สารนิพนธ์เพื่อคุณ
รัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต
สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยปทุมธานี
การพัฒนาชนบทได้รับความสำคัญในนโยบายการพัฒนาประเทศของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 1 เป็นต้นมา ภายใต้แนวคิดการพัฒนากระแสหลักที่เน้นการสร้างความทันสมัย การพัฒนาเศรษฐกิจ และความเท่าเทียมกันของประชาชนในทุกภูมิภาค รัฐบาลได้ดำเนินนโยบายการพัฒนาชนบทที่เน้นการกระจายรายได้และความเจริญสู่ชนบทและภูมิภาค อย่างต่อเนื่อง จนส่งผลให้ประเทศไทยมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับที่นานาประเทศให้การยอมรับเป็นอย่างสู่ ในสภาวการณ์ปัจจุบัน ซึ่งเกิดความถดถอยทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงขึ้นนี้จึงทำให้เกิดความเข้าใจได้ชัดเจนในแนวพระราชดำริของ "เศรษฐกิจพอเพียง" ซึ่งได้ทรงคิดและตระหนักมาช้านาน เพราะหากเราไม่ไปพึ่งพา ยึดติดอยู่กับกระแสจากภายนอกมากเกินไป จนได้ครอบงำความคิดในลักษณะดั้งเดิมแบบไทยๆไปหมด มีแต่ความทะเยอทะยานบนรากฐานที่ไม่มั่นคงเหมือนลักษณะฟองสบู่ วิกฤตเศรษฐกิจเช่นนี้อาจไม่เกิดขึ้น หรือไม่หนักหนาสาหัสจนเกิดความเดือดร้อนกันถ้วนทั่วเช่นนี้ ดังนั้น "เศรษฐกิจพอเพียง" จึงได้สื่อความหมาย ความสำคัญในฐานะเป็นหลักการสังคมที่พึงยึดถือ เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเศรษฐกิจที่พอเพียงกับตัวเอง ทำให้อยู่ได้ ไม่ต้องเดือดร้อน มีสิ่งจำเป็นที่ทำได้โดยตัวเองไม่ต้องแข่งขันกับใคร และมีเหลือเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ไม่มี อันนำไปสู่การแลกเปลี่ยนในชุมชน และขยายไปจนสามารถที่จะเป็นสินค้าส่งออก
บนพื้นฐานของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานให้เป็นแนวทางสำคัญต่อการดำเนินชีวิตของประชาชนชาวไทย และเป็นหลักปรัชญานำทางในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545 - 2549) จะเห็นว่าการกระจายโอกาสที่เท่าเทียมกันของคุณภาพชีวิตประชาชนโดยกลยุทธ์การยึดคนในพื้นที่เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาภายใต้กระบวนการมีส่วนร่วมที่มีฐานรากมาจากรากฐานความเข้มแข็งของชุมชนทั้งในชนบทและในเมือง (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, ร่างแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 9 พ.ศ. 2545 - 2549 หน้า 46) ในภาคยุทธศาสตร์การปรับ
โครงสร้างการพัฒนาชนบทและเมืองอย่างยั่งยืน มีเป้าหมายสำคัญ คือ การลดสัดส่วนคนยากจนของประเทศให้ อยู่ในระดับไม่เกินร้อยละ 10 ของประชากรรวมในปี 2549 และเพิ่มความเข้มแข็งของชุมชนและประชาชนในระดับต่าง ๆ ให้มีความมั่นคงทางสังคมทางวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ รวมทั้งมีระบบบริหารจัดการของชุมชนที่ดีให้ครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศภายในปี 2549 (สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, 2544, เรื่องเดิมหน้า 7)
การพัฒนาประเทศในช่วงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550 - 2554) ยังคงอัญเชิญ “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักปฏิบัติในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ และยึดกระบวนทรรศน์การพัฒนาแบบบูรณาการเป็นองค์รวมที่มี“คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา” ต่อเนื่องจากแผนแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 9 (พ.