ถ้าคุณมีปัญหาการใช้คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องพิมพ์
ลองตรวจสอบปัญหาจากหัวข้อเหล่านี้ก่อน ไม่แน่น่ะ
ท่านอาจพบวิธีการแก้ไขด้วยตนเอง
ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่เกิดจากประสบการณ์ในการใช้คอมพิวเตอร์โดยตรง
ซึ่งพอสรุปปัญหาได้ 2 ลักษณะ คือ ปัญหาที่เกิดจาก Software
และปัญหาที่เกิดจาก Hardware
ปัญหาจาก Software
แบ่งได้ 4 ลักษณะ
1. ปัญหาจาก Operating System
Windows
ปัญหานี้ส่วนใหญ่มาจากการติดตั้งโปรแกรมใหม่ ๆ หรือการ uninstall
โปรแกรมแล้วทำให้ file บางไฟล์หายไป วิธีแก้ไขง่าย ๆ คือการติดตั้ง
Windows ทับเข้าไปใหม่ (ช่างส่วนใหญ่แนะนำกันต่อ ๆ มา)
ไม่ต้องกลัวน่ะครับว่าโปรแกรมที่มีอยู่ก่อนแล้วจะหายไป...
ไม่หายครับและก็ไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรมอื่น ๆ ใหม่ด้วย
แต่ควรเตรียมแผ่น drive ของ การ์ดจอ ซาว์นการ์ด
ไว้ให้พร้อมก็จะดี
2. ปัญหาจาก Application
เช่น
โปรแกรมการใช้งานต่าง ๆ ได้ Microsoft Word, Excel, internet Explorer
มีหลักคล้าย ๆ กัน คือให้ติดตั้งโปรแกรมทับเข้าไปใหม่
แต่ผมแนะนำว่าให้ลองปิดโปรแกรมทั้งหมด แล้ว Restart
ใหม่จะดีกว่า
อีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือ โปรแกรมบางตัวอาจไม่ support
การใช้งานบาง OS ดังนั้น อาจจำเป็นต้องมีการถอดการติดตั้งออก
หรือที่เรียกว่า uninstall
(ส่วนใหญ่โปรแกรมที่เราติดตั้งจะมีมาให้ด้วย) ถ้าไม่มีลองเข้าไปที่
Control Panel เลือก Add/Remove Program
3. ปัญหาจาก ไวรัส
ปัญหานี้อาจพบอาการแปลก ๆ
เช่น เปิดโปรแกรมไม่ได้, มีหน้าต่างแปลก ๆ แสดงขึ้นมากที่หน้าจอ
การแก้ไขก็ลองตรวจสอบโดยใช้โปรแกรมเช็คไวรัสดู เช่น Norton Antivirus
(ทางเราก็ใช้โปรแกรมตัวนี้) เป็นต้น
หรือถ้าคุณยังไม่มีโปรแกรมตรวจสอบและกำจัดไวรัส
สามารถทดลองเช็คไวรัสผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ฟรี
4. ปัญหาจากผู้ใช้งาน
ตัวอย่างเช่น กดปุ่ม
Scroll Lock แล้วหน้าจอเลื่อนทั้งหน้า (Microsoft Excel)...
เรื่องปกติครับ ไม่มีใครทุกคนที่จะสามารถใช้โปรแกรมได้เก่งทุกอย่าง
บางครั้งก็มีพลั้งเผลอบ้าง
เรื่องนี้คงต้องแก้ไขโดยการซื้อหนังสือมาอ่าน
ปัญหาจาก Hardware และการตรวจสอบ
แก้ไข
ปัญหาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ภายใน
-
Disk Drive
อ่านข้อมูลไม่ได้ - ให้แก้ไขโดยซื้อแผ่นทำความสะอาด + น้ำยา
มาล้างก็จะสามารถแก้ไขได้
-
CD-Rom Drive
อ่านข้อมูลไม่ได้ - สาเหตุมาจากฝ่นที่เกาะอยู่
ให้ซื้อแผ่นทำความสะอาดสำหรับ CD-Rom และสาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือ
แผ่นที่อ่าน อาจมีปัญหามาจากการบันทึก ถ้าเป็นไปได้
