การดื่มน้ำ (รักษาโรคได้)


ดื่มน้ำรักษาโรค

การดื่มน้ำ (รักษาโรคได้)

                                                    

วิธีการปฏิบัติ 

1. ตื่นนอนตอนเช้า ก่อนแปรงฟัน ให้ดื่มน้ำ 4 แก้ว (640 ซีซี)

2. หลังจากนั้นสามารถและล้างหน้าอาบน้ำได้ แต่ต้องไม่ดื่ม หรือรับประทานอะไร จนกว่า 45 นาทีผ่านไป จึงจะรับประทานได้ตามปกติ

3. หลังรับประทานอาหารเช้า กลางวัน เย็น ไปแล้ว 15 นาที ไม่ควรดื่มน้ำหรือรับประทานอะไร จนกว่า 2 ชั่วโมงผ่านไป

4. ผู้ป่วย หรือคนชรา ที่ไม่สามารถดื่มน้ำ 4 แก้ว ก็ให้ค่อยๆ ดื่ม ค่อยเป็นค่อยไปเรื่อยๆ จนได้ครบ 4 แก้ว 

ข้อปฏิบัติ 4 ข้อดังกล่าว จะทำให้ท่านบำบัดรักษาโรคที่เป็นอยู่ค่อยๆเบาและหายขาดได้ในที่สุด ทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น และไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแต่อาจปัสสาวะบ่อยขึ้น แลหลังดื่มน้ำไปแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมง จะปวดปัสสาวะ 

จากสถิติข้อมูลโรคที่บำบัดรักษา ทำให้หายได้ภายในเวลา ดังนี้ 

1. โรคความดันโลหิตสูง 30 วัน

2. โรคกระเพาะ 10 วัน

3. โรคเบาหวาน 30 วัน

4. โรคท้องผูก 10 วัน

5. โรคมะเร็ง 180 วัน

6. โรควัณโรค 90 วัน

7. โรคไขข้ออักเสบจะเห็นผลภายใน 3 วัน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก  http://blog.eduzones.com/rackan/28219

 

หมายเลขบันทึก: 295898เขียนเมื่อ 8 กันยายน 2009 22:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 31 พฤษภาคม 2012 03:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • แวะ..แล้วได้ความรู้
  • ขอขอบคุณ น้องมาก..สำหรับความรู้เพื่อสุขภาพ

อย่าลืมลองไปทำกันดูนะคะ

จะได้มีสุขภาพดีกันทุกคนค่ะ ^^

ยินดีต้อนรับกับโฉมหน้าบล็อกใหม่ทุกท่านครับ โดยเฉพาะคุณกมลชนกเยี่ยมมากครับกับบันทึกแรกเริ่มด้วยความเย็นคื่อเรื่องของน้ำ ขอบคุณครับที่ห่วงใยสุขภาพในน้ำก็มีแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์แต่ข้อควรระวังควรดืมน้ำที่สะอาดผ่านการกรอง
ทีวีทางช่อง9 ให้ใช้ ขี้เถ้าและเศษไม้จากกองไฟ กรอกใส่ผ้าละเอียด แล้วกรองน้ำผ่านผ้านั้น หรือไม่ก็ใช้ชุดกรองน้ำสำเร็จรูปสำหรับการเดินป่าโดยเฉพาะอ้อ อีกจุดที่น่าสนใจมาก คือเขาบอกว่าห้ามต้มน้ำโดยเด็ดขาด เพราะแม้จะฆ่าเชื้อโรคได้แต่การต้มอาจทำให้สาหร่ายบางชนิด อะไรซักอย่างที่ลอยอยู่ในน้ำเซลแตก ปล่อยไซยาไนด์ออกมาในเมืองนอกมีคนตั้งแคมป์กินน้ำต้มเดือดแล้วตายมาแล้ว โดยรายการถึงกับบอกว่าการดื่มน้ำต้มเดือดอันตรายยิ่งกว่าไม่ต้มจริงเท็จอย่างไรผมไม่ทราบครับ แต่ผมอาศัยซื้อน้ำขวดกินเอาเสมอ จากประสบการณ์ครั้งเดียวที่กินน้ำจากลำธาร คือที่ถ้ำธารลอด จังหวัดกาญจน์ ก็กรอกน้ำจากตาน้ำเข้าเต็มๆกระติก กินกันสดๆ รอดมาได้ยังงัย ทุกวันนี้ยังนึกเสียวอยู่เลยครับ ยุคปัจจุบันมีเครื่องกรองที่ผลิตออกมาก็เลือกซื้อนำที่ผ่านอย.แล้วกันกับประกอบกับการออกกำลังกายให้สุขภาพแข็งแรงครับ

ภาพกรอกขั้นต้นใครมีวิธีดีๆบอกกันบ้างครับ

มีประโยชน์มาก จะลองทำดูนะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท