SELF-EFFICACY OF FATIGUE MANAGEMENT IN THAI PEOPLE
Supalak Khemthong
Occupational Therapy Division, Faculty of Physical Therapy, Mahidol University, Thailand
Introduction: Fatigue management for people with and without chronic conditions has been reported in term of improvement of self-efficacy in daily livings. However, this is a new concept and implication for Thai people in the field of occupational therapy service. Therefore, small group discussion over 5 weeks had been conducted among an occupational therapist, a client with cancer (A), a client with rheumatoid arthritis (B), and a client preferred Buddhist and spiritual health (C).
Objectives: This pilot study aimed to understand self-efficacy of fatigue management among Thai people.
Report: Fatigue management, programmed from previous studies, was introduced to 3 people with different backgrounds and health conditions. The structured exercises consisted of 5 sessions (2 hours per session, 1 session a week): fatigue in daily lives, banking energy, body communication, activity schedule, and balancing activity domains. Rating scale of self-efficacy per participant (the least score of 1 to the most score of 10) was reported after each session. Client A decreased feeling of physical fatigue and increased self-efficacy of fatigue management from 5 (1st session) to 8 (5th session). Client B decreased feeling of mental fatigue and increased self-efficacy of fatigue management from 4 (1st session) to 7 (5th session). Client C decreased feeling of cognitive fatigue and increased self-efficacy of fatigue management from 6 (1st session) to 8 (5th session).
Discussion: Attitudinal motivation and inspiration of the individuals appears to be a major factor regarding fatigue management. Understanding of self-efficacy through health and occupational performance must be shared and learned as an interactive group.
Conclusion: Self-efficacy of fatigue management has improved over 5 weeks in different cases of Thai people.
Evidence Base of Occupational Therapy: This report has showed an important evidence for occupational therapists and further implications of interventions in a wider population.
ปัจจุบัน ผมได้ติดตามผลผู้ป่วยโรคมะเร็ง 2 กรณีศึกษา ภายหลังจากท่านหนึ่งที่เป็นเพื่อนคุณแม่ของผม เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ระยะที่สาม ได้เข้าโปรแกรมกับผมจนสามารถสื่อสารกับร่างกายและจัดการแผนการทำกิจกรรมการดำเนินชีวิตโดยป้องกันสภาวะความล้าทางร่างกาย ที่เกิดจากการสูญเสียพลังงานในร่างกายขณะทำการเคมีบำบัด ...ผมพบว่ากรณีศึกษาท่านนี้มุ่งมั่นดำเนินชีวิตเพื่อครอบครัวที่เขารักและทำงานได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องมีการใช้เวลาว่างที่มีคุณค่า จากที่เคยถ่ายใส่ถุงหน้าท้อง ก็กลับสู่การถ่ายผ่านลำไส้ด้วยการผ่าตัดใหม่และฝึกทักษะการขับถ่ายอีกครั้ง เขาภูมิใจนำเสนอ "บ้านนก" ที่เกิดจากความคิดที่ไม่อยู่ว่าง ออกแบบบ้านเล็กๆ จากกล่องพิซซา แล้วจ้างช่างมาต่อเติมให้กลายเป็น "บ้านนก" อยู่มุมหน้าบ้าน คล้ายบ้านบนต้นไม้ ติดกระจกมองได้สี่มุมบ้าน บ้านทรงแป้นทำให้รับลมเย็นๆ และกันเปียกเวลาฝนตกได้ ใช้เป็นที่พักผ่อนคลายกายใจได้ดีจริงๆ กรณีศึกษาท่านนี้ไม่รู้สึกกังวลถึงผลกระทบของโรคมะเร็งหรือเคมีบำบัดที่ทำให้เกล็ดเลือดต่ำลงเรื่อยๆ เขาวางแผนที่จะใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวภายในช่วง 2 ปีอย่างมีความสุขที่สุดแห่งชีวิตบนโลกใบนี้
อีกท่านหนึ่งคือลุงของผม ซึ่งท่านเข้าโปรแกรมกับผมเพียงครั้งเดียวจากห้าครั้ง ท่านให้เหตุผลว่า อยากอยู่บ้านเขียนหนังสือมากกว่า และไม่สะดวกเดินทางมาเข้าโปรแกรมที่บ้านผม จริงๆ แล้วคุณลุงเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะแรกและผ่านเคมีบำบัดช่วงแรกจนดีขึ้นแล้ว เพียงแต่ขาดการวางแผนการใช้พลังงานและการรู้จักจัดการความล้าทางร่างกายที่สัมพันธ์กับความล้าทางความคิดและจิตใจ ล่าสุดผมได้ไปเยี่ยมคุณลุง ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งเนื่องจากคุณหมอสงสัยว่าเซลล์มะเร็งจะลามไปที่ลำไส้ใหญ่จนเกิดอาการอักเสบตรงท้องน้อย พร้อมมีเกล็ดเลือดและเม็ดเลือดขาวต่ำมากเกินไป จึงงดเคมีบำบัดเพื่อรอการวินิจฉัยอีกครั้ง ผมเข้ากอดคุณลุงด้วยความรักและส่งกำลังใจให้คุณลุงรักษาสุขภาพให้สมบูรณ์ยั้งยืนนานๆ ผมนัดคุณพ่อและคุณอาที่ไปเยี่ยมว่า "อย่าคอยถามว่าอาการเป็นอย่างไร อยากให้คุยสบายๆ ถึงเรื่องชีวิตที่ผ่านมาสมัยเรียนจนถึงคุยเรื่องชีวิตที่ดีของญาติพี่น้อง" สังเกตคุณลุงกินกับข้าง รพ. ที่ดูไม่น่าอร่อย พร้อมคุยกับพวกเราอย่างมีชีวิตชีวา แทนที่จะนั่งรอผลการตรวจต่างๆ เกือบสองอาทิตย์ ในห้อง VIP พร้อมคนดูแลจากศูนย์ ที่ต้องจ่ายให้วันละ 600 บาท
ผมคิดทบทวนว่า "โปรแกรม Fatigue Management ที่อาศัยแนวคิดกิจกรรมบำบัดและการจัดการความคิดเพื่อส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่คนหนึ่งคน" ส่งผลให้เห็นความแตกต่างของการได้รับผลกระทบจากโรคมะเร็งจาก 2 กรณีศึกษานี้
ปล. หากท่านสนใจเรื่อง กิจกรรมบำบัดกับความล้า ลองเปิดชมรายการ One World ทางช่องทีวีไทย ศุกร์ที่ 18 และ 25 กันยายน นี้ เวลา 15.30 น.
ขอบคุณ คุณหมอป๊อบ สำหรับข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ถ้ามีขัอมูลเพิ่มเติม กรุณานำมาอัพเดท อีกนะค่ะ
ยินดีอย่างยิ่งครับพี่สา
อบรมฟรี กิจกรรมบำบัดจิตสังคมกับการจัดการมะเร็ง 17 ก.ย. 54
คลิกอ่านประชาสัมพันธ์ที่ http://www.gotoknow.org/classified/ads/1623