ใบงานที่ 27
การกำหนดบทบาทของทีมงานสนาม
จงเติมนิยามสำหรับประเด็นเรื่องต่อไปนี้
ประเด็นเรื่องที่นิยาม |
นิยามหรือคำบรรยาย |
1. วัตถุประสงค์ |
|
|
|
|
|
2. อำนาจหน้าที่ |
|
|
|
|
|
3. ขั้นตอนการดำเนินการ |
|
|
|
|
|
4. เกณฑ์ที่สำนักงานกลางใช้วัดประสิทธิภาพของ |
|
โรงเรียน |
|
|
|
5. ความคาดหวังที่สำนักงานกลางมีต่อการบริหาร |
|
จัดการที่ใช้ที่ตั้งเป็นฐาน |
|
|
|
6. การตัดสินใจในเรื่องงบประมาณ คณะทำงาน |
|
กิจกรรมการเรียนการสอน |
|
|
|
7. โครงการต่าง ๆ ที่กำลังมีการดำเนินการอย่าง |
|
ต่อเนื่องทั่วทั้งเขตพื้นที่ |
|
|
|
8. กลุ่มอื่น ๆ ที่ให้คำปรึกษาและตัดสินใจ |
|
Larry J.Reynolds. Successful Site-Based Management: A Practical Guide, rev.ed. Copyright © 1997
by Corwin Press, Inc.Reprinted with permission.
ขนาดของกลุ่ม ( Group )
ขนาดของกลุ่มมีอิทธิพลหรือผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการเพิ่มจุดแข็งให้มากที่สุดและขจัดจุดอ่อนให้เหลือน้อยที่สุด โดยทั่วไปแล้ว ยิ่งกลุ่มมีขนาดใหญ่เท่าใดกลุ่มก็จะยิ่งมีข่าวสารข้อมูลและความรู้มากเท่านั้น และกลุ่มใหญ่มีแนวโน้มที่จะมีการสร้างสรรค์มากกว่ากลุ่มเล็ก ๆ อย่างไรก็ตามยิ่งกลุ่มมีขนาดใหญ่เพียงใดก็จะยิ่งไม่มีประสิทธิภาพมากเพียงนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ขณะที่กลุ่มมีขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น ก็จะยิ่งมีแนวโน้มที่กลุ่มนั้นจะถูกครอบงำโดยคนเพียงไม่กี่คนมากขึ้นเท่านั้น
นักการศึกษามักจะชักจูงให้ขยายขนาดของกลุ่มออกไปมากเกินความจำเป็น การมีส่วนร่วม ( participation ) และความรู้สึกเป็นเจ้าของ ( ownership ) คือเป้าหมาย โรงเรียนมักจะพยายามเพิ่มตัวแทนจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ( stakeholder ) ในโรงเรียนมัธยมเอกชน ( public school ) โรงเรียนตามหลักเกณฑ์แล้ว ตัวแทนในกลุ่ม 1 คนจะเป็นคณะทำงานที่ดี ถ้าตัวแทน 2 คนจะต้องดีถึงสองเท่า จากวิธีคิดหาเหตุผลแบบ“ประชาธิปไตย” สำหรับการบริหารจัดการแบบยึดที่ตั้งเป็นฐานจะลืมเสียไม่ได้
เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเรื่องขนาดของกลุ่ม ควรจะมีการกำหนดเป้าหมายของการบริหารจัดการโดยยึดที่ตั้งเป็นฐานให้กระจ่างชัด เนื่องจากหน้าที่ของทีมงานนั้นเป็นศูนย์รวมแห่งความสำเร็จ มุ่งเน้นไปที่ภารกิจการวางแผนกลยุทธ์ ( strategic ) การสร้างวิสัยทัศน์ร่วม (Shared vision) (shared vision) และวางแผนพัฒนาปรับเปลี่ยนโปรแกรมการเรียนการสอน ซึ่งเราเชื่อว่ากลุ่มที่มีขนาดเล็กจะทำได้ดีกว่า ขนาดของกลุ่มที่เหมาะสมควรจะเป็นกลุ่มที่มีสมาชิกไม่เกิน 8 – 10 คน การที่กลุ่มหนึ่ง ๆ จะกำหนดตัวสมาชิกโดยรวมเอาผู้บริหารฯ คณะครู ผู้ปกครอง ( และนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ) เข้ามาอยู่ในกลุ่มนั้นขนาดของกลุ่มก็จะมีจำนวนถึง 10 คนอย่างรวดเร็ว อย่าลืมข้อสำคัญคณะทำงานสามารถขัดแย้งแสดงความคิดเห็นได้ แสวงหาผู้มีส่วนร่วมและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดของสมาชิกในองค์การ มันคือบทบาทที่แสดงออกมาของผู้นำที่มีประสิทธิภาพ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการระดมสมองไม่ควรจำกัดสมาชิกในคณะทำงาน ( ต้องให้ทุกคนได้แสดงความคิดเห็น ) เปิดโอกาสให้คณะกรรมการเฉพาะกิจ ( ad hoc committees ) มีส่วนร่วมอย่างกว้างขวาง
