ตำนานขึดล้านนาตอน"แหม่ทวาร"


ช่องทางประตู ที่มีอยู่เดิมย่อมเป็นที่รู้จักยอมรับของผู้คนทั่วไปว่าขนาดเดิมเท่าใด หากแหม่ขยายออกไปอาจทำให้เบียดบังที่ผู้อื่นหรือทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนย่อมขึดนักหนา

การสร้างบ้าน การทำช่องทางเดิน ไม่ว่าทางเดินเท้า ร่องน้ำไหลผ่าน หรือประตูบ้าน ประตูวัดวาอาราม ช่องทางดังกล่าวผู้คนล้านนาเรียกกันว่า "ทวาร"อ่านว่า "ตวาน"

คำว่าทวารในที่นี้หมายถึงช่องทางเดิน หรือร่องน้ำไหลผ่านที่ผู้คนล้านนาออกเสียงอ่านว่า   "ตวาน"  เสียงควบกล้ำตัว  ต  กับ  ว   มิใช่ทวารหนักอวัยวะที่เป็นช่องขับถ่ายของเสียหรือปล่อยก้อนขี้หลุดร่วงออกจากร่างกายนะครับ

การสร้างช่องทาง ประตูทางผ่านเข้าออก  หรือร่องทางกระแสน้ำไหลผ่านแม้ไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดความกว้างของประตูหรือทวารแต่ก็เป็นที่ยอมรับเป็นที่รับรู้ของผู้คนทั่วไปว่า  หากจะเดินไปทางใดควรจะเข้าประตูทิศทางใด  การนำสิ่งของยานพานะควรมีความใหญ่กว้างเท่าใด เพื่อสะดวกและไม่เป็นสิ่งกีดขวางคับประตูทำให้ยุ่งยากต่อการทำกิจกรรมต่างๆ

ขณะเดียวกันประตู ทวารบางแห่งอาจสร้างติดกับกำแพง สถานที่ของผู้อื่น หรือร่องน้ำที่สร้างไว้พอเหมาะดีกับความต้องการของผู้คนในสังคมเช่นการสร้างประตูบ้าน ประตูวัดหากแหม่ขยายออกไปย่อมมีผลเสียหายต่อผู้คนรอบข้าง  เพราะเมื่อแหม่ขยายออกไปแล้วอาจเลยเข้าที่ทางเบียดล้ำเกินไปในเนื้อที่ดินของผู้อื่น 

โดยเฉพาะร่องน้ำหากมีทวารหรือช่องทางผันน้ำเข้านาเข้าพื้นที่การเกษตร มีการตกลงกันระหว่างผู้ใช้น้ำว่า ทวารควรกว้างเท่าใดย่อมเป็นที่รับรู้และยอมรับกันทั่วไป  ไม่ทำให้เกิดการขัดแย้ง บาดหมางกันและกัน   ผู้คนย่อมอยู่กันอย่างเป็นสุข   แต่หากมีการแหม่ทวารหรือการขยายช่องทาง(ประตู)น้ำไหล  ทำให้กระแสน้ำไหลผิดปกติจากที่ไหลอยู่เดิมส่งผลให้ผู้อื่นเดือดร้อนอย่างนี้ถือว่าขึดเพราะแหม่ทวาร(ตวาน)

แม้ไม่มีกฏหมายกำหนดชัดเจน แต่มีคำว่า "ขึด" เป็นข้อบ่งบอกให้งดเว้นผู้คนล้านนาก็สมัครใจยอมปฏิบัติตามส่งผลให้ผู้คนในสังคมใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเป็นสุขดีแท้

 

หมายเลขบันทึก: 307540เขียนเมื่อ 21 ตุลาคม 2009 20:29 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 มิถุนายน 2012 09:43 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ไหว้สาลุงหนานพรหมมา

อ้อ มันเป็นเช่นนี้เองเนอเจ้า

เท่าที่อ่านมา เกี่ยวกับขึดในหลายๆ เรื่องที่ลุงหนานพรหมมาได้เขียนไว้ มักจะขึดตรงที่มันเกี่ยวเนื่องกับการอยู่ร่วมกันในสังคมชุมชนอย่างสันติสุข แลมีมารยาทรู้กาลเทศะนี่เอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ทุกคนเคารพกติกาในการอยู่ร่วมกัน และซื่อสัตย์ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน หากใครเห็นแก่ได้กระทำการที่เอาตัวเองเป็นใหญ่ ไม่สนใจประโยชน์ส่วนรวม หรือเห็นแก่ตัวด้วยมากกิเลสตัณหา จักนำพามาซึ่งหายนะ โดนสังคมลงโทษ แลกรรมตามสนอง

ผะหญาล้านนาเป็นเช่นนี้นี่เอง

ช่างดีล้ำเหลือเนอเจ้า

หากอนุชนรุ่นหลังถึงรุ่นปัจจุบันทุกรุ่น รวมทั้งวัยกลางคนแลวัยใกล้เฒ่าชราได้ดำรงรักษาแนวทางดำเนินชีวิตเช่นนี้ไว้ โดยเฉพาะกับการเคารพกติกาในการอยู่ร่วมกัน และซื่อสัตย์ในการใช้ทรัพยากรร่วมกัน มุ่งประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้งนั้น ย่อมทำให้สังคมสงบสุข

