วิธีการบริหารมนุษย์งาน Gen Y


วิธีการบริหารมนุษย์งาน Gen Y

วิธีการบริหารมนุษย์งาน Gen Y

 

                ขี้เกียจ เห็นแก่เงิน สมาธิสั้น โลกส่วนตัวสูง คำเหล่านี้เกิดการซุบซิบเกี่ยวกับมนุษย์งาน เจ็นวาย

(Generation Y หรือ Gen Y หมายถึง  บุคคลที่อยู่ในวัยทำงานอายุระหว่าง 19 – 31 ปี )  ที่มีให้ได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ที่ทำให้ผู้บริหารพยายามลดอายุหรือหามาตรการที่ทำให้เรื่องงานกลายเป็นเรื่องเล่นเพื่อเอาชนะใจพวกเขา

                บรูซ ทุลแกน ได้เขียนหนังสือบอกเล่าถึงวิธีการบริหารมนุษย์งาน Gen Y ที่พลิกความเชื่อเก่า ๆ ว่าจะบริหารมนุษย์งานที่มีศักยภาพสูงกลุ่มนี้ได้อย่างไร

                1. ส่ง Gen Y ขี้นสู่รันเวย์

                Gen Y เป็นคนที่ต้องการความสำเร็จในชีวิตมาก พวกเขาทำงานหนัก เพื่อเหินฟ้าขึ้นสู่ความสำเร็จ ดังนั้นสิ่งที่ผู้บริหารควรทำ คือ เข้าใจธรรมชาติที่แท้จริงของ Gen Y ในหัวข้อดังนี้

                                @ ต้องทำให้  Gen Y รู้ว่าบริษัทพิจารณาการเลื่อนตำแหน่งหรือเพิ่มสวัสดิการจากผลงาน มิใช่เส้นสาย ประวัติชีวิต ฯลฯ ถ้ามีเงื่อนไขอีกควรแจ้งในพวกเขารู้เพื่อที่เขาจะได้เตรียมตัวปรับปรุง

                                @ ต้องทำให้ Gen Y ควบคุมตารางงานของตัวเองได้ โดบอกเส้นตายและหลักในการพิจารณาที่ชัดเจน

                                @ ต้องยืดหยุ่นเรื่องสถานที่ทำงาน เช่น ปล่อยให้เขาจัดโต๊ะทำงานเอง เล่นอินเตอร์เน็ต เปิดเพลงเบา ๆ เข้าวานสาย หรือแม้แต่ทำงานที่บ้าน ตราบใดที่ผลงานยังคงยอดเยี่ยม

@ ต้องเติมความรู้ให้พนักงานอย่างสม่ำเสมอ เพราะสิ่งที่ Gen Y กลัวมากที่สุดคือความล้าสมัย บริษัทจึงเตรียมคอร์สอบรมหรือเน้นย้ำให้เพื่อนร่วมงานรุ่นพี่ถ่ายทอดวิชาให้

                                @ ต้องทำให้ Gen Y เข้าถึงตัวบอสใหญ่หรือคนที่มีอำนาจในการแก้ปัญหาได้ เพราะ Gen Y ต้องการคำตอบที่แก้ปัญหาได้จริงและทันท่วงที

                                @  ต้องให้เครดิต เพราะ Gen Y เชือว่า ความสำเร็จแต่ละอย่าง คือขั้นบันไดที่จะนำไปสู่ความสำเร็จที่สูงกว่า แต่พวกเขาต้องการให้มีคนเห็นว่าพวกเขาง่วนอยู่กับการก่อขั้นบันไดตลอดเวลา

@ ต้องให้อำนาจแก่ Gen Y เต็มร้อย เรื่องใดที่อยู่ในขอบข่ายหน้าที่รับผิดชอบของลูกน้อง เจ้านายต้องให้อำนาจแก่พวกเขาเต็มที่ เพื่อให้พวกเขาควบคุมความสวยสดงดงามของผลงานได้อย่างแท้จริง

