หน้าแรก
สมาชิก
จินตนา คงเหมื...
สมุด
อะไรเกิดขึ้นที่นี...
ความจริงที่ประสพอยู่
จินตนา คงเหมือนเพชร
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
ความจริงที่ประสพอยู่
ในขณะที่ผู้บริหารที่เป็นนักการเมืองเขามองเห็นว่าเราและคณะไปทำงานเพื่อนำชื่อเสียงมาให้กับท้องถิ่นจึงให้การสนับสนุนปัจจัยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้คนทำงาน แต่อีกคนหนึ่งซึ่งรับผิดชอบด้านการศึกษาโดยตรงมาเรียกร้องเอาจากเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่มีจะให้ มันอะไรกัน ?
วันนี้เราถูกเจ้านายเรียกเข้าไปพบถามข้อสงสัยว่า"ทำไมคนทำงานระดับบริหารอย่างคุณถึงผู้คับ
บัญชาประเมินให้แค่ ๐.๕ ขั้นในครึ่งปีหลัง มีอะไรขัดแย้งกับผู้บังคับบัญชาหรือ?" เราบอกว่าไม่มีอะไร อาจจะขัดอะไรบางอย่างก็ได้ใครจะไปรู้ เราทำงานสไตล์ท้องถิ่น ทำงานเชิญรุก มากกว่านั่งรับอยู่ที่สำนักงาน อาจจะทำให้เขาด้อยคุณค่าลงก็ได้ เพราะตั้งแต่เราเข้ามากระแสตอบรับดีมาก โรงเรียนรับได้ แก้ปัญหาให้โรงเรียนถ่ายโอนได้ระดับหนึ่ง จากที่เคยมืดบอดไม่ขยับเลย เพราะก่อนหน้าที่เราจะมาทำงานที่อบจ.แห่งนี้ เราก็ได้ศึกษาข้อมูลมาพอสมควรว่าปัญหาอยู่ตรงไหน แล้วเราก็ลงไปแก้ปัญหาตรงนั้น ไม่ได้คิดว่ามันเป็นภาระ แต่คิดว่ามันคือหน้าที่
เงื่อนไขหลายที่ถูกสร้างโดยเขา เรามีหน้าที่มาแก้ อย่างเช่นเรื่องการกู้สหกรณ์ของครูทำอย่างไรให้ครูได้รับบริการที่สะดวกขึ้น เป็นต้น
งานทุกอย่า่งบนกองการศึกษาเราจะทำแทนหมด โดยให้คำปรึกษาแก่ลูกน้องทุกคนให้เดินไปตามภารกิจปรัชญาของท้องถิ่นที่ว่า"แก้ปัญหาและสนองตอบความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น" ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไม่ใช่เทวดา แต่เป็นผู้รับใช้ประชาชน ถึงจะเป็นข้าราชการส่วนท้องถิ่นได้ ต้องทำหน้าที่ "อำนวยการ ไม่ใช่บัญชาการ" แล้วเราจะเป็นที่รักของทุกคน เราจะปกป้องลูกน้องที่ทำงานดี ทำถูก ไม่ให้ใครรังแก ดังนั้น ก็ไม่แปลกที่เราจะได้ใจลูกน้องทั้งหมดในสำนักงาน เมื่อมิติมันถูกเปลี่ยนแปลง อะไรมันก็เกิดขึ้นได้
ความไม่รู้ในกรอบภารกิจงานของท้องถิ่นของเขาทำให้ความแตกต่างมันปรากฎชัดขึ้นและชัดขึ้นเมื่อเรามาอยู่ตรงจุดนี้ ความด้อยคุณค่าในตัวเองของเขามันยิ่งปรากฎชัดขึ้นอีกเช่นกัน เมื่อเขาไม่เข้ามาเซ็นต์งานในภาคบ่ายของทุกวัน และหายไปเฉย ๆ ในบางวันลูกน้องติดต่อไม่ได้ งานก็เร่งด่วน ทำให้ภาพกองการศึกษาแย่ลงเพราะงานช้า แต่เราก็มิปริปากบ่นให้ใครฟัง แต่เจ้านายเขารู้เพราะลูกน้องหรือเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติเขาก็ต้องบอกว่างานค้างอยู่ที่ใคร เพราะทุกคนก็ย่อมปกป้องตนเองและเอารอดด้วยกันทั้งนั้น นี่คือธรรมชาติของมนุษย์
แล้ววันนี้อะไรเกิดขึ้นกับเรา ก็เจ้านายเขาสงสัยว่าคนที่ทำงานให้กองการศึกษามันขับเคลื่อนทำไมถูกประเมินให้ได้แค่ ๐.๕ ขั้น เราก็อธิบายไม่ได้ก็ต้องไปถามผู้ที่ประเมินเราแล้วกันว่าเขาคิดอย่างไร..ส่วนเราเอง เขาให้เท่าไรเราไม่ใส่ใจอยู่แล้ว เพราะเรามาทำงานเพื่องาน...ใครเห็นใครไม่เห็นช่างมัน...แต่เรารู้ว่าเราทำอะไรกับองค์กรนี้
