ข่าว...กับอารมณ์ที่เปลี่ยนไป
วันนี้หลังจากค้นคว้า และศึกษาเกี่ยวกับงานที่ตนเองต้องทำ ก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยเมื่อยล้า และเป็นหลายวันที่ไม่ได้ฟังข่าวทางโทรทัศน์อย่างจริงจัง ดังนั้นจึงวางมือจากงาน และพักรับประทานอาหาร พร้อมกับดูข่าวทางโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ตามธรรมดาก็เป็นคนชอบดูข่าว แต่มีอยู่หลายช่วง ที่ข่าวบางช่วงนำเสนอข่าวบางอย่าง จนทำให้รู้สึกเครียด ซึ่งคิดว่าเครือข่ายทุกท่านก็คงมีประสบการณ์เช่นนี้ และท่านพอจะทราบว่าเกิดจากอะไร แต่อยากให้ท่านลองมาอ่านประสบการณ์ของผู้เขียนบ้าง
หลังจากที่รู้สึกเครียดกับการฟังข่าวก่อนไปทำงาน เป็นอยู่ช่วงหนึ่ง จึงค้นหาหลักฐานว่า ข่าวก็สามารถทำให้เกิดอารมณ์ที่ไม่พึงประสงค์ และเป็นอารมณ์ค้าง (Moody) ได้จริงหรือไม่ ก็ไปพบงานวิจัยหลายเรื่อง ซึ่งก็อธิบายตรงกัน และเป็นอย่างที่ข้าพเจ้าคิดจริงๆ และสอดคล้องกับการที่ผู้เขียนไปปฎิบัติธรรม โดยการไปเป็นชีพรามหณ์ ที่วัดหนองป่าพง (หลวงปู่ชา:วัดป่าสายปฏิบัติ) จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อปี พ.ศ.2543 เป็นเวลาเกือบ 2 เดือน ซึงที่นั่นก็ห้ามไม่ให้บริโภคสื่อที่ไม่เหมาะสม หรือบริโภคสื่อเท่าที่จำเป็น เนื่องจากทำให้จิตไม่ฟุ้งซ่าน ตั้งแต่นั้นมาผู้เขียนจึงเลือกที่จะดูเฉพาะบางข่าว หรือที่ท่านอาจจะรู้จักกันดีคือ การบริโภคข่าวสารด้วยจิตปัญญา
วันนี้ดูข่าวไปก็รู้สึกดีใจที่คนไทยรักและเทอดทูนในหลวง ไปลงนามถวายพระพรกันมากมาย ส่วนข้าพเจ้าถึงแม้ไม่ได้ไป ก็ไปทำบุญที่วัดมาสองอาทิตย์แล้ว ถึงแม้จะมีงานยุ่ง ต้องนอนเกือบตีสองทุกคืน (สังฆทาน ข้าวสาร และอาหารแห้ง) นอกจากนั้นยังสวดมนต์และแผ่เมตตาถวายเป็นพระราชกุศลเสมอ อย่างเช่น ช่วงที่เหนื่อยล้าจากการทำงาน ก็จะพัก และอาศัยเวลานี้ทำสมาธิสั้น ๆ
ต่อมาก็ได้ดูข่าวนักมวยไทยที่ชื่อซาไก และข่าวเกี่ยวกับตำรวจไทย เนื่องจากวันนี้เป็นวันตำรวจไทย ก็รู้สึกจิตตก รู้สึกเสียใจ ที่พบว่า ตำรวจไทยเสียชีวิตทุกวัน ทั้งนี้ตำรวจที่ดีก็มีอยู่มาก อย่างเช่น ผู้กองแคน กับหมวดตี้ ที่ผู้เขียนศึกษาชีวประวัติของท่านเสมอ ทั้งจากหนังสือ และในอินเตอร์เนต และนำท่านทั้งสองมาเป็นแบบ อย่างในการดำเนินชีวิต
ส่วนนักมวยที่ชื่อซาไก ก็ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนักมวยผู้นี้ด้วย หลายท่านอาจแปลกใจว่า ทำไม ข้าพเจ้าต้องรู้สึกรู้สาอะไรด้วย มันไม่แปลกเลย เพราะผู้เขียน ได้ทำวิจัยเล็ก ๆ เรื่องหนี่ง คือ เรื่อง เส้นทางนักมวยไทยอาชีพ โดยใช้เทคนิควิจัยเชิงคุณภาพ จึงทำให้รู้สึกและเข้าใจเกี่ยวกับบุคคลเหล่านี้พอสมควร
ที่เล่ามาทั้งหมด เพื่ออยากจะสื่อสารกับเครือข่ายว่า ควรเลือกเวลา และสาระของข่าวที่เราจะรับรู้ เพราะข่าวทั้งหลายมีผลต่อการคิดและความรู้สึกของเราเป็นอย่างมาก สุดท้ายนี้ขอบคุณที่ท่านสนใจและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ด้วยรักและจริงใจ
ปัญญฎา ประดิษฐบาทุกา
เห็นด้วยครับอาจารย์ ในช่วงที่เราเครียดหรืออ่อนล้ากับการทำงาน การบริโภคสื่อหรือข่าวสารที่ส่งผลให้เกิดความเสียใจ สะเทือนใจ หรือก่อให้เกิดความไม่สบายใจ ย่อมส่งผลกระทบให้ความเครียดของเราสูงขึ้น ฉะนั้นเวลาเครียดต้องการจะพักหากต้องการบริโภคสื่อก็ควรเป็นประเภทสื่อบันเทิงน่าจะดีกว่า
ความคิดเห็นครับ
ข่าวยังคงเดินทาง ตามเส้นทางของมืออาชีพบ้าง หรือไม่ก็ไม่ และเราก็มืออาชีพในเส้นทางหนึ่ง คงต้องมองช่องจราจร ไม่แวะเวียนจับจ้องมองบางสิ่งข้างถุนนในยามขับรถ อาจจะเห็นบ้างแวบๆ ก็ไม่คิดใส่ใจ รถแห่งชีวิตครับ
เบาบางมากเรื่องเกาะติดข่าวสารหลากสีมานานแล้ว ทีวีก็งด แม้ไม่สิ้นเชิง แต่น้อยมาก เวลาคืนกลับมา เป็นรายจ่ายเพื่อรายได้ของชีวิตที่ไม่ใช่ตัวเงิน อยู่ในสวนปลูกผักสวนครัว ปลูกดอกไม้ มือเปื้อนดิน ปุ๋ย เหงื่อครับ สดชื่นผ่อนคลาย มีเพื่อนเล่าข่าวอะไรให้ฟังบ้าง ที่เพื่อนอาจจะหนวกหูเสียงตูมตามของคนตกข่าวอย่างเราครับ น้ำใสใจจริงเขย่าหรือนิ่งย่อมไม่เกี่ยวข้องอะไรกับตะกอนครับ
คนที่อ่านเรื่องเครียดๆ ไม่ใช่คนเครียด ลองๆ มองกลับด้านดูนิดๆ จะเห็นคนอ่านเรื่องตลกเบาสมองหรือภาคบันเทิงพื้นฐานเดิมเป็นคนเครียด (เหตุและผลคือสิ่งตรงกันข้ามและแตกต่างเป็นเบื้องหลังซึ่งกันและกันเสมอ) อย่างไรก็ขอเป็นกำลังใจให้ทั้งคนที่เครียดอยู่แล้ว คนที่กำลังจะหายเครียดและคนที่หายเครียดแล้ว ทุก ๆ คนครับ
ขอบคุณมากที่คุณเข้าใจว่า ผู้เขียนต้องการสื่อสารว่า อารมณ์ของมนุษย์นั้นเกิดจากการรับรู้สิ่งเร้า ในที่นี้ก็คือ การสัมผัสจากการดูข่าว ได้แก่ ใช้ตามอง กับหูฟัง เนื้อหาทั้งหมดของข่าว ซึ่งจะมีผลต่อารมณ์ของมนุษย์ และส่งผลให้เกิดความเครียดคะ
สุดท้ายนี้ คุณมีคุณสมบัติของการเป็นผู้เก็บข้อมูลได้ดีในระดับหนึ่งเลยนะคะ และมีทักษะในการอ่านได้ดี
ด้วยความรักและจริงใจ
เรียน คุณ ทิง..นองนอย
ฮาๆๆ..อ่านแล้วได้อารมณ์ขันดีคะ...และสัมผัสถึงธรรมชาติ
สุดท้ายขอย้ำว่า บทความของผู้เขียนต้องการสื่อว่า การรับรู้ข่าว ทำให้อารมณ์ของเราเปลี่ยนไปได้ และสามารถทำให้เราเกิดอารมณ์ค้าง ซึ่งอาจเป็นบ่อเกิดของปัญญาอื่น ๆ ที่ตามมาได้ เช่น ความเครียด ความขัดแย้ง
ด้วยรักและจริงใจ
เรียน คุณ Piak
ในบทความไม่มีตอนไหนเลย ที่สื่อสารให้เกิดความเข้าใจอย่างที่คุณนำเสนอนะคะ แต่ขอขอบคุณมากๆ ที่แลกเปลี่ยนคะ
สุดท้ายขอย้ำว่า บทความของผู้เขียนต้องการสื่อว่า การรับรู้ข่าว ทำให้อารมณ์ของเราเปลี่ยนไปได้ และสามารถทำให้เราเกิดอารมณ์ค้าง ซึ่งอาจเป็นบ่อเกิดของปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมาได้ เช่น ความเครียด ความขัดแย้ง
ด้วยรักและจริงใจ
ความรู้สึกของมนุษย์ช่างเป็นเรื่องน่าแปลก มีทั้งดีใจ เสียใจ ฯลฯ มีความรู้สึกว่ามันจัดการยากมากที่จะควบคุม....
