แดดใส ไอดิน กลิ่นทุ่ง


แดดใส ไอดิน กลิ่นทุ่ง

 

.

 

การเดินทางเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ทุกก้าวเป็นกำไรเสมอ ไม่ว่าจะสุขจะทุกข์ล้วนเป็นบทเรียนท้าทายให้ดวงใจเรียนรู้ และในทุกทอดเท้าก้าวไปในรอยทาง ไม่พึงแต่เพียงได้ผ่าน นักสะพายกล้องต้องไม่พลาดที่จะกดชัตเตอร์เก็บภาพสำคัญเอาไว้ ทุกๆ ภาพ คือภาพแรกและภาพสุดท้ายของชีวิต...เพราะแม้ว่าจะผ่านมาและผ่านไปอีกกี่ครั้งในกาลข้างหน้าเวลาเดิม ภาพนั้น...แสงเงาย่อมเปลี่ยนไปแล้ว

 

สำหรับจิตรกรก็แน่นอนว่าเขาจะไม่ปล่อยให้ดินสอ ปากกา และพู่กันต้องเปลี่ยวเปล่าไร้ค่า...

 

ในเส้นทางกวี ผมเองไม่เคยห่างปากกาและสมุดบันทึก ทุกครั้งของการเดินทาง...ทั้งการเคลื่อนที่ไปโดยกายและการก้าวไปโดยจิตคิดนึก ก็มักจะเก็บรอยถ้อยคำ ความคิด และอารมณ์รู้สึกรู้สาที่พบผ่าน ไม่รีบร้อนทำเวลาเพื่อจะเพิ่มปริมาณสถานอย่างที่ "ทัวร์ชะโงก" เขาทำกัน บางครั้งแม้จะมีเป้าหมายกับกำหนดเวลาอยู่บ้าง ก็อาจเปลี่ยนแปลงได้ ถ้าการเก็บเกี่ยวของหัวใจยังร้องขอต่อรอง...

 

ยิ่งการเดินทางครั้งใด ได้มีโอกาสร่วมทางกับมิตรสหายที่รู้ใจ การเดินทางครั้งนั้นก็จะยิ่งเพิ่มรสชาติชีวิตและพลังทางปัญญาแลกเปลี่ยนเรียนรู้แก่กันและกันอย่างมีคุณค่ายิ่ง คุณกิตติศักดิ์ บุตรดีวงศ์ เป็นหนึ่งในมิตรร่วมทางของผม แม้จะไม่บ่อยครั้งนักในเส้นทางทัวร์โลกทัวร์ชีวิต แต่เราก็ไปมาหาสู่กันเสมอญาติทางจิตวิญญาณมิได้ขาด

 

งานจิตรกรรม "แดดใส ไอดิน กลิ่นทุ่ง" ชุดใหม่ของคุณกิตติศักดิ์ ผมได้มีโอกาสร่วมทางกับเขา แม้เพียงเสียบแซมบุปผากวีนิพนธ์ดอกน้อยๆ ลงในทุ่งทิพย์ขลิบรวงโรจน์อร่ามละลานใจ ผมก็มีความสุข ขณะมิตรภาพของเราก็แย้มผลิเบิกบาน พร้อมเป็นบรรณาการแด่ทุกดวงใจ... 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

ขยายบทกวีให้อ่านง่ายดังนี้ครับ...

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

.

 

 

หมายเลขบันทึก: 302113เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2009 14:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 20:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลงจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

กำลังคิดถึงอยู่พอดีครับอาจารย์ ขอร่วมแสดงความยินดีด้วยครับ

                            

เป็นรูปลงแขกเกี่ยวข้าวครับ เป็นเหมือนจิตวิญญาณของท้องทุ่ง เพื่อคารวะ เป็นกำลังใจ และขอร่วมชื่นชมยินดีล่วงหน้าครับ

                           

 

อีกรูปครับ เป็นรูปที่วาดจากการนั่งทบทวนบทเรียนตนเอง แล้วก็ได้นั่งรำลึกถึงการได้มาเรียนรู้กับคนเมืองกาญจน์ รูปนี้เป็นครั้งหนึ่งที่ได้นั่งสนทนากันกับอาจารย์และอาจารย์ณรงค์เดชครับ

                           

คลิ๊กลงไปบนภาพ มีบทความเพื่อถ่ายทอดไว้เป็นบทเรียนบนรายทางการทำงานและการดำเนินไปของชีวิตด้วยครับ  ด้วยจิตคารวะยิ่งครับ

                           

สบายดีนะครับ อ.วิรัตน์

ภาพอดีตเริงรำในความหลังมีพลังจังเลย พลังจากวันคืนของฟืนไฟชีวิตแห่งมิตรภาพ พลังจากการเดินทางของบรรทัดอักษรที่ได้แรงแผ่นดิน...ผู้คน...ลมฝนของความรู้สึกดีๆ อันสั่งสมมาแต่ภพชาติไกลโพ้น

วิถีทุ่งดำรงมนต์เสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย วิถีดวงใจที่มุ่งมั่นปลูกหว่านต้นกล้าลมหายใจ เหงื่องานสานรักถักรุ้งในรอยเท้า ให้ลูกกอบหลานเก็บ...เพียงเขาจะเข้าใจ

หอมเอย...เกสรดอกระแหง เผยอกลีบรับจุมพิตไหวสะท้านของหยาดฝนแรกฤดู ยินยอมพร้อมพลีพรหมจรรย์ เพื่อรุ่งอรุณอันข้าวหุงปลาหอมล้อมสำรับ อุ่นอิ่ม...

 

ตามอาจารย์ วิรัตน์ มาหาครูกานท์ ครับ

ด้วยความเคารพ และระลึกถึงครู ครับ

 

 

อายุบวร

คุณแสงแห่งความดี

...

โอ้โฮ เห็นงานแล้วดีจังเลยครับอาจารย์ เสียดายจังคงไม่ได้ไปในวันเปิด อยากได้นั่งอยู่ในบรรยากาศสดๆของการอ่านบทกวีและเดินดูงานศิลปะที่มีคนคอเดียวกันหลากหลายเสวนาไปด้วย แต่จะไปวันหลังแน่ๆครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท