" ไลฟสไตล์มรณะ " ทั้ง 14 ประการ


เซลล์มะเร็ง เป็นคล้ายสัตว์กินเนื้อที่ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการแตกรากออกไปดูดกินสารอาหารจากในร่างกาย

" ไลฟสไตล์มรณะ " ทั้ง 14 ประการ

         วันนี้ได้อ่านข้อมูลดี ๆ ของนายแพทย์กฤษดา  ศิรามพุช  ซึ่งมีเพื่อนคนหนึ่งส่ง  E – mail  มาให้อ่านด้วยความห่วงใยในสุขภาพ    ดิฉันเห็นว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์จึงได้นำมาเผยแพร่ให้เพื่อน ๆ และผู้ที่รักสุขภาพ  ได้ศึกษาหาความรู้เพื่อป้องกันตนเองให้พ้นจากโรคมะเร็งร้าย    ซึ่งนายแพทย์กฤษดา  ศิรามพุช    ได้อธิบายขยายความไว้ดังนี้

          เซลล์มะเร็ง เป็นคล้ายสัตว์กินเนื้อที่ดำรงชีพอยู่ได้ด้วยการแตกรากออกไปดูดกินสารอาหารจากในร่างกายจนทำให้ผ่ายผอมและกลายเป็นรังมะเร็งในที่สุด   แต่ถ้าใครยังไม่อยากสร้างสิ่งมหัศจรรย์ในกายประเภทสวนลอยแห่งมะเร็งไว้แข่งกับ บาบิโลน ก็ขอให้เลี่ยงวิถีที่จะเปลี่ยนกายให้เป็นแม่เหล็กดูดมะเร็งชั้นดี ขอให้เลี่ยงพฤติกรรมที่มะเร็งโปรดทั้งหลายต่อไปนี้  

1) นอนดึก   ทำให้ไม่มีฮอร์โมนต้านมะเร็งหลั่งออกมา นอกจากนั้นยังจะทำให้เกิด  โรคร้ายอื่นได้ เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันสูง และโรคอ้วน   ด้วยว่าเมื่อนอนดึกแล้วมักจะหิวและต้องหาของขบเคี้ยวมากินแก้ปากว่างกัน

2) สูบบุหรี่และขี้เหล้า  ทั้งสองสิ่งนี้ทำให้ปอดและตับทำงานหนัก แม้จะสูบซิการ์ซึ่งมีนิโคตินต่ำกว่าบุหรี่ก็ตามที หรือดื่มเหล้าแบบกลั่นอย่างดีของฝรั่ง แต่ตัวมันเองก็สร้าง "สนิมมะเร็ง" ออกมาไม่น้อย   ทำให้คนที่เสพทั้งแก่เร็วและตายไวได้จากโรคมะเร็ง

3) เอาแต่ไขมันเข้าปากและอยากแต่เนื้อแดง   ไขมันอิ่มตัว และโปรตีนจากเนื้อนั้นเป็นแหล่งอาหาร ชั้นหนึ่งของมะเร็งที่จะใช้เจริญเติบโตได้ไม่แพ้ทารกเกิดใหม่  มันจะสร้างหลอดเลือดยื่นไปดูดกินเลือดเนื้อของเราจนแทบไม่เหลือเลือดอันสมบูรณ์ไปเลี้ยงอวัยวะอื่น ตัวเราจึงผอมเอาๆ ตรงข้ามกับมะเร็งกาฝากที่โตไวไม่มีลิมิตชีวิตหดหู่แน่

4) แฝงด้วยเครียดจัด   จนมีสารทุกข์หลั่งออกมาหล่อเลี้ยงมะเร็งให้โตเร็วขึ้น  ราวกับน้ำมันราดบนกองไฟให้คุโชนขึ้น

5) ไวรัสตับอักเสบบีและมีภูมิแพ้ที่รักษาไม่หาย  ดังที่กล่าวไปว่าถ้าภูมิดีก็มีพลังต้านมะเร็งได้ตั้งแต่ในเซลล์แรกที่อุตริเกิดขึ้นมา ด้วยตามปกติในกายเราก็มีเซลล์แบบมะเร็งนี้เกิดขึ้นมาอยู่เรื่อย ๆ ทุกวัน

6) ปล่อยกายให้อ้วน   สร้างให้เกิดธาตุแก่ออกมาแช่อิ่มอวัยวะภายในร่างกาย   และไขมันตามตัว    ยังสร้างให้เกิดฮอร์โมนกระตุ้นให้มะเร็งแบ่งตัวดีขึ้นด้วย