แล้วเราจะบอกท่านได้อย่างไรเล่าว่าขัดแย้งกันเรื่องผลประโยชน์ ซึ่งเราไม่สามารถจัดให้เขาได้ตามที่เขาต้องการเนื่องจากเราต้องมาทำงานที่ไม่มีผลประโยชน์ หรือถ้ามีเราก็ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวและไม่รับรู้ และก็อย่ามาแบ่งปันให้เราด้วย เราจะขออยู่แบบรับเงินเดือนอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว
วันแรกที่เราข้ามารับตำแหน่งเราเคยประกาศตัวชัดเจนว่าเราเป็นคนซื่อสัตย์ต่อหน้าที่และไม่ทุจริตคอรับชั่น ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจะไม่ให้ความร่วมมือ ถ้าใครคิดจะทุจริตคอรับชั่นหาผลประโยชน์เข้าตนเอง
และวั
น
แตกหักก็มาถึง เมื่อครั้งที่เราต้องเป็นหัวหน้าคณะนำทีมไปจัดนิทรรศการทางวิชาการในงานมหกรรมการศึกษาท้องถิ่นที่อิมแพคเมืองทองปีนี้ โดยที่เรายืมเงินเดินทางไปราชการเป็นค่าที่พัก ค่าเบี้ยเลี้ยง และค่าน้ำมันรถ เพราะนำรถตู้ไป ๒ คัน โดยมีครูและเจ้าหน้าที่ไปกับเรา จำนวน ๒๐ คน เรายืมเงินออกมาพอดีกับครูทุกคนและจ่ายให้ครูไปแล้ว เหลือแต่ค่าที่พักที่เราจะต้องไปจ่ายในวันที่เข้าพัก กลายเป็นว่าวันนั้นก่อนเดินทางเขามาขอเงินจากเรา ๒๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเราไม่มีให้ และบอกว่าไม่สามารถให้ได้เนื่องยืมมาเท่าจำนวนคน ส่วนเงินที่เหลือก็เป็นค่าที่พักหากให้เขาไป แล้วจะให้พวกเราไปพักที่ไหนกัน เพราะเราต้องดูแลครูที่ไปด้วยทั้งหมดในฐานะหัวหน้าคณะ แต่วันนั้นโชคดีในความตึงเครียดที่เคลียร์กันไม่ลงตัว ท่านรองนายกฯ ก็เดินเข้าไปควักเงิน จำนวน ๕,๐๐๐ บาทให้เราเพื่อใช้ในการดูแลลูกน้องระหว่างเดินทางจากภูเก็ต ไป กทม. เราจึงรับไว้ด้วยความขอบคุณ มันช่างมีอะไรตรงข้ามกันเหลือเกิน
ในขณะที่ผู้บริหารที่เป็นนักการเมืองเขามองเห็นว่าเราและคณะไปทำงานเพื่อนำชื่อเสียงมาให้กับท้องถิ่นจึงให้การสนับสนุนปัจจัยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้คนทำงาน แต่อีกคนหนึ่งซึ่งรับผิดชอบด้านการศึกษาโดยตรงมาเรียกร้องเอาจากเรา ทั้ง ๆ ที่เราไม่มีจะให้ มันอะไรกัน ?
นับตั้งแต่วันนั้นมาเราจึงหมดศรัทธาให้ตัว
ผู้บังคั
บบัญชาคนนี้ในทันที แต่เราไม่เคยบอกเรื่องนี้กับใคร ยกเว้นลูกน้องเราที่เป็นเจ้าของโครงการซึ่งอยู่ในเหตุการณ์นั้นรับรู้และเป็นพยาน มันทำให้เราอคติไม่ชอบคนที่โอนมามาจาก สพท. เพื่อหวังกอบโกยผลประโยชน์จากการศึกษา แค่นี้ยังไม่พอกันอีกหรือ แค่เห็นการศึกษามันล่มสลายเพราะคนทำการศึกษามันหวังแต่ผลประโยชน์ โดยไม่สนใจว่าเด็กจะได้อะไร ขอให้ตนเองได้ไว้ก่อน มันช่างอเหน็จอนาถใจเหลือเกิน ทำไมคนมันถึงขาดจิตสำนึกกันเช่นนี้หนอ
เขียนใน
GotoKnow
โดย
จินตนา คงเหมือนเพชร
ใน
อะไรเกิดขึ้นที่นี่ : ภูเก็ตแห่งเรา
คำสำคัญ (Tags):
#education
หมายเลขบันทึก: 302735
เขียนเมื่อ 2 ตุลาคม 2009 16:55 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 15 เมษายน 2012 02:44 น. (
)
สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (0)
ไม่มีความเห็น
ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
หน้าแรก
สมาชิก
จินตนา คงเหมื...
สมุด
อะไรเกิดขึ้นที่นี...
ความจริงที่ประสพอยู่
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท