ปีการศึกษานี้ เริ่มนิเทศติดตามค่อนข้างจะล่าช้า เนื่องจากติดขัดหลายเรื่องด้วยกัน ครั้งนี้เน้นเฉพาะครูที่พึ่งผ่านการอบรมตามโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ เมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา สำหรับภาคเหนือ มีจำนวนครูในหลายจังหวัดอาทิ พะเยา พิจิตร เพชรบูรณ์และแม่ฮ่องสอน ครั้งนี้พบเห็นอะไร ซึ่งจะนำมาเรียนรู้และเล่าสู่กันฟัง ดังต่อไปนี้
กิจกรรมในชั้นเรียน วิทยาลัยการอาชีพวิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์
ครูสอนรายวิชาเพศศึกษา ในกลุ่มนี้เป็นครูพลศึกษาที่สอนในสถานศึกษา ไม่มีสาขาอื่น ผิดจากครั้งก่อน ๆ ที่จะพบค่อนข้างหลากหลายสาขาที่มาช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้ เช่น ครูภาษาอังกฤษ ครูคณิตศาสตร์ ครูวิทยาศาสตร์ จากการพูดคุยกับผู้บริหารบางท่าน ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า บางสถานศึกษา ภารกิจในการรับชั่วโมงสอนของครูที่สอนวิชาชีพและวิชาอื่นค่อนข้างเยอะอยู่แล้ว จึงได้มอบหมายให้ครูพลศึกษาได้สอนเอง
หัวหน้างานปกครอง ครูที่สอนในรายวิชานี้มีภารกิจคือ ทำหน้าที่หัวหน้างานปกครอง อย่างที่เราทราบกันดี หัวหน้างานปกครองค่อนข้างจะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับนักเรียน/นักศึกษาในสถานศึกษา ในชั่วโมง ครูจะเตือนเรื่อง การหนีเรียน ความประพฤติ การแต่งกาย รวมถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่จะเกี่ยวข้องกับกิจกรรมในรายวิชาเพศศึกษา แค่เริ่มต้นสอนครูก็เป็นฝ่ายที่มองดูเหมือนจะข่มขู่นักเรียน แต่สถานการณ์จริงในห้องเรียนกลับพบว่า ครูมีวิธีตะล่อมถามถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ซึ่งนักเรียนก็เปิดใจตอบให้ครูทราบ ซึ่งตรงนี้ครูก็แทรกถึงกรอบและกฎระเบียบที่จะอยู่ร่วมกัน รวมถึงผลกระทบที่เพื่อนในชั้นเรียนสะท้อนร่วมกันได้ และพบกรณีที่น่าสนใจคือ บางสถานศึกษาได้แบ่งภาระหน้าที่ในงานปกครองให้ชัดเจนลงไป ว่า ครูท่านใดจะรับผิดชอบ เช่น เฉพาะการแต่งกาย เฉพาะการหนีเรียน หรือเฉพาะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ซึ่งครูสอนเพศศึกษาจะได้รับผิดชอบเรื่องพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เป็นต้น ดังนั้น การคุ้นเคย ใกล้ชิด ทำให้นักเรียนกล้าแสดงความคิดเห็นในชั้นเรียน
กิจกรรมในชั้นเรียน วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพะเยา
หัวหน้างานกิจกรรม สำหรับสถานศึกษาที่มีจำนวนครูและนักเรียนไม่มากนัก อีกภาระหนึ่งที่ครูสอนรายวิชานี้ ต้องทำคืองานกิจกรรมร่วมกับงานปกครอง กิจกรรมในสถานศึกษามีทั้งระดับสอศ. ระดับภาค ระดับ อศจ. กิจกรรมของจังหวัดและกิจกรรมของอำเภอ หากสถานศึกษาแห่งนั้นตั้งอยู่ ครูสอนวิชาเพศศึกษาที่รับผิดชอบต้องพาและดูแลนักเรียนไปร่วมกิจกรรมเหล่านี้ จึงพบว่า ครูบางท่านไม่สามารถดำเนินการสอนกิจกรรมตามลำดับในคู่มือที่ได้รับเพื่อเป็นแนวทางการสอนได้ ข้อเสนอแนะคือ ในภาคเรียนต่อไป ครูจะต้องวางแผนการสอน สำหรับกิจกรรมที่ทุกปีจะต้องจัดและเผื่อไว้สำหรับกิจกรรมเร่งด่วนหรือแทรกเข้ามาโดยไม่รู้ล่วงหน้า ดังนั้น หัวข้อที่จะต้องสอน ต้องลงหมุดสำหรับกิจกรรมเด่น ๆ ท้าย ๆ ได้แก่ ซองคำถาม แลกน้ำ QQR รู้เท่าทันสื่อ สำหรับกิจกรรมอื่นสามารถชวนคุยและสอดแทรกในกิจกรรมเหล่านี้ได้