อย่างว่า...ทำอย่างไรได้ปัจจุบัน สื่อ ของสังคมไทย รวมทั้ง พฤติกรรมของมนุษย์เอง ที่ส่งผลให้เป็นปัญหาที่แก้ไม่หาย
แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งที่ดีในระดับนึง ที่รู้ว่าสังคม ณ ปัจจุบันเป็นอย่างไร
ขอบคุณทุกคนที่แลกเปลี่ยน..ณ เหตุการณ์ของบ้านเราในช่วงนี้ ขอให้คนที่แวะผ่านมาโปรดเสียสละเวลาดูคลิปสักประเดี๋ยว
สวัสดีครับ
☺ อ่านแล้วได้ข้อคิดมาก เพราะช่วงหลังชมข่าวทางทีวีบางช่องที่เคยนิยมชมชอบ
แต่ความรู้สึกดี ๆ เปลี่ยนไป เพราะพิธีกรก้าวร้าว อหังการ์เกินไป จึงมักเปลี่ยนไปดูช่อง
อื่นบ่อย ๆ ครับ
☺ อยากทราบว่า "ประดิษฐ์บาทุกา" เกี่ยวกับเรื่องในหลวง รัชกาลที่ 5 ที่เคยได้ยินได้
ฟังมาไหมครับ....ขออภัยหากเป็นการละลาบละล้วง นะครับ
☺ ขอบคุณ ครับผม
เรียน คุณaugustman
ไม่แน่ใจว่าได้ยินเรื่องอะไรมา เลยไม่สามารถตอบได้คะ แต่นามสกุล "ประดิษฐบาทุกา" ที่ไปคัดมาจากสำนัก ต้องไม่มีตัวการันต์คะ เป็นนามสกุลพระราชทานจากรัชกาลที่ 6 คะ สามารถไปอ่านได้ในบันทึก เทอดไท้องค์ราชัณย์ คะ
ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนนะคะ
ด้วยความรักและความจริงใจ
ถึง หนู aor air
ดีใจนะที่เป้นผู้ใฝ่รู้ และขอบคุณมาก ๆ ที่หนูจะเป็นครูที่ดีในอนาคต...รักและคิดถึงหนู และเพื่อน ๆ เสมอ และช่วยบอกให้เพื่อน ๆ เป็นผู้ใฝ่รู้เหมือนหนูด้วยนะคะ
ได้ดูตัวอย่างของวีรชนคนไทยผู้กล้าแล้วรู้สึกทราบซึ้ง
ถึงอายุจะน้อยแต่ก็ทำคุณงามความดีให้แก่ประเทศไม่น้อย
ซึ่งโดยส่วนตัวถึงไม่มีโอกาสทำคุณความดีหรือตอบแทน
คุณงามความดีให้กับประเทศขนาดนั้น
แต่ก็จะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่ทำได้คับ
เมือเราเห็นตัวอย่างว่าชีวิตเป็นของไม่เที่ยงแล้ว
มนุษย์ทุกคนแบกขันธ์ 5 อยู่ทุกคนซึ่งเป็นทุกข์
มีวันเสื่อมไปทุกวัน ๆ
เวลาร่วงเลยผ่านไปแต่ละวัน บัดนี้เราทำอะไรอยู่
จะทำมาหากินอย่างเดียวหรือ เกิดประโยชน์หรือไม่ ต้องมีสติคอยถามตัวเองอยู่เสมอ
เราก็ควรที่จะทำงานประกอบอาชีพของเราไปพร้อมกับการปฏิบัติธรรม
ซึ่งบางคนอาจเห็นเป็นเรื่องไร้สาระ
แต่การได้เกิดมาแล้วก็ควรทำให้ดีที่สุดคับ