2. สอนงานแบบเร่งด่วน

ทุลแกนว่า  Gen Y เป็นคนที่มีความกระตือรือร้นสูง หัวหน้างานควรสอนงานและบอกเล่าสิ่งที่จำเป้นต่อการทำงานให้ Gen Y เข้าใจอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อให้เขาทำงานของตัวเองได้โดยลำพัง เพราะถ้าหัวหน้างานอ้างว่า ไม่มีเวลาสอน พวกเขาจะโต้กลับทันทีว่า การที่คุณไม่สอนต่างหากที่ทำให้ฉันเสียเวลา

                3. สร้างบรรยากาศที่เป็นมิตร

                ทุลแกน เรียกบรรยากาศนี้ว่า Loco Parentis หมายถึง บรรยากาศของความห่วงใยที่ผู้ใหญ่มีให้คนที่อ่อนวัยวุฒิกว่า หัวหน้างานควรเข้าใจจุดเด่นและจุดด้อยของลูกน้องแต่ละคน คุณอาจให้ความสนใจเขาด้วยการทักทายเมื่อพบหน้ากัน และให้คำแนะนำที่มีประโยชน์ส่งท้ายสำหรับการทักทาย ให้ความจริงใจ อีกทั้งต้องพูดคุยปรึกษากับพวกเขา

                4. แก้ปัญหาการปรับตัว 

ปัญหาของ Gen Y คือการปรับตัว เนื่องจาก Gen Y จะใช้ความเป็นเพื่อนในการปฏิสัมพันธ์กับคน และไม่สนใจลำดับขั้นหรือสายบังคับบัญชา ดังนั้นเจ้านายจึงควรสอนวิธีการปรับตัวและวิธีเอาตัวรอด ในที่ทำงานให้พวกเขา เริ่มตั้งแต่การพิจารณาบทบาทและหน้าที่ของตนเอง การทำงานร่วมกับผู้อื่น  การแก้ปัญหาโดยไม่ต่อสายตรงถึงเจ้านายของเจ้านายในทันทีทันใด แต่ให้มีการประชุมย่อยที่มีเขา มีคุณ และบอสของคุณเข้าร่วมด้วย เป็นต้น

5. ปลูกฝังการบริหาร

ประโยคเด็ดที่หัวหน้างานควรบอก Gen Y คือ ในที่ทำงานนั้น นอกจากตัวเองแล้ว ให้ถือว่าคนอื่นเป็นลูกค้า  วิธีนี้จะสามารถเอาชนะใจลูกค้า ซึ่งเป็นคนสำคัญที่สุดของบริษัท (แต่ Gen Y มักมองไม่เห็น) แล้วยังทำให้พวกเขาสามารถแก้ปัญหาการปรับตัวในที่ทำงานอย่างได้ผลด้วย

6. สอนวิธีบริหารตัวเอง

Gen Y ชอบผนวกไลฟ์สไตล์เข้ากับชีวิตการทำงาน และมักมีปัญหาด้านการบริหารเวลา ทุลแกน สรุปว่า ของขวัญที่ดีที่สุดที่หัวหน้างานจะให้ได้คือ การสอนให้เขารู้จักแยกแยะสิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ออกจากกัน อีกทั้งต้องสอนวิธีกำจัดการใช้เวลาอย่างไร้ประโยชน์ออกไป  เช่น สอนการวางแผน การทำเช็คลิสต์ การประเมินตนเอง การตัดสินใจโดยใช้เหตุผล เป็นต้น

7. เป็นผู้นำที่เข้มแข็ง

ลูกน้อง Gen Y ของคุณควรรู้ว่าเขากำลังทำงานอยู่ภายใต้หัวหน้างานที่

                Äโปร่งใส อย่าบ่นว่าทำไมลูกน้องไม่ทำสิ่งที่ควรทำ แต่ให้บอกพวกเขาไปตรง ๆ ว่าคุณต้องการอะไรบ้าง