เหตุผลประการที่สองในการจำกัดขนาดของกลุ่มก็คือ จำนวนของคณะกรรมการที่มีอยู่จริงๆในทุกวันนี้เป็นครูทั้งหมด มักจะพบว่าครูมีสิ่งจำเป็นหรือสิ่งที่ต้องทำอยู่แล้วเป็นสมาชิกคณะกรรมการหลายอย่างต้องการเวลาที่เป็นส่วนตัว ทำหน้าที่หลักคือจัดกิจกรรมการเรียนการสอนอยู่แล้ว
เหตุผลอื่นๆสำหรับการจำกัดขนาดของกลุ่มก็คือ การให้คำมั่นสัญญากับคณะทีมงานจะดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ เหตุผลนี้ส่งเสริมให้ครูต้องเสียเวลาหรือต้องเพิ่มเวลาให้กับคณะทำงาน วิธีจัดการเช่นนี้เป็นข้อพิสูจน์ความถูกต้องที่สำคัญของคณะทำงาน ( เป็นผู้มีความรับผิดชอบหรือไม่ ) เมื่อพิจารณาแล้วมันเป็นบทบาทที่ถูกต้องของครู ครูควรจะตัดเวลาสอนออกบ้างเพื่อไปเสริมความรับผิดชอบต่อคณะทำงาน ( site team ) ครูต้องมีบทบาทความสามารถเกินกว่าคำจำกัดความของคำว่า ครู ครูควรจะได้รับเงินชดเชยเพิ่ม ( ทำเหมือนโค้ชทีมนักกีฬาที่เขาจะได้เงินชดเชย ) อย่างไรก็ตามขนาดของกลุ่มที่ใหญ่ จำนวนสมาชิกที่เป็นครูมากในคณะทำงานจะเป็นทางเลือกที่น้อยเป็นไปได้ยาก
เหตุผลประการสุดท้ายสำหรับกลุ่มขนาดเล็กคือง่ายต่อการเริ่มต้นแบบช้าๆ มันง่ายต่อการนัดประชุมและสร้างสัมพันธภาพจะเป็นไปได้โดยง่าย จุดแข็งของการทำงานแบบยึดที่ตั้ง ต้องพัฒนาคนทำงานสู่ความสำเร็จ
ความหลากหลายของกลุ่ม ( Group Diversity )
องค์ประกอบที่สำคัญประการหนึ่งสำหรับการที่จะเพิ่มจุดแข็งของกลุ่มให้มากขึ้นก็คือการที่กลุ่มจะต้องเปิดโอกาสให้สมาชิกของกลุ่มแสดงออกซึ่งศักยภาพอันหลากหลายในเรื่องแนวความคิดความรู้ และทักษะอย่างกว้างขวาง เนื่องจากคณะทำงานมีหน้าที่รับผิดชอบในเรื่องการวางแผนกลยุทธ์ ซึ่งจะต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ร่วม (Shared vision) และโครงการการศึกษาและบริการที่มีประสิทธิภาพสำหรับนักเรียนทั้งโรงเรียน จุดอ่อนที่หลากหลายจะได้รับทราบจากชุมชน ผู้ปกครอง นักเรียนและคณะครู ช่วยกันสอดส่องดูแลความน่าเชื่อถือและความถูกต้องของการบริหารจัดการแบบยึดที่ตั้งเป็นฐาน
เกณฑ์การคัดเลือกสมาชิกกลุ่ม ( Criteria for Selecting Members )
ลักษณะเฉพาะของสถานศึกษาเป็นตัวกำหนดมาตรฐานของสมาชิกภายในกลุ่ม รวมไปถึงประวัติความเป็นมา ปัญหาอุปสรรค ข้อแนะนำที่เกี่ยวข้องแต่เดิมมา รายละเอียดกับการทำงานเป็นกลุ่ม อิทธิพลและอำนาจทั้งเป็นกลุ่มและตัวบุคคลเป็นข้อพิจารณาที่สำคัญทั้งหมด อย่างไรก็ตามมีการรวมมาตรฐาน 3 อย่างประกอบด้วยเกณฑ์ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทั้ง 3 อย่างนี้คือความมั่นคงไปด้วย เป้าหมายและบอกวิธีปฎิบัติ
ประการแรก สมาชิกของกลุ่มที่จะได้รับซึ่งการคัดเลือกจะต้องมีศักยภาพที่จะรับบทบาทหน้าที่ผู้นำได้ บทบาทของคณะทำงานโดยยึดที่ตั้งคือการมีภาวะผู้นำ สันนิษฐานจากบทบาทที่ทำงานร่วมกับผู้อื่น สมาชิกต้องมีคุณลักษณะที่แสดงออกถึงความเป็นผู้นำ นี่คือส่วนหนึ่งที่อภิปรายถึงผู้บริหารสถานศึกษา คุณลักษณะต้องเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์ ความน่าเชื่อถือ ความน่าไว้วางใจ และแรงบันดาลใจเป็นอย่างสูง โดยพิจารณาจากพฤติกรรมในอดีตของเขา บุคคลดังกล่าวนี้ไม่จำเป็นจะต้องเป็นผู้ที่มีตำแหน่งหน้าที่ผู้นำอยู่ในปัจจุบัน เพียงแต่ขอให้เขามีบุคลิกภาพที่อาจเป็นได้ ผู้ที่เป็นสมาชิกคนอื่น ๆ ของกลุ่มเห็นว่ามีศักยภาพที่จะเป็นผู้นำได้เท่านั้นก็พอ
