งานแต่งในสมัยเมื่อ 35 ปีก่อน นิยมให้มีเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวด้วย ในกรณีของตัวเองมีเพื่อนเจ้าบ่าวสองคน เพื่อเจ้าสาวก็สองคน ตามในภาพจะเห็นว่า งานที่โคราช (ภาพบน) กับงานที่ เชียงใหม่ (ภาพล่าง) เพื่อนเจ้าบ่าวมีคนหนึ่งที่เป็นคนเดิม แต่อีกคนไม่ใช่คนเดิม เพื่อนเจ้าบ่าวทั้งสามคนเป็นเพื่อนจริง ๆ ของผมครับ คนที่ช่วยเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวทั้งสองงานคือ อ. ไพศาล เป็นเพื่อนอาจารย์ ที่พักอาศัยอยู่ที่แฟลตเดียวกัน คือแฟลตปิ่นโต เราสนิทสนมกันมาก เพราะเรามีกิจกรรมสังสรรค์กันเป็นประจำเกือบทุกเย็นวันเสาร์หรืออาทิตย์ ที่บริเวณชั้นล่างของแฟลตปิ่นโต ในสมัยนั้นจาก มช. ไปในเมืองเชียงใหม่ก็ถือว่าไกล กลางคืนไม่ค่อยมีรถวิ่ง มีอาจารย์ยังไม่มากนัก จึงมักมีกิจกรรมร่วมกันของผู้อาศัยอยู่ที่แฟลตเดียวกันภายในมหาวิทยาลัยบ่อย ๆ รายละเอียดกิจกรรมจะเอาเล่าวันหลังครับ
นอกจากช่วยเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวแล้ว อ. ไพศาล ซึ่งเป็นสถาปนิก ยังช่วยออกแบบชุดรับแขก เพื่อใช้ที่ห้องรับแขกที่แฟลตให้อีกด้วย เป็นชุดรับแขกที่เขามุมอย่างสวยงาม ใช้ได้ดีในพื้นที่จำกัด และสามารถวางได้ในหลายรูปแบบ ชุดรับแขกชุดนี้เราได้ใช้มาตลอดจนถึงในปัจจุบัน แม้ว่าจะย้ายที่อยู่มาหลายครั้งแล้ว เริ่มจากย้ายแฟลตไปอยู่บ้านพัก ใน มช. แม้แต่เมื่อย้ายจาก มช. เชียงใหม่ มา มทส. โคราช และย้ายมาอยู่ที่บ้านปัจจุบัน ชุดรับแขกชุดนี้ก็ยังคงใช้ได้ดีเสมอมา ของเขาดีจริง ๆ ครับ
เพื่อนเจ้าบ่าวอีกคนที่มาเป็นเพื่อนที่งานที่โคราช คือ อ. เสน่ห์ เพื่อนรุ่น 07 (รุ่นแรก) มช. แต่เรียนคนละคณะ เมื่อจบแล้วเป็นอาจารย์พร้อม ๆ กัน ได้ที่พักที่แฟลตเดียวกันอยู่ห้องติดกันก่อนที่ผมจะเดินทางไปศึกษาต่อต่างประเทศ เราจึงสนิทสนมกันมานาน เมื่อจบปริญญาเอกกลับมาก็ยิ่งสนิทสนมกันมากขึ้น เพราะเพื่อนคนนี้เป็นอาจารย์อยู่ภาควิชาภูมิศาสตร์ ที่มีอาจารย์รุ่น 08 (รุ่นที่สอง) คนสำคัญทำงานอยู่ด้วย ผมเลยไปเยี่ยมเพื่อนคนนี้บ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ไปหัดเรียนวิธีดูภาพถ่ายทางอากาศด้วยแว่นสองตาเพื่อให้เห็นภาพเป็นสามมิติ และเรื่องอื่นในการดูแผนที่แบบต่าง ๆ แรงจูงใจหลักคืออะไร ในระยะหลังเพื่อนคงรู้ดี....อิอิ
เพื่อนเจ้าบ่าวอีกคนที่งาน มช. ก็คือ อ. บุญส่ง เป็นเพื่อนร่วมรุ่น 07 ภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ เมื่อจบแล้วเป็นอาจารย์พร้อม ๆ กัน แต่อยู่ที่ภาควิชาชีวเคมี คณะแพทย์ศาสตร์ เป็นเพื่อนสนิทที่ทำกิจกรรมสโมสรร่วมกันมาในสมัยเรียนปริญญาตรีด้วยกัน
