“เป็นผู้น้อยคอยก้มประนมกร หนักไปก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ”
ผู้น้อย หมายถึง คนที่ยังมีอายุอ่อนหรือผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
ผู้ใหญ่ คือคนที่มีอายุมาก ผู้เป็นหัวหน้าในการงาน เป็นบุคคลชั้นบริหาร ผู้บังคับบัญชา
ตามความรู้สึกทั่วๆ ไปมักเข้าใจว่า ผู้น้อยมีศักดิ์ศรีและสิทธิด้อยกว่าผู้บังคับบัญชา แต่บางทีผู้น้อยกลับคิดเป็นเชิงแข่งบุญวาสนาว่า ตนเองมีแนวคิดและความสามารถเหนือผู้ใหญ่เสียด้วยซ้ำไป เมื่อคิดเช่นนั้น มักเกิดกิเลสข้อ ถัมภะ (หัวดื้อ) สารัมภะ (แข็งดี) และอติมานะ (ดูหมิ่นท่าน) ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นอุปสรรคขวางกั้นความเจริญก้าวหน้าของตัวเรา (ผู้น้อย) เอง โบราณจึงสอนเป็นภาษิตนี้ไว้ “เป็นผู้น้อยคอยก้มประนมกร หนักไปก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ” เพื่อปลุกปลอบว่า เมื่อเรายังเป็นผู้น้อยอยู่ ก็ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ไปตามฐานะ แม้จะรับงานหนักก็ยอมทน คิดให้ได้ว่า....
งานหนักไม่ใช่สิ่งที่ยมทูตส่งมาเพื่อทำลาย แต่หากเป็นสิ่งที่ทูตสวรรค์ส่งมาเพื่อทดสอบว่าท่านจะเป็นผู้เหมาะสมกับความเป็นผู้ใหญ่ ควรที่จะได้รับความสุขสบายที่สวรรค์จะมอบให้ในอนาคตหรือไม่...? เท่านั้นเอง
ไม่มีความเห็น