ให้ทดสอบโดยนำแผ่นไปอ่าน CD-ROM Drive เครื่องอื่น ๆ ดู (ความเร็ว
CD-ROM ถ้าต่ำกว่า 24x มักจะมีปัญหาในการอ่าน)
-
RAM - Memory
หน่วยความจำ ปัจจุบันมีราคาถูกลงมาก อย่างไรก็ตามปัญหาที่พบเกี่ยวกับ
Ram คือการไม่สัมพันธ์ระหว่างแรมเก่า กับแรมใหม่ หมายความว่า
การเพิ่มแรมควรใช้ยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกัน และขนาดเท่ากันจะดีกว่า
ทั้งนี้คงขึ้นกับเมนบอร์ดแต่ละรุ่นด้วย
-
Harddisk
ทำงานช้าลง - ส่วนใหญ่มาจากพื้นที่ว่างใน harddisk ไม่มากพอ
สำหรับผู้ใช้วินโดวส์ 95, 98 ควรมีพื้นที่เหลืออย่างน้อยสัก 500 MB
การแก้ไข ควรทำ Disk Cleanup (ทำทุกวัน) ตามด้วย Scandisk (ทำทุกวัน)
และ Disk Defragment (ทำทุกเดือน)
-
Power Supply
ไฟไม่เข้า - ลองขยับปลั๊กดูก่อน ปัญหานี้เกิดบ่อยมาก
นอกจากนี้อาจเป็นที่ฟิลล์ขาด ให้หามาเปลี่ยน แต่ถ้าเสียแล้ว
ไม่แนะนำให้ซ่อม ซื้อตัวใหม่เลยดีกว่า ส่วนเรื่องการป้องกันปัญหาคือ
ให้หาเครื่องเป่า มาเป่าอย่างน้อย 3 เดือนครั้ง
ขึ้นกับห้องที่ติดตั้งเครื่องคอมฯ ว่ามีฝุ่นมากน้อยเพียงใด
-
Mouse
เม้าส์เลื่อนสะดุด - ปัญหานี้แก้ไขง่าย และมักเป็นกันบ่อย ๆ
หลังจากใช้งานไปได้สักพัก สาเหตุคือการไม่ค่อยนิยมใช้แผ่นรองเม้าส์
ทำให้ฝุ่นจากพื้นเข้าเกาะติดได้ง่าย สำหรับการแก้ไข คือ ให้หงายเม้าส์
แกะตัวล็อก นำลูกกลิ้งด้านหลังออก จากนั้นให้ดูในช่องด้านใน
จะเห็นมีฝุ่นเกาะเป็นคราบอยู่ ให้ใช้แอลกอฮอล์ เช็ดทำความสะอาด
-
Monitor
ปัญหาที่พบเช่น สีเพี้ยน ให้ลองถอดสายสัญญาณของจอออภ แล้วเสียบใหม่
หรือจอภาพมีแต่สีขาวดำ ทั้ง ๆ ที่เป็นจอสี ให้ถอดสายสัญญาณของจอ
และดูว่าเข็มใดงอหรือไม่ ให้แก้ไข และลองเสียบใหม่
ปัญหาเครื่องพิมพ์
1. เครื่องพิมพ์ชนิดหัวเข็ม (Dot
matrix)
- พิมพ์ติดขัดเป็นประจำ
ปัญหาที่พบส่วนใหญ่มีเศษกระดาษ ผงกระดาษ หรือ Clip ตกลงไป
ให้ถอดมาทำความสะอาด และอีกหนึ่งที่มีปัญหาบ่อยคือ
แผงกั้นระหว่างหัวพิมพ์กับกระดาษอาจชำรุด ให้หาซื้อมาเปลี่ยนเอง
(จะได้ราคาถูกกว่า ไม่เสียค่าแรงด้วย)
- สีจางมาก ทั้ง ๆ ที่เปลี่ยนตลับผ้าหมึกใหม่
เรื่องนี้ผมก็พบบ่อยเหมือนกัน ปัญหานี้แก้ไขโดยการเลื่อนคันโยน
ปรับตำแหน่งของการพิมพ์ให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง (เช่น หมายเลข 0-1
สำหรับการพิมพ์กระดาษ 1 แผ่น, หมายเลข 2-3 กระดาษมีสำเนา 2 แผ่น
เป็นต้น)
- พิมพ์กระดาษต่อเนื่อง แล้วไม่เลื่อน
ตรวจสอบคันโยกว่าปรับในตำแหน่งใด ปกติจะมี 2 ตำแหน่งคือ แบบกระดาษ 1
แผ่น และแบบกระดาษต่อเนื่อง
- หัวเข็มหัก (คงต้องส่งซ่อม)
สาเหตุที่พบมากคือ ปรับความใกล้ไกลเวลาพิมพ์กระดาษที่มีความหนาต่าง ๆ
ไม่ถูกต้อง ลองศึกษาจากคู่มือดู และอีกอย่างหนึ่งผ้าหมึกถ้าจางแล้ว