สำหรับเพื่อนเจ้าสาวนั้น ยิ่งสนิทสนมกับเจ้าสาวมาก เพราะเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ก่อนงานแต่งก็พักอาศัยอยู่ที่แฟลตเดียวกัน รายละเอียดคงให้เจ้าตัวมาเล่าเองครับ....อิอิ
ปัจจุบันเรื่องเพื่อนเจ้าบ่าวเพื่อนเจ้าสาวดูจะไม่ค่อยมีแล้ว เนื่องจากว่าเจ้าบ่าวเจ้าสาวในปัจจุบันสนิทสนมและเก่งกันมากแล้ว ไม่ต้องมีเพื่อนก็ทำอะไรได้ถูกต้อง สมัยก่อนคาดว่าต้องมีเพื่อนเพราะกลัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก การมีเพื่อนอยู่ด้วยก็จะช่วยเหลือได้ หรือแม้แต่การรับเจ้าสาวไปบ้านเจ้าบ่าวตามประเพณีจีน ในสมัยก่อนก็จะต้องมีผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงหนึ่งคนไปด้วยเพื่อเป็นพี่เลี้ยงหรือผู้ดูแลเจ้าสาวในช่วงวันแรก
ใครมีประสบการณ์ในเรื่องนี้อย่างไร หรือมีข้อคิดเห็นอย่างไร ปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เชิญแลกเปลี่ยนครับ
เรียนอาจารย์ที่เคารพหนูคิดว่าแบบสมัยก่อนดีมากค่ะ การทำอะไรใหถูกต้องตามระเบียบนั้นถือว่าเป็นสิริมงคลและสามารถที่จะนำไปเล่าให้ลูกหลานฟังได้ วัยรุ่นสมัย35ปีก่อนตอนนั้นหนูก็อายุได้4ขวบค่ะและหนูชอบไปงานแต่งงานมากเพราะจะได้กินขนมค่ะ ปัจจุบันหนูยังไม่แต่งงานทั้งๆที่ไม่เคยเป็นเพื่อนให้เจ้าสาวเลยค่ะเพราะคนเขามักจะพูดว่าถ้าเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาวมักจะไร้คู่ค่ะอาจารย์เชื่อหรือไม่ อ้อ อีกอย่างคือหนูชอบฆ่างูทั้งงูจริงๆและในฝันค่ะสาเหตุนี้ด้วยหรือเปล่าไม่ทราบเลยทำให้ไม่ได้แต่งงานช่วยวิเคราะห์หน่อยค่ะ
โห ท่านพี่ สุดหล่อ ดร.กำลังสอง นิ
อาจารย์คะ..
สวัสดีค่ะอาจารย์
*** ดิฉันชอบดูภาพแต่งงานรุ่นเก่าๆมาก ดูได้ครั้งละนานๆ เพราะภาพแต่ละภาพล้วนมีเรื่องบอกเล่าแห่งยุคสมัย ตั้งแต่การทำผม แต่งหน้า เสื้อผ้าและรูปแบบของงาน มีสิ่งหนึ่งที่ยังไม่หายแปลกใจเลย คือ ในภาพไม่มีใครยิ้ม ดิฉันเกิด พ.ศ.2504 กลับไปดูรูปขาวดำงานแต่งงานของคุณอา สมัยเป็นเด็กดิฉันจูงมือเจ้าบ่าวขึ้นบ้าน ในงานก็ไม่ค่อยมีใครยิ้ม รูป บ่าว สาว และเพื่อนทั้งคู่ก็ไม่มีใครยิ้มค่ะ งง....
*** เจ้าสาวอาจารย์สวยงาม อิ่มเอิบมากถ้าท่านยิ้มคงสวยมากแน่เลย
*** ขอบคุณค่ะ
ยุคเปลี่ยนสมัยเปลี่ยน รายละเอียดพิธีการในงานแต่งงานก็เปลี่ยนไป ปัจจุบันมี บริษัทรับจัดให้ทั้งหมด เป็นแพคเกจสำเร็จรูป จึงเหมือนๆ กันไม่ว่าที่ไหน เมืองเล็กเมืองใหญ่ ไม่ทราบว่างานแต่งงานตามชนบท จะเปลี่ยนไปด้วยหรือเปล่า
หลักของการจัดงานแต่งงาน คือการบอกกล่าวให้ญาติ และผู้ใกล้ชิดสนิทสนมรับทราบ เป็นการให้เกียรติแก่ฝ่ายหญิง งานจะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือการปฏิบัติให้ถูกต้องทั้งพฤตินัย และนิตินัยค่ะ