วันนี้ผมขับรถผ่านโรงเรียนที่ผมเคยเรียนสมัยประถมฯแห่งหนึ่งในจังหวัดปัตตานี โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนไทยพุทธ และไทยมุสลิมเรียนรวมกัน แต่นักเรียนส่วนใหญ่เป็นมุสลิมร้อยละ 90 เช่นเดียวกับชุมชนรอบๆ บริเวณโรงเรียนเป็นชาวมุสลิมประมาณร้อยละ 80 ทุกวันผมเห็นความสงบและความสุขทั้งครู นร. และผู้ปกครอง อยู่ร่วมกันได้อย่างสงบสุข แต่ก็มีบ้างในบางครั้งทีมีความรุนแรงเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากหลายสาเหตุ แต่ครั้งนี้ผมเห็นต้นไม้ใหญ่ที่โรงเรียนผูกผ้าแดง เหลือง และขาว
ผมโทรศัพท์ไปถามครูในโรงเรียนทันทีด้วยความวิตกกังวลเป็นยิ่งนักว่า เรื่องเล็ก ๆ จะกลายเป็นจุดฉนวนความแตกต่าง สร้างให้เกิดความรู้สึกว่า ประเพณี ศาสนา ความเชื่อ ค่านิยมของกลุ่มหนึ่งมาครอบงำความคิด ความเชื่อของอีกศาสนาหนึ่งหรือไม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มใหญ่ คุณครูในโรงเรียนนั้นให้คำตอบว่า ไม่ทราบที่มาเหมือนกัน เกิดขึ้นมาเมื่อ 3 วันแล้ว แต่ก็มีกลุ่มครู และชาวบ้านตั้งคำถามด้วยความสงสัยเหมือนกัน
ผมถามครูอีกคนหนึ่งพบคำตอบว่า ครูคนหนึ่งฝันอะไรสักอย่าง เลยแก้บนโดยวิธีสักการะแบบพราหมณ์ โดยนำผ้าแดงมาผูกไว้ที่ต้นไม้ใหญ่หน้าโรงเรียน ผมกำลังคิดว่า หากทั้งสองฝ่ายทั้งไทยพุทธ ไทยมุสลิมไม่ได้คุยกัน โดยเฉพาะครูที่ผูกผ้าคนดังกล่าวไม่พยายามอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจ หรือกล่าวอีกอย่างว่า ถ้าแต่ละฝ่ายไม่พยายามเข้าใจวัฒนธรรมของผู้อื่นผ่านทางกรอบของวัฒนธรรมนั้น ๆ ความขัดแย้งจะเกิดขึ้นแน่นอน้น
ผมคิดว่าใคร ๆ ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ถึงแม้จะอยู่ท่ามกลางความแตกต่างแต่เรามีเป้าหมายร่วมกันคือ ทุกคนในสังคมความหลากหลายวัฒนธรรมสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ จริงไหมครับ?
สวัสดีค่ะ อ.ชวลิต
มาชม มาเชียร์ค่ะ
ขอบคุณค่ะ