                Ä เด็ดขาด เมื่อออกกฎใด ๆ มาแล้ว คุณต้องรักษากฎอย่างเคร่งครัด ไม่ลำเอียง และจำไว้ว่า  การเชิญพนักงานที่ไม่เอาไหนออกหนึ่งคน จะทำให้พนักงานที่เหลืออยู่ขยันมากขึ้นทันตาเห็น

                                Ä โฟกัสที่วิธีการแก้ปัญหา  ไม่ใช่ที่ตัวปัญหา

8. เก็บรักษาลูกน้องคนเก่ง

                Gen Y มักโดนค่อนขอดว่า เปลี่ยนงานบ่อย แต่หารู้ไม่ว่าพวกเขาจะลาออกก็ต่อเมื่อรู้สึกว่าทำงานแล้วไม่มีความสุข หรือทำงานหนักไปก็ไม่มีอะไรดีขึ้นต่างหาก  ดังนั้นถ้าหัวหน้างานไม่อยากปล่อยให้พนักงานเก่ง ๆ หลุดมือไป ควรหาวิธีเก็บพวกเขาไว้ด้วยการหาช่องทางหรือโอกาสใหม่ ๆ ในการทำงานเพื่อดึงดูดพวกนี้ไว้ เป็นการเพิ่มผลประโยชน์แก่บริษัทในขณะเดียวกับที่ได้เพิ่มผลประโยชน์ให้พนักงานด้วย

                9. ปั้นดาวดวงต่อไป

                คุณควรส่งเสริมลูกน้องที่มีแววอย่างสุดตัว โดยมอบหน้าที่ด้านการบริหารและอำนาจที่แท้จริง อีกทั้งต้องทำให้ผู้ร่วมงานคนอื่น ๆ ทราบว่า เขา หรือ เธอ คือคนเก่งของคุณ  นอกจากนี้คุณควรให้เวลาดูแลพวกเขาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เขาเกิดความภาคภูมิใจในตนเองและหมั่นปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ

                ไม่ว่า Gen Y จะทำให้บรรดาหัวหน้างานลำบากใจแค่ไหนก็ตาม แต่อย่าลืมว่า คนรุ่นนี้คือ หัวหน้า เจ้านาย  หรือ บอส ซึ่งจะขับเคลื่อนสังคมรุ่นต่อไปนั่นเอง

                และ ..... คนไฟแรงอย่างพวกเขาต้องการความช่วยเหลือจากผู้นำที่เข้มแข็งและใส่ใจเช่น ..คุณ ...

 

ที่มา :   Secret นิตยสารรายปักษ์ ฉบับที่ 28  วันที่ 26 สิงหาคม 2552

 

 

หมายเลขบันทึก: 294049เขียนเมื่อ 3 กันยายน 2009 21:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 19:53 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้เพิ่มเติม ขอบคุณนะคะ

ได้ไปสังเกตการณ์ หลักสูตร หัวหน้างานมืออาชีพ บรรยายโดย

อ.อุไรวรรณ อยู่ชา อาจารย์ได้นำเรื่องการบริหาร Gen Y มาถ่ายทอด

ทำให้หัวหน้างานได้ตระหนักถึงการปรับเปลี่ยนตนเองให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงโดยเฉพาะกับลูกน้องที่เป็น Gen Y ซึ่งพฤติกรรมการทำงานที่เปลี่ยนไปจากหัวหน้างานซึ่งเป็น Baba Boomer หรือ Gen X    อาจารย์เชื่อมโยงการทำงานของคนทั้ง 3 ยุค และชี้แนะให้หัวหน้างานปรับรูปแบบการบริหารดูแลลูกน้องให้เหมาะสม อาจารย์เก่งมากค่ะ เข้าใจความรู้สึกของหัวหน้างานที่ไม่ OK กับ Gen Y และเข้่าใจพฤติกรรมของ Gen Y มีประโยชน์มากค่ะ

 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท