เล่าเรื่องสมัชชาวิทยาศาสตร์


วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ได้

เล่าเรื่องสมัชชาวิทยาศาสตร์

       เมื่อหลายเดือนก่อนที่ผ่าน มีโอกาสดีได้เข้าร่วมใน การประชุมสัมชชา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา ครั้งที่ 8 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ ซึ่งการประชุม ในครั้งนี้ ได้รับเกียรติจากท่านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นประธานในการกล่าวเปิดงาน และปาฐกถาพิเศษเรื่อง สร้างชาติด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (วทน.)”  ซึ่งประเด็นสำคัญในการปาฐกถาพิเศษนี้ ท่านนายกฯ ได้กล่าวเน้นย้ำถึง เรื่อง Creative Economy หรือที่ท่านนายกฯ แปลเป็นภาษาไทยว่า เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งท่านนายกฯ กล่าวว่า วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมนั้น ถือเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้เกิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ได้ ในการนี้ท่านนายกฯ ก็รับปากที่จะเพิ่มงบประมาณให้แก่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอีก 1 % จาก GDP รวมของประเทศ นอกจากนี้ท่านนายกฯ ยังย้ำว่า งานหลักๆ ของประเทศที่วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมควรเข้าไปมีส่วนในการพัฒนา และปรับปรุงเพื่อให้เกิดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ก็คือ งานด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรมอาหาร พลังงานทดแทน ทรัพยากรธรรมชาติ และสุดท้าย คือ ทรัพยากรบุคคล ซึ่งงานในแต่ละด้านนั้น ท่านนายกฯ ได้กล่าว โดยสรุปไว้ดังนี้

  • งานด้านเกษตรกรรม ควรมีการใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพิ่มประสิทธิภาพและผลผลิต                            ทางการเกษตรให้สูงขึ้นทั่วทั้งประเทศ ผลผลิตทางการเกษตรที่ผลิตได้ในประเทศควรที่จะ                       ได้รับการพัฒนาในเรื่องมาตราฐานการผลิตที่เป็นสากล ทั้งนี้เพื่อเพิ่มศักยภาพในการส่งออก
  • อุตสาหกรรมอาหาร โดยทั่วไปอุตสาหกรรมอาหารขนาดใหญ่ของประเทศนั้น มีการใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมช่วยในการดำเนินการจัดการอยู่แล้ว หากแต่ในอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมอย่าง SMEs นั้น อาจยังไม่มีการนำวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมเข้าไปมีส่วนร่วมในการดำเนินการจัดการมากเพียงพอ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องเข้าไปมีส่วนในการให้การสนับสนุน
  • พลังงานทดแทนในด้านพลังงานทดแทนควรใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีเข้าไปช่วยในการบริหารจัดการพลังงานให้มีประสิทธิภาพ
  • ทรัพยากรธรรมชาติวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมจำเป็นต้องเข้ามามีบทบาทในการช่วยให้เกิดความสมดุลในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อลดปัญหาภาวะโลกร้อน
  • ทรัพยากรบุคคลประเทศไทยจำเป็นต้องสร้างคนให้มีความพร้อมทั้งในด้านการสร้างสรรค์และการประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรร

                ซึ่งประเด็นทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นปัจจัยที่จะเชื่อมโยง และขยายผลไปสู่เศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ได้ในอนาคต และรัฐบาลซึ่งนำ โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง  ทั้งนี้ก็เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนชาวไทยนั่นเอง

หมายเลขบันทึก: 303477เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2009 20:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 3 พฤษภาคม 2012 11:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

อีก 2 ปีผ่านไปมาดูกันว่าจะเป็นอย่างที่ท่านนายกว่าไว้หรือเปล่า ผมเองอยู่กระทรวงวิทย์ฯ มาก็จะ 10 ปีแล้ว ก็ยังเห็นการเปลี่ยนแปลงทางด้าน วทน. น้อยมาก อาจจะเป็นเพราะมีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองบ่อย แต่ที่ผ่านมา รมว. หลายท่านที่มาเป็น ก็มีนโยบายที่ชัดเจน ไม่มีใครไม่ปฏิเสธว่า วทน. จะนำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า แต่เราควรดูพื้นฐานของเราด้วยว่าเราเก่งอะไร ก็ควนพัฒาบนสิ่งที่เราเก่งใช่ใหมครับ

ขอบคุณมากค่ะ ที่แวะมาช่วยอ่านแป้งทอดเองก็อยู่หน่วยงานภายใต้กระทรวงวิทย์มา 7 ปีแล้ว หวังว่าท่านนายกคนนี้ และคุณหญิงของกระทรวงคงร่วมกันผลักดันงานด้าน ว&ท ได้อย่างจริงจังสักที

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท