"ค่ายอาสา" ปัจจุบันนี้เติบโตมาท่ามกลางกระแส "จิตอาสา" ซึ่งกำลังได้รับการตอบรับที่เพิ่มขึ้นเพราะทุกวันนี้โลกกำลังเผชิญวิกฤติเพิ่มขึ้น เช่น ประสบภัยพิบัติตามธรรมชาติ ผู้คนอดอยากยากไร้ ได้รับอุบัติภัยต่างๆ ฯลฯ คนในสังคมจึงต้องหันมาช่วยกันมากขึ้น
เยาวชนคนหนุ่มสาว หรือแม้แต่ประชาชนทุกเพศทุกวัยจึงควรหันมาช่วยกันคนละไม้คนละมือ สละแรงกาย ทรัพย์สิน สติปัญญา มอบกำลังใจให้แก่กันโดยไม่เห็นแก่สินจ้างรางวัล นอกจากแสดงเมตตาและกรุณาต่อกัน หวังให้เพื่อนมนุษย์มีความสุขหรือพ้นจากความทุกข์ด้วยพลังแห่งจิตอาสา
เช่นเดียวกับเยาวชนคนรุ่นใหม่หรือนักศึกษามหาวิทยาลัยหลายแห่ง ส่วนหนึ่งเขาหรือเธอได้หันมาทำงาน "ค่ายอาสา" ร่วมแสดงพลังของการให้ สร้างสาธารณประโยชน์หรือ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีก้บชาวบ้าน เรียนรู้วิถีชีวิตวัฒนธรรมที่หลากหลาย เพื่อสร้างสมความเข้าใจในเพื่อนร่วมสังคม ด้วยกิจกรรมไปออกค่ายตามชนบทหรือพื้นที่ห่างไกลจากเมือง ยอมเหน็ดเหนื่อยและเผชิญความไม่สะดวกสบายในการดำรงชีวิต เพื่อแลกกับการเป็นอาสาสมัครชาวค่าย ได้รับความสุขทางใจ ได้เรียนรู้ปัญหาสังคมในรูปแบบต่างๆ แม้ว่าจะใช้เวลาเพียงสั้นๆในช่วงปิดภาคเรียน แต่ก็เป็นการจัดการเวลาที่แสนคุ้มค่ายิ่ง
"ชาวค่ายอาสาได้รับมุมมองชีวิตที่แตกต่าง เข้าใจชีวิต เข้าใจสังคมเพิ่มขึ้น ปรับตัวเข้ากับเพื่อนๆชาวค่าย ชาวบ้าน เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเอกชนที่เข้าไปประสานงานได้อย่างเข้าอกเข้าใจ..."
วัฒนธรรมแห่งการให้หรือจิตอาสาที่สร้างสรรค์ผ่านทางกิจกรรมการออกค่ายอาสาตามชนบทต่างๆ ช่วยสร้างการเรียนรู้เชิงประจักษ์และสร้างการเรียนรู้ที่จะจัดการปัญหาในสถานการณ์ต่างๆของชีวิตได้เป็นอย่างดี นักศึกษาจะเรียนรู้แต่ในห้องเรียนคงไม่ได้ เพราะอาจจะไม่สามารถเชื่อมโยงตัวเองเข้ากับชีวิตที่แตกต่างได้อย่างกลมกลืนและเป็นมิตรเท่าไรนัก
ในชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนจนมองหาความสุขไม่พบ เป็นชีวิตที่ผ่านวันผ่านคืนที่ว่างเปล่าเงียบเหงา ซ้ำซากเกินไป ปัญญาชนคนรุ่นใหม่หรือแม้แต่บุคคลทุกคนในสังคมน่าจะลองหันมาทำงานด้านจิตอาสากันสักครั้ง ไม่ใช่เฉพาะแต่คนที่เข้าไปร่วมออกค่ายตามชนบท หากแต่ยังหมายถึงคนที่จะเข้าไปร่วมทำงานเพื่อคนที่ด้อยโอกาสกว่า มองให้ไกลจากการทำแต่เพื่อตัวเอง ท่านอาจมองเห็นพลังที่เข้มแข็งและเรี่ยวแรงอันมากมหาศาลในตัวเอง เพื่อร่วมผลักดันสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นในสังคมของเราต่อไปได้ ที่สำคัญคือเราจะมีพลังใจนำพาตัวเองไปสู่ชีวิตที่มีคุณค่า ความหวัง และความสุขได้ด้วย "พลังความงามในจิตใจ"
"ขอเพียงท่านจงแสวงหา..."
ค่ะ พลังทางจิตใจช่วยให้เราทำงานได้ด้วยความสุข ทางกลุ่มก็เป็นจิตอาสาชื่อยุววินเซนเดอปอลที่ช่วยให้นักเรียนใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ต่อผู้ยากไร้ เช่นนำสิ่งของไปบริจาค การไปเยี่ยมเยือน
อ่านความคิดของอาจารย์แล้วเพิ่มคิดของผู้อ่านได้ดีค่ะ
อั๋นคิดว่ามันเป็นอะไรที่ดีมากๆเลยนค่ะ เพราะอั๋นก็ชอบกิจกรรมแบบนี้มากๆเลยค่ะ