ศ. 2545 - 2549) วิสัยทัศน์การพัฒนาประเทศ มุ่งพัฒนาประเทศไทยสู่ “สังคมที่มีความสุขอย่างยั่งยืน (green and happiness society)” โดยคนไทยมีความรู้คู่คุณธรรม รู้เท่าทันโลก เป็นคนดี มีวินัยและรับผิดชอบ มีความภูมิใจสามารถสืบทอดวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย ชุมชนและสถาบันสังคมมีความเข้มแข็ง อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและเกื้อกูลภายใต้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และความหลากหลายทางทรัพยากรธรรมชาติ มีระบบเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ สามารถพึ่งตนเองและแข่งขันได้ รวมทั้งมีการกระจายการพัฒนาที่เป็นธรรม อยู่ภายใต้ระบบบริหารจัดการประเทศที่โปร่งใส เป็นธรรม และทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม อันจะเป็นรากฐานการพัฒนาประเทศที่สมดุล และสร้างความสุขอย่างยั่งยืนโดยมีพันธกิจของการพัฒนาประเทศ ดังนี้ (1) พัฒนาคุณภาพคนในชาติให้มีความรอบรู้คู่คุณธรรมและสร้างสังคมฐานความรู้ให้เป็นภูมิคุ้มกัน พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง (2) เสริมสร้างความเท่าเทียมและความเข้มแข็งของชุมชนและสังคม รวมพลังเป็นเครือข่ายการพัฒนาชุมชนให้เข้มแข็ง มุ่งคงความหลากหลายทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทยและความหลากหลายทางชีวภาพให้เป็นฐานที่มั่นคงในการดำรงวิถีชีวิตและการพึ่งตนเองขณะเดียวกันสร้างสังคมที่เป็นธรรม คนในชาติมีความเสมอภาคในสิทธิและเสรีภาพ (3) ปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจให้แข็งแกร่ง มั่นคง แข่งขันได้และเป็นธรรม ที่เน้นการพึ่งตนเอง ลดการพึ่งพาจากภายนอก มีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี มีคุณภาพ แข่งขันได้มีเสถียรภาพและมีการกระจายการพัฒนาอย่างเป็นธรรม เป็นการปรับโครงสร้างการผลิตระหว่างภาคเกษตร อุตสาหกรรมและบริการสู่การผลิตบนฐานความรู้ ที่เน้นกระบวนการผลิตที่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เหมาะสม มีการพัฒนาต่อยอดและประยุกต์ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าเพิ่ม ควบคู่กับการพัฒนาปัจจัยสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์ พลังงาน องค์ความรู้และกลไกที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพและสร้างภูมิคุ้มกันของเศรษฐกิจฐานรากเพื่อกระจายความเจริญและรายได้ (4) พัฒนาระบบบริหารจัดการประเทศให้เกิดธรรมาภิบาลในทุกระดับมีการกระจายอำนาจ เสริมสร้างประชาธิปไตย บริหารจัดการด้วยความโปร่งใส รับผิดชอบต่อสาธารณะยุติธรรม มีกลไกและกฎระเบียบที่เอื้อต่อการพัฒนาที่สร้างความเป็นธรรมในสังคม และเพิ่มบทบาทการมีส่วนร่วมพัฒนาของคนส่วนใหญ่ในชาติทุกระดับ นำไปสู่สังคมที่มีความสุขบนรากฐานการพัฒนาอย่างมีส่วนร่วมที่สมดุลและยั่งยืน
ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาชี้ถึงแนวการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชุมชน จนถึงระดับรัฐทั้งในการพัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจเพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัฒน์ความพอเพียง หมายถึง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็น ที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีพอสมควร ต่อการมีผลกระทบใด ๆ อันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงทั้งภายนอกและภายใน ทั้งนี้ จะต้องอาศัยความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำวิชาการต่างๆ มาใช้ในการวางแผนและการดำเนินการทุกขั้นตอน และขณะเดียวกันจะต้องเสริมสร้างพื้นฐานจิตใจของคนในชาติ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักทฤษฎี และนักธุรกิจในทุกระดับ ให้มีสำนึกในคุณธรรมความซื่อสัตย์สุจริต และให้มีความรอบรู้ที่เหมาะสม ดำเนินชีวิตด้วยความอดทน ความเพียร มีสติ ปัญญาและความรอบคอบ เพื่อให้สมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมจากโลกภายนอกได้เป็นอย่างดี
สามห่วง สองเงื่อน สามเป้า
- ห่วงที่1 ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดี ที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไปโดยไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เช่นการผลิตและการบริโภคที่อยู่ในระบบพอประมาณ
- ห่วงที่2 ความมีเหตุผล หมายถึง การตัดสินใจเกี่ยวกับระดับของความพอเพียงนั้น จะต้องเป็นไปอย่างมีเหตุผลโดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้องตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการกระทำนั้น ๆ อย่างรอบคอบ
