คืนที่ฝนตก ในฤดูแห่งการเปียกปอน

คืนที่ฝนตก ในฤดูแห่งการเปียกปอน 

          วันนี้ก็เหมือนเช่นเคย ที่เราในนามคนทำงานกับคนด้อยโอกาสมีเรื่องราวดีดี มีมุมที่พบเห็นในสังคมมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นหนึ่งเสียงที่สามารถส่งเรื่องราวให้สังคมได้รับรู้ เมื่อคืนวันอังคาร ที่ 8 กันยายน 2552 ที่ผ่าน เป็นเหมือนเช่นเคยที่เราได้ลงพื้นที่สนามหลวง แต่วันนี้มีคนมาลงพื้นที่ร่วมกับเราหลากหลาย มีทั้งสื่อ จากรายการคิดดี ทำดี มาตามถ่ายทำกิจกรรมที่เราทำงานกัน มีน้องนักศึกษาลงมาทำสารคดี พนักงานบริการที่สูงอายุ และอาสาสมัครคนหนึ่งที่สนใจในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ที่ไม่เป็นการทำกิจกรรมเหมือนการออกค่าย หรือกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมเพียงแค่วันสองวันก็หมดกิจกรรม แต่อยากมาเรียนรู้และมาทำกิจกรรมในรูปแบบอย่างอิสรชน คือ มาทำกิจกรรมในเชิงด้านให้กำลังใจ สร้างแรงบันดาลใจให้กันและกัน และร่วมสร้างสรรค์กิจกรรมดีดีเพื่อกันและกัน ในที่นี้หมายถึง อิสรชนจะบอกต่ออาสาสมัครที่เข้ามาเสมว่า อิสรชนเป็นเพียงสะพานที่เชื่อมให้คนด้อยโอกาสมาเรียนรู้ร่วมกัน คือมองทุกคนในสังคมเป็นคนด้อยโอกาส คนไร้บ้านหรือคนที่ใช้ชีวิตในพื้นที่สาธารณะ พนักงานบริการ คือกลุ่มคนที่เราทำงานด้วยก็เป็นคนด้อยโอกาส และอาสาสมัครคนเมือง คนทำงาน เราก็ถือว่าเป็นคนด้อนโอกาส มาเรียนรู้ในมุมที่ตนเองด้อยกว่า มาหาเพื่อนคุยในยามที่ท้อแท้ แลสุดท้ายต่างคนก็ต่างได้เรียนรู้ร่วมกัน และเกิดกำลังใจซึ่งกันและกัน ที่จะพัฒนาตนเองและต่อสู้ไปในวันข้างหน้า

          เช่นเดียวกันอาสาสมัครคนที่มาวันนี้ ท่านมีอาการป่วยหนักและเครียดกับอาการป่วยของตนเอง เลยคิดที่จะออกมาทำกิจกรรมเพื่อสังคม เพื่อจะได้ไม่หมกหมุ่นอยู่กับการป่วยไข้ของตนเอง มาหากำลังในสนามหลวง มาคุยกับคนที่เขาแย่กว่า เจออะไรมากกว่า และสุดท้ายเขายังยืนอยู่ได้ เหมือนกับอาสาสมัครหลาย ๆ คนที่ยามท้อแท้ สินหวัง มีปัญหา ในทุกด้านก็จะนึกถึงสนามหลวง นึกถึงกิจกรรมของอิสรชน และลงมาเพียงแค่ได้คุยกับคนไร้บ้น พนักงานบริการ ก็มาคลายความเครียดไปได้ มีกำลังเพิ่มมากขึ้น และพร้อมที่กับไปต่สู้กับปัญหาของตน เพราะคนที่ออกมาเร่ร่อน นั้นเขาพบเจอปัญหามามากมายแต่เขาก็พร้อมที่จะหาความสุขหรือยังต่อสู้แม้จะไม่มีใครเห็นแต่สิ่งหนึ่งที่เขามีคือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ที่ทำให้เขาไม่คิดสั้น และมีชีวิตอยู่เพื่อรอการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

          ส่วนในมุมของคนด้อยโอกาสก็เช่นเดียวกันเขาพร้อมที่จะเรียนรู้หรือหาโอกาสที่จะได้เรียนรู้หรือพัฒนาตนเองเพียงแค่มีคนมองเห็นเขาและอ้าปากพูดคุยกับเขาแค่ประโยคเดียว และอีกหลายเรื่องราวของเขาก็จะเล่าสู่เราเอง และในขณะเดียวกันเขาก็เกิดการพัฒนาตนเองไปพร้อมกับการที่มีอาสาสมัครเข้ามา เช่น มีนักศึกษาที่เรียนหมอมาลงพื้นที่ เขาอยากให้ลูกได้เรียนมีโอกาสก็เกิดการพูดคุยและพร้อมที่จะกลับสู่บ้านเพื่อลูกของตนเอง เพราะฉะนั้น อิสรชนก็เปรียบที่ที่ให้คนมาหาความสุขจากใจ มาเรียนรู้และสร้างสิ่งที่สร้างความสุขร่วมกันในสังคม

          วันนี้ฝนตกทั้งคืนตั้งแต่ หกโมงเย็น ภาพที่เห็นคือมีคนสนามหลวง 2 คนที่มานั่งคุยกับเราหลายรอบมาก มีเพียงเสื้อกันฝนตัวบาง ตัวละ 19 บาท นั่งตากฝนเพื่ออยากมาเล่า มาคุยกับเรา ตัวหนาวสั่น เพราะตากฝนมาจากที่อื่น มาหลบฝนนั่งคุยกับเราในรถโมบาย มากินขนมกับเรา และสุดท้ายก็ไปหาที่นอนที่ไม่เปียกฝน แต่ถ้าไม่มีที่ คืนนี้ก็ต้องนอนตกฝน หลายคนที่ต้องนอนตากฝน บางคนอาจมีที่หลาบบ้างแต่ก็ไม่พ้นละอองฝนที่สาดเข้ามา คืนนี้ก็ต้องนอนหนาวสั่น

          เพราะฉะนั้นฤดูที่ฝนตกพร่ำนั้น เป็นฤดูที่ทรมารมากกับคนที่ใช้ชีวิตในสนามหลวง และมีหลายชีวิตที่ต้องจบลงในฤดูนี้เพราะอาการหนาวสั่น แค่เราลงทำงานในวันนี้เปียกฝนกันตัวปอนแค่คืนเดียวยัง้องกลับมากินยากันไว้ เพราะฉะนั้นช่วงหน้านี้ยาแก้ไข้ ยาต่าง ๆ ล้วนสำคัญมาก ในพื้นที่ตอนนี้ เพราะทุกชีวิตมีค่า และถ้าเราเห็นค่าของเขาบางเขาก็ดีใจแล้ว