7) ล้วนขาดวิตามิน  ด้วยวิตามินทำหน้าที่ต้านเชื้อมะเร็งให้ดับเป็นจุณไป ก่อนที่จะเผยอหน้าขึ้นมาแบ่งตัวปนเปไปในร่างกายเรา

 8) กินของร้อนจัดไป   เช่น ซดชาร้อนหรือกาแฟร้อนจัดประเภทควันฉุย จะไปลวกให้เซลล์หลอดอาหารอักเสบอยู่บ่อย ๆ  เมื่ออักเสบเป็นอาจิณก็จะมีโอกาสเปลี่ยนไปเป็นเซลล์มะเร็งง่ายขึ้น

9) ทำให้คอเลสเตอรอลลดต่ำ    พบว่าถ้าคอเลสเตอรอลต่ำเกินไปก็ไม่ดี   มีผลกับภูมิคุ้มกันที่แย่ลง เมื่อภูมิคุ้มกันต่ำแล้วก็จะหมดปัญญาต้านเซลล์มะเร็งที่จะเข้ามาหา

10) ทำกลั้นปัสสาวะ  น้ำปัสสาวะเป็นของเสีย ยิ่งอยู่นิ่งเป็นเวลานานจากการอั้นมันก็ไม่ต่างอะไรกับน้ำนิ่งในคลองแสนแสบ   ซึ่งทิ้งไว้ไม่นานจะกลายเป็นน้ำเน่า   แต่ถ้าเน่าในกระเพาะฉี่เราก็มีผลให้เกิดเซลล์มะเร็งงอกขึ้นมาได้

11) ปะทะเค็มจัด    พบว่าสิ่งมีชีวิตที่ทานอาหารเค็มมีอัตราการเกิดมะเร็งสูงกว่า  โดยเฉพาะในอาหารจำพวกเนื้อเค็ม  เนื้อแห้ง  หมูแดง  ที่นอกจากเค็มแล้วยังมีสีแดงจาก ดินประสิวอีกด้วย

12) ประวัติมะเร็งในครอบครัว   มะเร็งร้ายในครอบครัวบางอย่างสามารถถ่ายทอดมาทางพันธุกรรมได้ แม้จะไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์แต่ต้องรับไว้ด้วยความไม่เต็มใจ  เช่น มะเร็งเต้านม   มะเร็งลำไส้ใหญ่  แต่ถ้าป้องกันไว้ดี ๆ แล้วบางทีก็ไม่เกิดขึ้นมา

13) ตัวตากแดดบ่อย   แสงแดดเป็นรังสีที่กระตุ้นอณูเซลล์ของคุณให้สะดุ้งตกใจ   จนเครื่องในรวนหมด เมื่อเครื่องในรวนแล้วก็ไม่สามารถที่จะคุมการแบ่งตัวได้   ทำให้แบ่งต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งกลายเป็นก้อนใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

14) ไม่ค่อยช่วยใคร   ถ้าพูดให้ง่ายเข้าคือ เห็นแก่ตัวและไม่ค่อยได้ทำบุญนั่นเอง   เพราะเมื่อใดก็ตาม ที่ได้หมั่นช่วยเหลือผู้อื่นจนชินแล้ว  เรามักไม่ค่อยได้นึกถึงตัวเองนัก   และเมื่อไม่หมกมุ่นกับตัวเองแล้ว       ก็ไม่ค่อยเกิดความ "อยาก"  อันนำไปสู่ความเครียด  ร้อนอก ร้อนใจ  หรือถ้าไม่มีเวลาก็แค่อนุโมทนากับบุญ   ที่เราได้พานพบ ก็ทำให้มี  "สารสุข"  หลั่งออกมาเสริมภูมิรู้สู้มะเร็งแล้ว

          ด้วยวิถีแห่งการมี  "ไลฟสไตล์มรณะ"  ทั้ง 14 ประการ   ดังที่ได้กล่าวไป      ก็จะทำให้ได้มะเร็งมาเป็นเจ้าของอย่างง่ายดาย

          เป็นอย่างไรบ้างคะ  หลังจากได้อ่านข้อความนี้แล้ว ท่านเป็นผู้หนึ่งหรือเปล่า   ที่กำลังก้าวเข้าหามะเร็ง

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากนายแพทย์กฤษดา ศิรามพุช , พบ.(จุฬาฯ)  ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ นานาชาติ   แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ ( American Board of Anti-aging medicine)

 

หมายเลขบันทึก: 304554เขียนเมื่อ 9 ตุลาคม 2009 17:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:59 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท