การได้เกิดมาเป็นมนุษย์เนี่ยมันยากน่อ

การได้เกิดมาเป็นมนุษย์สุดประเสริฐ

คนเราเนี่ยนะ เกิดมายากมาก วันนึงเคยได้ฟังธรรมะ จากท่าน ว.วชิระเมธี เกี่ยวกับ
เรื่องการได้เกิดมาเป็นคนมันยากเย็นแสนเข็ญ จะเอามาเล่าให้ฟัง

สมัยพุทธกาล ได้มีการเปรียบไว้ต่างต่างนานากับการได้เกิดมาเป็นคน ที่เราเคยได้ฟังมาก้อคือ

"ในมหาสมุทรกว้างใหญ่ไพศาล มีเต่าอยู่ตัวหนึ่งตาบอดและอยู่ใต้ทะเลลึกมากเลยนะ บนมหาสมุทรเนี่ยก้อจามีห่วงยางอันหนึ่ง ลอยเท้งไปมา ร้อยวันพันปีเต่าตัวนั้นจะขึ้นมาเหนือผิวน้ำสักทีหนึ่ง และโอกาสที่เจ้าเต่าตัวนั้นจะได้เอาหัวเข้าไปในห่วงยางนั้น ยากเพียงใด เปรียบได้กับโอกาสของการได้เกิดมาเป็นมนุษย์ย่อมยากเพียงนั้น"

 ได้ฟังเราก้อคิดไปฟังไปนะ ว่าเอ มันเป็นความจริงเหรอเนี่ย (แนวคิดแบบเจ้าหนูจำไม ดีในหลายๆเรื่อง แต่บางเรื่องไม่ควรคิดอ่ะ เพราะเราไม่มี time machine ไปดูสมัยนู้นน) เราก้อไปค้นคว้าหาข้อมูลมากมาย ทั้งชีวิตหลังความตาย ตายแล้วไปไหน สวรรค์ นรก เป็นอย่างไร โอยยย เยอะแยะมากมาย สุดท้ายมะเอาแระ เอาเป็นว่าเราเชื่อดีกว่าว่า คนเราเนี่ยการได้เป็นมนุษย์เนี่ยยากมากกก แล้วอย่างไรต่อล่ะ

ท่าน ว.วชิรเมธี ท่านได้กล่าวต่อว่า หากเรารู้ว่าเราเกิดมายากแล้วเนี่ย ควรรักษาชีวิตไว้ให้ดี อย่าทิ้งขว้าง จงรักตัวเองให้มากๆ แต่อย่ารักตัวเองซะจนหลงลืมสิ่งดีงามรอบตัว อะไรประมาณเนี้ย เราอ่ะ รู้แต่ไม่ถ่อง( เผอิญได้บวชมาสักพัก ก้อเลยเข้าถึงรสพระธรรมได้ไม่ยาก) จริงหรือไม่จริงก้อยังหาข้อพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ได้ แต่หากเราทำแล้วมีความสุข เช่น รักตัวเองดูแลตัวเอง หรือ ดูแลผู้ให้กำเนิด ดูแลรักษาน้ำใจคนรอบข้างที่ได้พบเจอกัน ( ก้อมีความเชื่อ นิดๆ อีกเชข่นกันว่าคนเราอ่ะ เจอกันยาก )
ก็ไม่เห็นจะทำให้เราเดือดร้อนนิ ส่วนปัญหาที่เราได้รับตามหน้าหนังสือพิมพ์ก้อรับรู้เฉยๆ แต่อย่าไปอะไรมากมาย เราชอบความสุขอ่ะ ไม่อยากทุกข์ จริงๆเคยมีคนบอกไว้เหมือนกันว่า ชีวิตต้องมีทั้งสุขและทุกข์ จึงจะสมบูรณ์ ***** ตกลงแล้วคนเรากับการได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมาต่างๆกันเนี่ยทำให้มีจุดยืนในการมองโลกที่ต่างกัน เนอะ เอาน่า ......

"โชคดีแล้วล่ะที่ได้เกิดมาเป็นคนกับเขาในชาตินี้ สร้างความดีงามต่อไปน่อ"

เราเอง

 つづく

[เอกชน]