- ห่วงที่3 การมีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัว หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงด้านต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นโดยคำนึงถึงความเป็นไปได้ของสถานการณ์ต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งใกล้และไกล
- เงื่อนที่1 เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วยความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้าน ความรอบคอบ ที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกันเพื่อประกอบการวางแผนและความระมัดระวังในขั้นปฏิบัติ
- เงื่อนที่2 เงื่อนไขคุณธรรม จะต้องเสริมสร้างประกอบด้วยมีความตระหนักในคุณธรรม มีความซื่อสัตย์ สุจริต มีความอดทน มีความเพียรใช้ สติปัญญาในการดำเนินชีวิต
นำสู่
ชีวิต/เศรษฐกิจ/สังคม
เป้าที่1 สมดุล/เป้าที่2 มั่นคง/และเป้าที่3ยั่งยืน
ภาพการฝึกอบรมที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งบัว
เทคนิคการจำ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามห่วง สองเงื่อน สามเป้า ได้มาจาก ท่านผศ.ดร.ธันวา จิตต์สงวน ที่มหาวิทยาลัยปทุมธานี และการอบรมพนักงานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เมื่อได้ทำสารนิพนธ์แล้วตัวผมเองคิดว่าตัวเองอยู่แค่ในระดับขั้น การจดจำเพื่อนำไปปฎิบัติ ซึ้งเมื่อได้ศึกษาต่อเนื่องอย่างลึกซึ้งแล้วจะนำไปเผยแพร่ต่อไป
ทาง รพ.อุบลรัตน์ ก็เน้น ส่งเสริม ความพอเพียงเช่นกัน
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมครับ
ตรางการบรรยายและฝึกอบรม งานเกษตรกำแพงแสน 3-10 ธันวาคม 2552 โดยสถาบันวิจัยและพัฒนากำแพงแสน (ไม่เสียค่าใช้จ่าย)
เสริมสร้างงานวิจัย
ใส่ใจบริการ
ประสานความคิด
มุ่งผลผลิตสู่ชุมชน
3ธ.ค.52
10.00-10.20 การเพาะและดูแลกล้าผัก
10.25-10.45การผลิวัสดุปลูกไม้ประดับ
14.00-14.20อ้อยคั้นน้ำพันธุ์กำแพงแสน
14.25-14.45การทำน้ำตาลงบจากน้ำอ้อย
4ธ.ค.52
10.00-10.20ละมุดย้อยสีธรรมชาติ
10.25-10.45เทคนิคการยืดอายุดอกไม้ในแจกัน
14.00-14.20เทคนิคการขายพันธุ์มะนาวเชิงการค้า
14.25-14.45เทคนิคการผลิตมะนาวนอกฤดู
5ธ.ค.52
10.00-10.20เทคนิคการขายพันธุ์มะนาวเชิงการค้า
10.25-10.45เทคนิคการผลิตมะนาวนอกฤดู
10.50-11.10เทคนิคการเก็บรักษามะนาวให้ได้2เดือน
13.30-14.30พิมเสนน้ำและยาหม่อง ทำเองได้ง่ายจัง
14.35-15.05การ์ดน่ารักจากใยหนอน
15.10-15.30การผลิตวัสดุปลูกไม้ประดับ
6ธ.ค.52
10.00.00-10.20การเก็บและจัดการเมล็ดพันธุ์ในครัวเรือน
10.25-10.45การเพาะและดูแลกล้าผัก
10.50-11.10การปลูกและดูแลผักกระถาง
13.3.-14.30พิมเสนน้ำและยาหม่อง ทำเองได้ง่ายจัง
14.35-14.55สายพันธุ์ต้นไม้กินแมลงในประเทศไทย
15.00-15.20การปลูกเลี้ยงไม้กินแมลง
7ธ.ค.52
10.00-10.20เทคนิคการขายพันธุ์มะนาวเชิงการค้า
10.25-10.45เทคนิคการผลิตมะนาวนอกฤดู
10.50-11.10เทคนิคการเก็บรักษามะนาวให้ได้2เดือน
13.3.-14.00การ์ดน่ารักจากใยหนอน
14.05-14.35สอนน้องพับหนอน
14.40-15.10การทำปุ๋ยหมักชีวภาพจากเศษวัสดุเหลือใช้
8ธ.ค.52
10.00-10.20การผลิตวัสดุปลูกไม้ประดับ
10.25-10.45การปลูกและดูแลผักกระถาง
14.00-14.20อ้อยคั้นน้ำพันธุ์กำแพงแสน
14.25-14.45การทำน้ำตาลงบจากน้ำอ้อย
9ธ.ค.52
10.00-10.20ละมุดย้อมมีธรรมชาติ
10.25-10.45เทคนิคการยืดอายุดอกไม้ในแจกัน
14.00-14.20การปลูกกล้วยจากต้นเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ
14.25-14.45การปลูกและดูแลผักกระถาง
10ธ.ค.52
10.00-10.20เทคนิคการเก็บมะนาวให้ได้2เดือน
10.25-10.45สายพันธุ์ต้นไม้กินแมลงในประเทศไทย
10.50-11.10การปลูกเลี้ยงไม้กินแมลง
14.00-14.20การเก็บและจัดการเมล็ดพันธุ์เพื่อใช้ในครัวเรือน
14.25-14.55สอนน้องพับหนอน
เพื่อสะดวกต่อการเตรียมสถานที่หากเข้าอบรมเป็นหมู่คณะโปรดแจ้งชื่อ สถาบัน/โรงเรียน/หน่วยงานและจำนวนผู้เข้าอบรม มายังคุณยุพิน อ่อนศิริ โทรศัพท์/โทรสาร 034 355368 ภายในวันที่ 30 พ.ย. 52
ร