สังคมปัจจุบัน เป็นสังคมแห่งวัตถุนิยม ผู้คนจึงมีกิเลสตัณหานานับประการสมานกันเข้าเสมือนเป็นมะเร็งร้ายก้อนใหญ่ของชาติ กล้ากระทำการอุกอาจอย่างไร้หิริโอตตัปปะด้วยกิเลสตัณหาบังตา ลุกลามไปจนไม่รู้ว่าจักเยียวยาได้หรือไม่ แลเมื่อใดจะหายจากมะเร็งร้าย หากหมู่คนทั้งหลายดำรงชีวิตโดยใช้แนวทางวิถีพุทธ เช่น ศีล ๕ ฯลฯ และเศรษฐกิจพอเพียงอย่างที่พ่อหลวงของปวงชนได้สอนไว้ ชี้ทางไว้ ร่วมกับผะหญาล้านนาภูมิปัญญาล้านนาอันมีค่าควรเมืองมาใช้ในชีวิตประจำวัน น่าจะเป็นทางหนึ่งที่ช่วยเยียวยาให้ค่อยๆ หายจากมะเร็งร้าย แลก้อนมะเร็งร้ายคงจะค่อยๆ ลดขนาดลงไปเอง

ข้าเจ้าบ่ใช่คนเมือง หากภาษาที่ใช้ผิดหลักไปพ่อง ก็ขอสุมาเต๊อะเจ้า

ยินดีจั้ดนักเนอเจ้า สำหรับความรู้บ่ะเก่า (โบราณ) ที่ลุงหนานพรหมมานำมาเล่าสู่กันฟัง

ไหว้สาลุงหนานพรหมมาค่ะ

วันนี้โชคดี ได้อ่านเรื่องราวดีๆจากลุงหนานอีกแล้ว

"ตวาน" คำนี้สำคัญนัก

ขอบคุณค่ะ

สวัสดีครับคนต่างเมืองและคุณต้อยติ่งครับ.....

ยินดีนักๆที่เข้ามาแว่อ่านและหื้อข้อคิดในการที่จะเขียนเรื่องต่อๆไป...กึ๊ดเติงหาพวกเราจุ๊คนครับ...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน..พรหมมา

ไหว้สาอ้ายพรหมา

บ่ะได้เขียนหากั๋นจ๊าดเมินแล้ว ยังกึ๊ดเติงหาปราชญ์ล้านนาอยู่

หว่างนี้ก่อกึ๊ดล่ำต่ำสร้างตางโฮงเฮียน งานนักไปหน่อยเลยบ่ะได้เข้าอ่านเลย

เป๋นใดบ่ะออกมาแอ่วหาโฮงเฮียนพ่อง ตั้งออกไปอยู่บ้านเลี้ยงหลานนี้นา

ถ้าว่างก่อเจินกะน่อ โฮงเฮียนบ้านแม่ฮ้อยเงิน ก๋ำแป๋งข่วงผะหญาล้านาบ้านเฮา

หลายอย่าง มาแอ่วแล้วหื้อข้อแนะนำตวย สันก๋ำแปง-ดอยสะเก็ดแหมะกั๋นหั้นบ่าดายล่อ...

โฮงเฮียนก่อมีเว็ปไซต์ กึ๊ดว่าจะเขียนเกี่ยวของเมือง ๆ บ้านเฮาไว้ในคอลัมน์

แข่งกับก๋านเขียนบทความของอ้ายอี้นา หุหุ

อู้เหล้นบ่าดาย ว่าจะขออ้ายจ้วยเขียนพ่องอี้นา....จะได้ก่อหนิ...

อู้กั๋นเต้าอี้ก่อน จะไปซักผ้าจ้วยแม่หละอ่อนเหียกำก่อน..ฮิฮิ

ขอการะวะอย่างสูง

- ป้อผะญา -

สวัสดีป้ผะหญา..ครับ..

ผมบ่ได้เลี้ยงหลาน..ครับตอนนี้กำลังไปสร้างแหล่งเรียนรู้ผะหญาล้านนา  สวนชาปิ้งหินไฟที่ หน้าศูนย์ราชการ(  สพท.เชียงใหม่) ที่เหนือหัวขัว(สะพาน)ข้ามแม่ปิ้งทิศตะวันตก เหนือหมู่บ้านเอื้ออาทรฮิมขัว   ไปทางเหนือราว  300  ม. ดูที่ป้ายครับ..

เชิญหมู่เอาไปแวแอ่วครับ..ไปดื่มชาปิ้งหินไฟครับ...

จะหื้อผมจ้วยเขียนเรื่องราวก็ได้ครับ....แต่ตอนนี้กำลังเขียนหนังสือเรื่อง " โรคลมผิดเดือน"  หรือโรคอยู่ไฟไม่ได้อยู่ครับเพราะมีผู้ต้องการนำไปปฏิบัติแก้ไขปัญหาอยู่ครับ..

พวกเราคงอยู่สบายดีทุกคน...

ด้วยความปรารถนาดีจากลุงหนาน.....พรหมมา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท