ชายหนุ่มสามสี่คน แต่ละคนร่างกายค่อนไปทางบอบบางแบบคนเมือง กำลังสับเปลี่ยนกันใช้ฆ้อนเหล็กขนาดใหญ่ทุบลงไปบนพื้นคอนกรีตอย่างกุลีกุจอ
พื้นปูนซีเมนต์ทั้งหนาและแข็งค่อยกระเทาะออกทีละน้อย สะเก็ดปูนกระเด็นกระดอน จนผู้คนที่อยู่รอบข้างกระโดดหลบแทบไม่ทั่วไม่ทัน
เพราะว่าร่างกายมีความแข็งแรงจำกัด แทนที่จะใช้เวลาไม่นานนักกับการกะเทาะเอาพื้นซีเมนต์เก่าออกเพื่อจะวางตะแกรงเหล็กเพื่อเทพื้นใหม่ให้เป็นทางลาดอำนวยความสะดวกในการใช้รถวีลแชร์ของผู้พิการ จึงใช้เวลาเนิ่นนาน นานกว่ามืออาชีพหลายเท่าตัว...
มือที่เคยจับปากกา พรมอยู่บนแป้นคีย์บอร์ดคอมพิวเตอร์ วันนี้สวมถุงมือหนัง กำฆ้อนเหล็ก ทุบ ทุบ ทุบ และทุบอย่างไม่ยั้งลงไปบนพื้นปูน แม้จะมีถุงมือหนังหนาหุ้มอยุ่ แต่ก็มิวายจะเกิดตุ่มน้ำใส ๆ บนผ่ามือ อันเกิดจากการเสียดสีและกระแทกกระทั้น
ยังมิทันที่จะผูกตะแกรงเหล็กเสร็จ หนุ่มสาววัยใสอีกกลุ่มหนึ่งต่อแถวกันส่งหินและทรายลงเครื่องโม่ปูนซีเมนต์ ผสมปูนเพื่อนำไปเทพื้นปนตะแกรงที่ผูกลวดรอไว้
“...กุ๊กกิ๊ก พี่วานไปเอาข้าวห่อที่ร้านป้าบุปผา หน่อยสิ ป้าแกเตรียมไว้ให้แล้ว...”
ป่าน – พัฒนพงษ์ ธรรมวัติ ประธานชมรมเพื่อนผู้พิการ ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง หนึ่งในชายหนุ่มร่างบอบบางส่งฆ้อนเหล็กให้เพื่อน ตะโกนแข่งกับเสียงโม่ปูน ให้เพื่อนผู้น้อง สมาชิกชมรมเดียวกันไปเอาข้าวห่อเพื่อเป็นอาหารมื้อเที่ยงสำหรับอาสาสมัครที่มาช่วยงานจากร้านขายอาหารในโรงอาหารของมหาวิทยาลัย ซึ่งป้าบุปผาที่กล่าวถึงเป็นเจ้าภาพอาหารกลางวันทุกวันที่สมาชิกมารวมตัวกันทำงาน ซึ่งมักจะเป็นวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดเรียนในช่วงการเรียนภาคฤดูร้อน
นอกจากข้าวห่อที่ป้าบรรจงทำเป็นพิเศษทั้งคุณภาพและปริมาณแล้ว ร้านขายเครื่องดื่มใกล้กันก็ยังสมทบน้ำแข็งให้กับทางชมรมได้เท่าที่ต้องการ กุ๊กกิ๊ก – นภาพร กองเงิน นักศึกษาชั้นปีที่ ๒ คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สมาชิกชมรม ซึ่งรับผิดชอบฝ่ายสวัสดิการจะนำกระติกไปใส่น้ำแข็ง เทน้ำผสมลงไปแล้วรินเสิร์ฟเพื่อน ๆ ทุกคราวที่มาช่วยงาน
...
ณ ร้านวัสดุก่อสร้างในตัวเมือง ไม่ไกลจากคณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เท่าใดนัก
“...พี่ เงินผมไม่พอ ขอแปะไว้ก่อนได้ไหมครับ แล้วผมจะรีบหามาจ่ายให้...”
ดอย - สักก์สีห์ พลสันติกุล อดีตประธานชมรมเพื่อนผู้พิการ อ้อนวอนเจ้าของร้าน เพื่อขอซื้อเงินเชื่อปูนซีเมนต์ และวัสดุก่อสร้างบางอบ่างที่จะนำไปใช้ทำทางลาด ซึ่งขณะนี้ปูนซีเมนต์หมด หมดลงพร้อมกับเงินที่เตรียมไว้ เมื่อรับรู้เจตนารมย์เจ้าของร้านก็ยินยอมอย่างเต็มใจให้เอาของไปก่อน แล้วค่อยมาจ่ายวันหลัง
บรรดาวัสดุก่อสร้างที่จำเป็นต้องใช้จึงถูกขนมายังไซด์งานทันท่วงที และสามารถทำทางลาดได้สำเร็จถึง ๓ แห่ง แม้จะน้อยกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้ ๑๔ แห่ง และใช้เวลาเกินไปกว่าที่กำหนด แต่ทั้งหมดคือความภาคภูมิใจของเหล่าสมาชิกชมรมเพื่อนผู้พิการ
งานทำทางลาดสำหรับผู้พิการนี้ เป็นกิจกรรมหนึ่งในสามที่คิดค้นขึ้นจากการเข้าค่ายเพื่อนผู้พิการ โครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ผ่านเครือข่ายพุทธิกา ซึ่งกิจกรรมนี้รับผิดชอบโดยป่าน – พัฒนพงษ์ ธรรมวัติ
พัฒนพงษ์ ธรรมวัติ นักศึกษาชั้นปีที่ ๓ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานชมรมเพื่อนผู้พิการคนที่สอง ต่อจาก สักก์สีห์ พลสันติกุล ประธานชมรมฯ คนแรก ที่เพิ่งจะจบเป็นบัณฑิตหมาด ๆ เมื่อภาคเรียนที่ผ่านมา พัฒนพงษ์ เล่าถึงกิจกรรมนี้ว่า
“...เราวางไว้จะเริ่มดำเนินการในช่วง summer แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ไม่ง่าย เพราะต่างคนก็ต่างติดเรียน วันธรรมดานี่ไม่ได้เลย ต้องใช้เวลาวันหยุด เสาร์ – อาทิตย์...”
สำหรับบรรดาหนุ่มสาวที่มาช่วยทำทางลาดนั้น นอกจากเป็นสมาชิกชมรมฯ แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นอาสาสมัคร ซึ่งเป็นนักศึกษาจากในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่ทางชมรมประชาสัมพันธ์ให้เข้ามาร่วม
“...เราไปตั้งโต๊ะรับอาสาสมัครที่จะมาช่วยงานที่ อมช. (องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่) ตั้งโต๊ะกันอยู่ ห้าวัน ตั้งทีมกันไปเต้นโนบอดี้เรียกร้องความสนใจ แจกเอกสาร ตั้งแต่เที่ยงถึงบ่ายสามทุกวัน ได้มา ๓๖ คน แต่เอาเข้าจริงแล้วมาช่วยเราจริง ๆ แค่สิบกว่าคน คิดว่ามันเป็นวันหยุดเขาเลยอยากจะพักผ่อน...
...ตั้งโต๊ะเสร็จแล้วเรา ก็ประชุมเตรียมงานกัน แบ่งออกเป็นฝ่ายก่อสร้างฝ่ายศิลปกรรม ฝ่ายสันทนาการ ฝ่ายสวัสดิการฝ่ายสันทนาการ...
พัฒนพงษ์ เล่าถึงที่มาของอาสาสมัครที่มาช่วยงาน และได้กล่าวถึงเหตุผลเบื้องหลังที่ตนเองเป็นเรี่ยวแรงในการทำงานนี้ว่า
“...ส่วนหนึ่งก็เป็นการตอบโจทย์สิ่งที่สังคมกำลังต้องการนั่นคือความเป็นจิตอาสา ตอนนี้สังคมตั้งคำถามมาก เด็กมหาลัย เด็กเรียน มันเรียนอย่างเดียว ทำไมนักศึกษามุ่งแต่ศึกษาตำรา แล้วจบไปใช้แต่ตำราไม่ได้มองสังคมไม่ได้มองบริบทอะไรเลย สิ่งที่เราทำเนี่ยเป็นการสื่อสารออกข้างนอกว่ามันไม่ใช่ว่ามันไม่มี เพียงแต่มันยังมีน้อย แล้วเราจะเป็นจุดหนึ่งที่จะไปเติมเต็มความน้อยนั้นให้มันมากขึ้น สะท้อนออกไปว่ายังมีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่ยังคิดจิตอาสาและมีเจตนาที่จะสืบสานต่อไป...”
แม้ว่างานจะยังไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ทางลาด ๓ แห่ง ที่อาสาสมัครช่วยกันดำเนินการโดยใช้เวลาว่างในวันหยุดจนแล้วเสร็จและใช้งานได้ กระทั่งเรื่องราวดี ๆ นี้ขึ้นไปถึงมหาวิทยาลัย และมีแนวโน้มว่ามหาวิทยาลัยจะสานภารกิจนี้ต่อ มีปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จนี้ นอกจากใจเกินร้อยของบรรดาหนุ่มสาวอาสาสมัครและสมาชิกจากชมรมฯ แล้ว ยังผู้ที่มีบทบาทอย่างยิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ พัฒนพงษ์ เล่าว่า
“...งานเดินมาถึงขนาดนี้ได้ต้องขอบคุณอาจารย์ป้อมสุด ๆ เลย ให้ทั้งคำปรึกษา ประสานกับทางมหาวิทยาลัยให้ ประสานแหล่งทุนให้ เราหาเงินไปจ่ายค่าวัสดุไม่ได้ แกก็ช่วยออกให้ไปก่อน ถ้าไม่มีอาจารย์ป้อมเราคงทำงานยากกว่านี้...”
กำลังสนุกชวนติดตามค่ะ
และแล้วทางลาดทั้งสามก็สำเร็จได้ ไชโย เก่งมากๆค่ะ
เรื่องราวจิตอาสาของหนุ่มสาวนักศึกษามีพลังมากค่ะ
ถ้าเขาได้สัมผัสกับความสุขในการเป็นผู้ให้
เหมือนที่พี่เคยได้ให้และรับในสมัยเป็นนักศึกษา
ว้า...เล่าเรื่องเก่าก็แก่สินะคะ อิอิ
น่าอ่านและชวนติดตามค่ะ
ขอบคุณค่ะ
โห...มาแอบ ดูเม้น อ.ธนิตย์ มีลูกเรียน มหาลัย อิอิ
พี่หนานคะ มีโทรหาพี่ตรึมไหมคะ พี่เล่นให้เบอร์ซะงั้น อิอิ
อ.ธนิตย์ สุวรรณเจริญ ครับ
แหะ แหะ มีลุกเรัยน มช. ๒ คน แล้ว
เฌวาผมเพิ่งจะเข้าโรงเรียนเดือนหน้า...
ขอบคุณที่แวะมาครับ
อ้อ.. ลูกเรียนคณะไหนกันบ้างละครับ...
ตอบหนานเกียรติส่งไปให้แล้วครับ โทรศัพท์ที่อยู่ดูเอาหนา
เชิญติดต่อถามไถ่ได้ทุกเวลา จิตอาสาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
อ๋าว... พอลล่าโร ไม่ยอมรับนะคะ อิอิ
สวัสดีค่ะ
อ.ธนิตย์ สุวรรณเจริญ ครับ
อาจารย์สบายแล้ว ผมกำลังลำบากและจะลำบากขึ้นเรื่อย ๆ ....
ต้องไปขอวิชาเลี้ยงลูกซะแล้วละซีครับ...
อ.ขจิต ฝอยทอง ครับ
ขอบคุณที่แวะมาอ่าน ดีใจที่ชอบครับ ค่ำนี้จะขึ้นต่อตอนจบ ตามอ่านนะครับ
ผมไปนครปฐมมาสองวันแล้ว วันก่อนไปบางเลน ไปแถววัดศิลามูล วันนี้ข้ามไปอีกฟากที่วัดโพรงมะเดื่อครับ พรุ่งนี้จะไปแถวดอนตูมครับ
จำไม่ได้ว่าต้องไปแถวกำแพงแสนวันไห แต่เป็นสัปดาห์หน้าครับ
เห็นว่าสมาชิกที่ขอนแก่นเต็มแล้ว ไม่รู้ยังมีที่ว่างไหม ถ้ามีอยากไปครับ เพราะเคลียร์คิวแล้ว
มีบุญวาสนาคงได้พบอาจารย์ที่ขอนแก่นครับ
น้อง ♥paula ♥ที่ปรึกษาตัวน้อย✿ ครับ
อ้าวเบอร์น้องเองเหรอ
โทรมาใหม่นะ
หรือไม่ก็ส่งเป็นข้อความสั้นมาให้โทรกลับก็ได้ครับ
พี่ ครูคิม ครับ
ขอบคุณที่ตามมาอ่านครับ ดีใจหลายที่ชอบ
เดี๋ยวตามไปอ่านบันทึกใหม่นะครับ
อ้อ... อย่าลืมไปแวะชมเมฆผมด้วยนะครับ เมฆที่ดอยมูเซอ บ้านปู่ย่าเฌวาครับ
สวัสดีครับ พี่ หนานเกียรติ
มาติดตามต่อครับ
ขอบคุณครับ
did ครับ
ขอบคุณที่แวะมาอ่าน และตามอ่านอย่างต่อเนื่อง
ตามอ่านอย่างนี้ เขียนตายยยย เลยครับ....
(แหะ แหะ อย่าเพิ่งเบื่อนะ เดี๋ยวเขียนแล้วไม่มีคนอ่าน...)
อยากรู้ว่าชมรมเพื่อนผู้พิการจะมีกิจกรรมอะไรอีกตอนเปิดเทอมนี้ค่ะ พอดีว่าอยากเข้าไปช่วยทำอีกค่ะ ช่วยประชาสัมพันธ์ด้วยนะค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีครับ คุณ phuri
สอบถามไปที่น้องป่าน ประธานชมรม อยู่ที่คณะสังคมฯ ได้เลยครับ
เดี๋ยวผมจะลองค้นเบอร์โทรศัพท์ให้นะครับ
น่าชื่นชมคนจิตอาสาจริง ๆ ครับ
ขอบคุณมากนะคะ :> พอดีอยู่ชมรมนี้อ่ะค่ะ แต่ไม่ได้ติดตามงาน เลยอยากจะกลับเข้าไปช่วยเหมือนเดิมอีกนะคะ