ให้รีบเปลี่ยน อย่าฝืนใช้ เพราะจะทำให้หัวเข็มชำรุดได้ง่าย
2. เครื่องพิมพ์พ่นหมึก (Inkjet)
- พิมพ์ไม่ออก ไม่มีสี
ปัญหาจากการอุดตันของตัวตลับหมึก
ควรเลือกซื้อเครื่องที่หัวพ่นหมึกอยู่ในตลับหมึกจะดีกว่า
เวลาเปลี่ยนจะได้เปลี่ยนพร้อมกันไป (ราคาจะแพงกว่าสักนิด)
สำหรับวิธีป้องกันปัญหาได้บ้างคือ หลังจากมีการเปลี่ยนตลับหมึกแล้ว
ควรใช้ให้หมด ไม่ควรถอดออกมาเพราะทำให้อุดตัน สำหรับการทดสอบ แก้ไข
ให้ลองล้างหัวเข็ม ผ่านคำสั่งในโปรแกรม หรือผ่านทางเครื่องพิมพ์โดยตรง
(คงต้องอ่านคู่มือดูแต่ละรุ่นอีกที)
- พิมพ์ออกมาสีเพี้ยน
หมึกหมดครับ สีใดสีหนึ่งอาจหมด ทำให้สีที่ผสมออกมาไม่สมบูรณ
การแก้ไขให้เปลี่ยนตลับหมึก Inkjet
บางรุ่นสามารถเปลี่ยนตลับสีแยกเป็นสี ๆ ได้ด้วย
ช่วยให้ประหยัดเงินได้มากขึ้น
แต่ถ้าไม่ใช่เพราะคุณเพิ่งเปลี่ยนตลับหมึก
ให้ทดสอบโดยใช้วิธีการล้างหัวเข็ม อาจล้างผ่านคำสั่งในโปรแกรม
หรือผ่านทางเครื่องพิมพ์โดยตรง
(คงต้องอ่านคู่มือดูแต่ละรุ่นอีกที)
- ไม่ดูดกระดาษหรือติดบ่อย ๆ
ปัญหาส่วนหนึ่งมาจากใช้กระดาษหนาเกินไปพิมพ์ ทำให้เครื่องหลวม
ควรหลีกเลี่ยง และสาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือ แผ่นเหล็กที่กั้นกระดาษ
หรือตัวช่วยเลื่อนกระดาษหัก หรืองอ ให้ลองตรวจสอบดู
(แล้วแต่รุ่น)
3. เครื่องพิมพ์เลเซอร์ (Laser)
- พิมพ์ไม่ออก สีจาง
ปัญหาอย่างหนึ่งคือ ผงหมึกไม่อยู่ในแนวราบ ให้เอาตลับมาเขย่า ๆ
(แนวราบ) อ้อ! ถ้าเป็นตลับใหม่ อย่าลืม
ดึงแผ่นพลาสติกที่กั้นผงหมึกไว้ด้วย มิฉะนั้น อาจพิมพ์ไม่ติดเลย
- พิมพ์ยังไม่ก็ไม่ออก
สาเหตุอาจมาจากกระดาษติดครับ ผมบ่อยมากถึงมากที่สุด..
ให้ลองถอดตลับผงหมึกออกมา สังเกตว่ามีกระดาษติดหรือไม่
ถ้ามีให้ระวังเรื่องการดึงกระดาษ
โดยดูจากคู่มือเรื่องทางเดินของกระดาษ
ให้ถึงไปตามเส้นทางของทางเดินกระดาษ
ฟันเฟืองของเครื่องพิมพ์จะได้ไม่หัก (เฟืองแต่ละตัว
ราคาค่อนข้างแพงครับ)
- พิมพ์แล้วสกปรก มีลายเส้น
ตัวลูกกลิ้งสกปรก ให้เปิดเครื่อง เอาตลับผงหมึกออก
และทำความสะอาดลูกกลิ้งดู
สาเหตุอีกอย่างหนึ่งคือตัวตลับไม่ได้มาตราฐาน
(อาจเกิดจากตลับทีมีการนำมาใช้ใหม่) ควรตรวจเช็คดูก่อน
นอกเหนือจากที่กล่าวข้างต้นแล้ว
การตรวจสอบปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์อีกวิธีหนึ่งที่ค่อนข้างง่ายและมีประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่น่าพอใจคือ
การใช้โปรแกรมตรวจสอบปัญหา เช่น Norton Utilities หรือ First Aid
เป็นต้น เพียงแค่ติดตั้งโปรแกรมเหล่านี้ จากนั้น run โปรแกรมดู
(เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มี Brand ดีๆ
อาจมีโปรแกรมตรวจสอบปัญหาแถมมาให้ด้วย)