หนังสือเรียน สถานศึกษาทุกแห่งที่นิเทศ มีหนังสือเรียนฟรี ตามนโยบายของรัฐบาล ซึ่งก่อนหน้าที่หากมีการนิเทศ ก็ต้องแนะนำให้ครูยึดแนวทางของเอกสารคู่มือที่ครูได้รับการอบรมไว้ก่อน อย่างไรก็ตามเราก็พบการสะท้อนจากครูว่า บางครั้งหากไม่ใช้หนังสือเรียนฟรีเลยก็ได้รับคำตำหนิจากฝ่ายบริหารว่า จัดเตรียมให้แล้ว ดังนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่ครูสอนจะต้องศึกษาตำราหนังสือที่ได้รับแจกนั้นด้วย พบว่า บางหัวข้อนั้นขัดแย้งกับเอกสารคู่มือที่อบรม อย่างสิ้นเชิง หากครูไม่ได้เตรียมข้อมูลอธิบายให้ชัดเจน นักเรียนจะเกิดการสับสนที่จะเชื่อครูหรือตำรา/หนังสือแจกฟรีกันแน่ เช่นกันขณะดำเนินกิจกรรมร่วมกันแสดงความคิดเห็นหากนักเรียนมีหนังสือเปิดเรียน แทนที่จะช่วยกันคิดในกลุ่มกลับไปใส่ใจเอาคำตอบในหนังสือมาตอบโดยไม่ได้ผ่านกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันในกลุ่มหรือในชั้นเรียน ฉะนั้น ตรงนี้ครูอาจจะให้นักเรียนไป อ่านประกอบหรือทบทวนหลังจากเสร็จกิจกรรมไปแล้ว รวมถึงการตอบคำถามในแบบฝึกหัด สรุปได้จากหนังสือหรือกิจกรรมที่ผ่านมา
กิจกรรมในชั้นเรียน วิทยาลัยสารพัดช่างพิจิตร
ผู้บริหาร พบว่า บางท่านเมื่อโยกย้ายไปสถานศึกษาใหม่ และเคยร่วมโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจมาก่อน เห็นกระบวนการสอนและกิจกรรมรายวิชานี้น่าสนใจซึ่งจะเป็นประโยชน์กับครูและนักเรียน จึงให้เปิดสอนในสถานศึกษาใหม่ที่มาดำรงตำแหน่ง ขณะที่อีกหลายแห่งทั้งผู้บริหารและครูเห็นถึงความจำเป็นและสถานการณ์ปัจจุบันเกี่ยวกับวัยรุ่น จึงเปิดสอน อย่างไรก็ตาม การเปิดสอนนั้น หากจะให้ครบกระบวนการทั้งหมดนั้น จึงเสนอแนะให้ครูได้ผ่านกระบวนการอบรมในรายวิชา โดยมีสำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพรับผิดชอบ ต่อด้วย การนิเทศติดตามการสอนจากผู้รับผิดชอบที่ต้องผ่านกระบวนการอบรมทั้งการสอนและการนิเทศเช่นกัน เพื่อจะได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันพูดในเรื่องเดียวกัน
เครือข่ายครูสอนเพศศึกษา พบว่า จากกระบวนการอบรม ทำให้ครูที่สอนในรายวิชานี้มีเครือข่ายทั้งในภาคเดียวกัน หรือต่างภาครวมถึงการประสานงานและความสัมพันธ์กับผู้รับผิดชอบโครงการทั้งบุคลากรในสำนักมาตรฐานการอาชีวศึกษาและวิชาชีพ และ patch และหากมีการนิเทศติดตามที่แต่ละภาครับผิดชอบ ศึกษานิเทศก์ก็เป็นอีกเครือข่ายหนึ่ง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับครูที่จะมีคนคอยให้คำปรึกษาแนะนำหรือร่วมแลกเปลี่ยนแสดงความคิดเห็น เช่นเดียวกันกับวิชาอื่น ที่หวังให้เกิดในการจัดการเรียนการสอนใน สอศ.
ท้ายสุดเป็นเรื่อง ครูผ่านกระบวนการอบรมแต่ไม่สอนรายวิชานี้ จากการติดตาม พบว่า บางสถานศึกษามีครูที่เข้ารับการอบรมแต่ไม่ได้สอนรายวิชาเพศศึกษาในสถานศึกษานั้น ๆ อาจจะด้วยความเข้าใจไม่ตรงกันของฝ่ายจัดแผนการเรียน งานวิชาการ จึงไม่เปิดสอน ครูไม่อยากสอนรายวิชานี้เนื่องจากชื่อวิชา ครูไม่อยากสอนเพราะจะมีการนิเทศติดตาม ครูยังไม่อยากสอนเพราะได้เตรียมแผนการสอนรายวิชาที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว ครูติดกับกระบวนการสอนแบบเดิม ๆ ยังไม่ต้องการเปลี่ยนวิธีการสอนเป็นแบบอื่น จะด้วยเหตุผลประการใดก็ตามข้างต้น ครูที่ผ่านการอบรมอย่างน้อยที่สุดก็ได้เรียนรู้วิธีการสอนที่จะทำอย่างไรให้นักเรียนได้แสดงความคิดเห็น วิเคราะห์สถานการณ์จากเบื้องต้นที่สุดไปสู่ขั้นตอนที่ยากขึ้นตามลำดับ ท้ายที่สุด ตัวของนักเรียนเองนั้นแหละจะเป็นผู้เลือกเอง โดยที่เขาจะต้องเรียนรู้การนำข้อมูลและสถานการณ์ต่าง ๆ มาช่วยในการตัดสิน หากไม่เปิดสอนรายวิชานี้ อย่างน้อยอยากเห็นครูเอากระบวนการที่ได้รับจากการอบรมไปสอดแทรก ให้นักเรียนได้ฝึกคิด วิเคราะห์โดยที่ไม่ใช้วิธีการบอกหรือยึดครูแต่เพียงผู้เดียว ก็ยอมรับว่า อย่างน้อยก็เข้าจุดประสงค์ของโครงการบางส่วน แม้ไม่ได้ทั้งหมดตามที่ต้องการ
นางสาวพิมพร ศะริจันทร์ ศึ กษานิเทศก์ เขียนวันที่ 16 กันยายน 2552
จากการนิเทศติดตามโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ
วษท.พะเยา (31 กันยายน 2552) วช.พิจิตร (2 กันยายน 2552)
วก.วิเชียรบุรี (3 กันยายน 2552) และ วก.แม่ฮ่องสอน (7 กันยายน 2552)
ผู้ที่จะนำบทความ รูปภาพไปตีพิมพ์ต้องได้รับอนุญาตอย่างเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียนเท่านั้น
ผลงานและสิ่งพิมพ์ของผู้เขียน ปรับปรุงข้อมูล วันจันทร์, 21 กันยายน 2552
ติดต่อผู้เขียนที่ [email protected]
ไม่มีความเห็น