ในขณะที่นั่งทำงานในช่วงเย็น ๆ หลังเลิกงานเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ประตูห้องทำงานไม่ได้ล๊อก แต่ได้ยินเสียงคนเดินเข้า เสียงเบามาก เมื่อพูดว่า เชิญค่ะ เขาคนนั้น ได้ถอดรองเท้าหน้าประตูห้องทำงาน เมื่อเดินเข้ามา ด้วยรอยยิ้มที่ใสซื่อ เขาทักว่าสวัสดีครับ กล่าวคำว่า ผมสบายดีครับ "พี่อนงค์ " พร้อมกับเสียงหัวเราะ เมื่อเห็นเขาเข้ามาห้องทำงานพร้อมกับรอยยิ้ม เราก็พลอยมีความสุขไปกับรอยยิ้มของเขาไปด้วย
ดูการแต่งกาย ดูดีด้วยชุดนิสิต สะอาด สะอ้าน สุภาพ มากขึ้น และได้พูดเสียงดังในห้องให้คำปรึกษา ว่า พรุ่งนี้ผมจะกลับบ้าน เมื่อผ่านมาทางห้องทำงานแนะแนว อยากจะแวะมาคุยกับพี่อนงค์ ครับ
ในความจริงเธอคนนี้ แรกๆที่มาพบนักจิตวิทยา ด้วยพฤติกรรมเบี่ยงเบน และมีพฤติกรรมก้าวร้าว เพียงเพราะว่า "เธอขาดยา " ในการรักษาตัวของเธอเอง เมื่อเข้าสู่ กระบวนการให้คำปรึกษา การรับฟัง ยอมรับ และเข้าใจ พร้อมกับการช่วยประสานกับผูปกครองในการดูแลลูกชายมากขึ้น กลับมาอยู่ที่มหาวิทยาลัย ก็ใช้เครือข่าย ในการดูแล พร้อมกับคลี่คลาย ในสิ่งที่เธอไปทำวีระกรรมไว้ จนทำให้เธอโอเค
ทำให้ทุกอย่างลงตัว เธอมีความสุขมาก และเป็นช่วงที่จะต้องรับคำปรึกษาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความสมัครใจ ที่แวะมาหานักจิตวิทยาเอง พร้อมให้ความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตนเอง ในทางที่ดีขึ้น และเธอเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในทางสร้างสรรค์ เพียงเพราะ เรา ให้โอกาส ให้ความเป็นเพื่อน เท่านั้นเอง
ความคิดเห็น
อนงค์ ปะนะทัง
24 ก.ย.52
selamat hari raya aidil fitri
ทุกคนอยากเป็นคนสำคัญ แต่ไม่ค่อยให้ความสำคัญคนอื่น..ทัศนะ ลบไปไม๊คะ
สวัสดีค่ะป้าเหมียว
ขอบคุณค่ะที่มาเยี่ยม
อาจจะเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้น
ที่สำคัญเราอยากจะได้รับอย่างไร เราต้องปฎิบัติกับคนอื่นอย่างนั้น มีความเชื่อเช่นนี้ค่ะ
แต่การทำงานกับนิสิต นักศึกษา จะต้องให้โอกาสและรับฟัง เด็กพร้อมที่จะรับฟังและเข้าใจค่ะ จึงได้เกิดเครือข่าย ด้านการให้คำปรึกษา เพื่อน เตือน เพื่อน หรือช่วยเพื่อนค่ะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอบคุณค่ะคุณ. no
ที่มาเยี่ยม