ประการที่สอง ผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกของกลุ่มที่อาจจะเป็นไปได้จะต้องมีความสนใจ และความสามารถที่รับเอาจุดเน้นของโรงเรียน เรื่องราวและข้อพิจารณาต่าง ๆ โดยภาพรวม (big-picture view of issues and considerations) ไปปฏิบัติให้เกิดผลอย่างมีประสิทธิภาพได้ โดยที่บุคคลเช่นว่านี้จะต้องเป็นผู้ที่ “มองไกล ใฝ่สูง ใจกว้าง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะต้องมีความยืดหยุ่นมากพอที่จะรับฟังความเห็นของผู้อื่น เขาเหล่านี้คือผู้ปกครอง คณะครูหรือนักเรียน ไม่ได้หมายถึงให้สมาชิกมีความแตกต่างกันไม่เคยสนใจหรือไม่เคยทำมาก่อน แต่มันหมายความว่าทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้ผู้ที่สนใจแต่เรื่องเดียว หรือมีจิตใจคับแคบจะต้องหลีกเลี่ยงให้มากที่สุด
ประการที่สาม ผู้ที่จะมาเป็นสมาชิกของกลุ่มที่อาจจะเป็นไปได้จะต้องเป็นผู้ที่แสดงออกให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ชัดว่ามีความสนใจและความห่วงใยนักเรียนในนักเรียนทุกคน ความสำเร็จของคณะทำงานและประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนการสอน การบริการของโรงเรียนโดยดูได้จากความสามารถของนักเรียนที่ประสบความสำเร็จสูงสุด มันเป็นการเลือกสมาชิกง่ายๆ ผู้ที่ชอบนักเรียนมีความสุขที่ได้ใช้เวลาอยู่กับนักเรียน คนเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเป็นห่วงการปฎิบัติกิจกรรมประจำวันกับนักเรียน โดยเขาชอบพูดคุยถึงเด็กนักเรียนในเรื่องต่างๆ มันเป็นข้อบังคับคณะทำงานต้องเห็นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง(Student centered) ดูเหมือนจะมากกว่าผู้ใหญ่ (adult centered) และสนับสนุน “ผู้เรียนในฐานะลูกค้า” (“student as customer”)
สถานะที่แตกต่างกันของสมาชิก ( Different Status of Member )
คุณลักษณะหนึ่งที่จะเป็นตัวกำหนดผลผลิต (productivity) ของกลุ่มและความพึงพอใจของสมาชิกแต่ละคนก็คือ สถานะหรือตำแหน่งที่แตกต่างของบรรดาสมาชิก ถ้าหากทีมงานยึดที่ตั้งสะท้อนรูปแบบการปกครองแบบลำดับขั้นภายในองค์กร (hierarchy) ตามบทบาทปกติ คณะทำงานก็คล้ายจะเป็นลำดับขั้นหรือสายงานการบังคับบัญชาจากบนลงล่างแบบดั้งเดิมในองค์กร ทีมงานก็มีแนวโน้มที่จะดำเนินการต่าง ๆ ตามแบบแผนเก่า ๆ และถูกครอบงำโดยบุคคลที่มีสถานะหรือตำแหน่งที่เป็นทางการสูงสุดในกลุ่ม เหตุการณ์เหล่านี้ขัดขวางความสามารถในการบริหารจัดการแบบยึดที่ตั้งเป็นฐาน จึงควรที่จะมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างและกระบวนการการตัดสินใจทั้งเขตพื้นที่การศึกษาและในแต่ละโรงเรียน นี่คือวิธีการที่ต้องทำให้ปรากฏ :
ประการแรก ตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาอยู่ “เหนือ” ครูและสมาชิกคณะทำงาน และยิ่งผู้บริหารฯ มีความประสงค์ที่จะควบคุมกลุ่ม และให้กลุ่มปรับตัวตามที่ตนเองต้อง
ไม่มีความเห็น