วันนี้ ไม่ได้ไปทำงาน เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ อ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบผู้ช่วยผู้พิพากษา และตุลาการศาลปกครองในปีต่อไป
ผู้ช่วยผู้พิพากษาได้สอบมา ๓ ครั้งแล้ว และอัยการผู้ช่วยสอบมา ๔ ครั้ง ทุกครั้งประสบผลสำเร็จอย่างย่อยยับ เกิดจากการเตรียมตัวไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวบทกฎหมายก็ไม่แม่น คำพิพากษาฎีกาก็อ่านมาไม่มาก ความเข้าใจตัวบทก็ไม่กว้างขวาง ลึกซึ้งพอ การเตรียมตัวรึ ก็แย่ เมื่อผิดผลาดหวังมาก็เสียใจบ้างเป็นธรรมดา หากมาตรวจสอบดูตัวเองแล้วก็ต้องรับสภาพตัวเอง...ต้องทำใจ
จากการไปสอบแต่ละครั้งสิ่งที่พบคือ เตรียมตัวไม่พร้อม อ่านหนังสือไม่ทัน การทำข้อสอบไม่ครบทุกข้อ ทำได้อย่างมากวิชาละ ๗ ข้อ แต่ละข้อตอบไม่ครบประเด็น ตัวบทใส่ไม่ครบถ้วน แม้จะตอบแบบฟังธงก็ตาม และสิ่งสำคัญจะต้องมีตัวบทปรับเข้ากับข้อเท็จจริง เพราะตัวบทคือเหตุผลในการตอบ
การวางแผนในการดูหนังสือจึงเป็นเรื่องสำคัญ จะต้องมีตารางดูหนังสือแน่นอนตายตัว ลงมือปฏิบัติตามตารางดังกล่าว ประเมินผลตัวเอง และปรับปรุงแก้ไขก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน
ไม่ต่างอะไรกับการวางแผน มีแผน ปฏิบัติตามแผน ประเมินผล และปรับปรุงแก้ไข ทำตามแผนอีกเช่นกัน
การที่จะบรรลุผลสำเร็จตาเป้าหมายที่วางไว้ การมีวินัยในตัวเอง การทุ่มเทสุดความสามารถ และการบังคับตัวให้ปฏิบัติตามแผนเป็นสิ่งที่สำคัญ
การอ่านหนังสือจะต้องมีเทคนิคเช่น กล่าวคือจะต้องมีสมาธิในการอ่าน มีความเข้าใจ มีความจำ และสามารถนำไปใช้ ส่วนการนำไปตอบข้อสอบ และสอบได้เป็นผลพลอยได้เท่านั้น หากคิดว่า อ่านหนังสือเพือเตรียมสอบจะทำให้การอ่านหนังสือไม่ตรงเจตนารมณ์ที่แท้จริง
การอ่านหนังสือเพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจ จำได้ และสามารถนำไปใช้ ให้คำแนะนำแก่ผู้อื่นน่าจะเป็นประโยชน์มากกว่า ส่วนการที่จะสอบได้หรือไม่ น่าจะเป็นเหตุผลสุดท้าย การคำนึงถึง ประโยชน์สวนรวม น่าจะสำคัญกว่าประโยชน์ส่วนตัว เพราะปัจจุบันก็สามารถดำรงชีอยู่ได้ด้วยตนเองได้อยู่แล้ว
กาเดินทางไปสู่เป้าหมาย สุขภาพก็เป็นสิ่งสำคัญ ต้องรักษาสุขภาพให้แข็งแรง สอบได้แต่สุขภาพเต็มไปด้วยโรคภัย ก็ไม่สามารถจะปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด เหนือสิ่งอื่นใดสุขภาพร่างกายก็ควรจะดูแลรักษาด้วย ความสุขทางกายและทางใจก็จะเกิดตามมา
....จะทำการสิ่งใด ถ้ามีใจรักแล้ว ความสนุก ความชอบ และความสุขใจก็จะเกิดขึ้นเอง เมื่อชอบใจ ความทุกข์ ความเกียจคร้านจะมีได้อย่างไร ?...เตือนตนเองเถอะ