เมื่อไหร่คนเราถึงจะพอ ไม่ว่าพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่ พอใจในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ คนเรามีแต่อยากได้มากขึ้น อยากมีเพิ่มขึ้น เมืองพอบ่มี มีแต่เมืองพล วันนี้ขอเริ่มต้นขอเปิดตัวด้วยพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง
พระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง
ถ้าสามารถที่จะเปลี่ยนให้กลับเป็นเศรษฐกิจแบบพอเพียง การจะเป็นเสือนั้นมันไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่เราพออยู่ พอกิน
หมายความว่า
อันนี้เคยบอกว่า ความพอเพียงนี้ไม่ได้หมายความว่าทุกครอบครัวจะต้อง
พระราชดำรัส
พระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียง
“อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น. ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตน
ก็พอเพียง”
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2541)
“…ผู้มีปัญญาทุกระดับจึงต้องถือเป็นภาระหน้าที่ ที่จะต้องรู้จักรับ รู้จักใช้ความรู้อย่างถูกต้อง เพื่อสามารถพิจารณาการกระทำให้เหมาะสมแก่ทุกกรณี…”
(พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรขง มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 28 สิงหาคม 2518)
“ทำงานเพื่ออะไร ก็ทำเพื่อความสุข ทุกคนต้องการความสุข แต่ถ้าความสุขเป็นเฉพาะบุคคล ก็เป็นความสุขที่โง่”
(พระราชดำรัสเนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 4 ธันวาคม 2517)
ไม่ต้องทั้งหมดแม้จะไม่ถึงครึ่ง อาจจะเศษหนึ่งส่วนสี่ ก็จะสามารถที่จะอยู่ได้การแก้ไขจะต้องการแก้ไขจะต้องใช้เวลา ไม่ใช่ง่าย ๆ โดยมากคนก็ใจร้อนเพราะเดือดร้อนแต่ว่าถ้าทำตั้งแต่เดี๋ยวนี้ก็จะสามารถที่จะแก้ไขได้
และมีเศรษฐกิจการเป็นอยู่แบบพอมีพอกิน แบบพอมีพอกิน
อุ้มชูตัวเองได้ให้มีพอเพียงกับตัวเอง
ผลิตอาหารของตัวจะต้องทอผ้าใส่ให้ตัวเองสำหรับครอบครัวอย่างนั้น มันเกินไป
แต่ว่าในหมู่บ้านหรือในอำเภอ จะต้องมีความพอเพียงพอสมควร บางสิ่ง บางอย่างที่ผลิตได้
มากกว่าความต้องการก็ขายได้แต่ขายในที่ไม่ห่างไกลเท่าไร ไม่ต้องเสียค่าขนส่งมากนัก
พระราชทานเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2540
พระราชดำรัสเศรษฐกิจพอ
ขอบคุณที่เยี่ยมชม ผมเป็นแฟนของจ่านกร้องเช่นกันโดยเฉพาะน้องตุ้ม จ่านกร้อง ปลายเดือนนี้จะทำคณะครูไปเที่ยวพิษโลกสักครั้ง