่ะ

ปล. ฝนตก ฟ้าร้อง ถนนอาจกลายเป็นคลอง แล้วก็ระวังรถติดค่ะ

สวัสดีค่ะคุณรัตนา

ยังอยู่ป่าคอนกรีต งานคงยุ่งหัวฟูรึคะ รักษาสุขภาพนะคะ ส่งกำลังใจด้วยคิดถึง หวังเหวิดค่ะ จะรอติดตามข่าวความคืบหน้า ด้วยใจจดจ่อ และระลึกถึงมากมาย เช่นเคยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท