Journey in America : Chapter 7 Choosing the Subject


หกเดือนแรกในต่างประเทศ การปรับตัวเป็นไปอย่างโกลาหล สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เพียงชั่ววูบแล้วก็ผ่านไป เป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรก ถูกจำกัดด้วยตัวเราที่ยึดติดกับความเปลี่ยนแปลงที่มันยังไม่ถึงที่สุด

.....หกเดือนแรกในต่างประเทศ การปรับตัวเป็นไปอย่างโกลาหล สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในชีวิต เพียงชั่ววูบแล้วก็ผ่านไป เป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรก ถูกจำกัดด้วยตัวเราที่ยึดติดกับความเปลี่ยนแปลงที่มันยังไม่ถึงที่สุด พูดเป็นภาษาคนก็หมายความว่า พอมาได้เรียนภาษาก็สนุกจนเพลิน เที่ยวเล่น เรียนรู้ และพบปะผู้คนใหม่ๆ แทบทุกวัน จนลืมไปว่าเรามาเอาปริญญาต่างหาก

.....จากการที่ผมด้อยข้อมูล ประกอบกับไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย ทำให้ทุกอย่างต้องมาเริ่มที่นี่ เริ่มโดยตั้งคำถามว่าเราจะมาเรียนต่ออะไร จากตัวเลือกครั้งแรกที่มีทั้งจิตวิทยา มานุษยวิทยา สังคมวิทยา MBA สื่อสารมวลชน แม้กระทั่งศิลปะ ต่อมาก็ถูกตัดออกๆ เพราะเหตุผลหลายประการเช่น มหาวิทยาลัยในบริเวณที่พักไม่เปิดสอน หรือไม่ก็ในบางสาขาที่ต้องการคะแนนต่างๆ นานา เช่น TOEFL, GMAT และ GRE อย่างในสาขามานุษยวิทยา ตัวเลือกต้นๆของผม เพราะด้วยความที่มาอย่างเสื่อผืนหมอนใบ ก็ไม่ได้มีการสอบอะไรมาเลย ครั้นจะมาอ่านหนังสือไปสอบสามสี่ข้อสอบคงแก่ไปเสียก่อน.....คณะต่างๆ จึงถูกตัดออกอย่างช่วยไม่ได้ และอีกเหตุผลหนึ่งในข้อจำกัดเรื่องการเลือกศึกษาต่อก็คือ การขาดข้อมูลปฐมภูมิ.....ในสาขาที่ไม่ค่อยมีคนเรียน อย่างจิตวิทยา และสังคมวิทยา มันก็เป็นการยากในการศึกษาชีวิตและธรรมชาติของการเรียนจากผู้ที่เคยประสบมา ผมเป็นคนไม่ค่อยจะลงมือทำหากไม่มั่นใจ เพราะงั้นการขาดข้อมูลเหล่านี้ทำให้ผมไม่อยากจะตัดสินใจใช้เวลาในการศึกษาด้วยตัวเองซักเท่าไหร่..... ผมรู้จักคนไม่มากในช่วงแรกๆ และคนทั้งหมดนั้นก็ดูเหมือนจะคิดประกอบอาชีพเหมือนกันหมดคือนักธุรกิจ ข้อมูลที่ผมมีมากที่สุดจึงเป็นสาขา MBA ..... ยิ่งรู้จักคนมากเท่าไหร่ก็ยิ่งพบว่ามีแต่คนเรียน MBA ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงแห่มาเรียนกันนัก สงสัยคงเพราะเป็นสาขาที่ไม่ได้เฉพาะทางจนเกินไปและดีสำหรับมนุษย์ออฟฟิศ ในการไต่เต้าวงการธุรกิจทุนนิยม..... คนเรียนเยอะข้อมูลก็ล้นหลาม ทั้งชีทเอย เลกเชอร์เอย รวมไปถึงการบ้านเก่าๆ ที่ผมก็เห็นบางคนนำกลับมาใช้ใหม่ เข้าทำนองรีไซเคิลเพื่อโลก (ซึ่งเป็นวีธีรีไซเคิ่ลที่ไม่ดีนัก) .....เข้าใจว่ามันเป็นสาขายอดนิยม เวลาใครถามพ่อแม่เราว่าลูกจบอะไร MBA เป็นสิ่งที่เข้าใจง่ายและสร้างความภูมิใจให้เสมอ แต่สังคมนั้นจะเป็นอย่างไรหากทุกๆบ้าน ต่างบอกว่าลูกตนจบ MBA.... ผมเองไม่มีหัวทางธุรกิจ แต่ชีวิตก็คงไม่พ้นมนุษย์กินเงินเดือน ดังนั้นทำอย่างไรที่จะเอาตัวเองเข้าไปในโลกธุรกิจ โดยไม่จำเป็นต้องไปปวดหัวกับตัวเลข ผลกำไร และกลยุทธ์ขององค์กร

ทั้งหมดที่ว่ามา ผมปูทางให้กับตัวเองโดยไม่รู้ตัวมาแล้ว จากการที่ได้เรียนสังคมวิทยาในระดับปริญญาตรี ทำให้ผมมีความรู้ในการศึกษาลักษณะพฤติกรรมของคนกลุ่มใหญ่ และเข้าใจระเบียบวิธีการคิดที่นำมาซึ่งผลของการกระทำในระดับมหภาคได้.....นอกจากนี้ผมยังได้มีโอกาสศึกษาด้านทรัพยากรมนุษย์ คือการบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลในองค์การให้มีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์มากที่สุด..... ฐานความรู้ของผมคือการศึกษาคน จากนั้นเมื่อสูงขึ้นมา ผมก็เน้นไปที่คนในกลุ่มย่อย เช่นในองค์กรธุรกิจ..... MBA เน้นการสร้างผลกำไรในสาขาต่างๆ เช่น Finance, Marketing, Information Technology แต่ในองค์ธุรกิจเดียวกันนั้นยังมีสาขาหนึ่งที่ไม่ได้เน้นการทำงานตามสายงาน แต่ไปเน้นการดูแลผู้คนในสายงานนั้น นั่นคือสาขาทรัพยากรมนุษย์.....

คณะวิชาต่างๆ ที่คิดไว้ตอนแรก มันเยอะแยะไปหมด เลือกไม่ถูกจนต้องเอาข้อจำกัดมาตัดรายชื่อออกทีละสาขาๆ.....ซึ่งจริงๆ สิ่งที่ควรจะเรียนและเหมาะสมที่สุดมันก็อยู่ใน Transcript ในระดับปริญญาตรีของเราอยู่แล้วตั้งแต่แรก นั่นคือ Human Resource and Management....ตกลงปลงใจ จากโรงเรียนภาษา นี่คือที่ที่เราจะไปเรียนอย่างจริงจัง.....ว่าแต่จะสมัครเรียนนี่ต้องทำยังไงกันบ้าง ผมเพิ่งมาทราบทีหลังว่ามันจะต้องให้อาจารย์เขียน Recommendations ให้อย่างน้อย 3 ท่าน.....พอบอกให้เมืองไทยจัดการให้หน่อยก็ทำหน้างงกันหมด และดูเหมือนจะไม่มีใครว่างเป็นธุระให้เลย.....ดังนั้นผมจึงต้องกลับเมืองไทย เพื่อทำเอกสารต่างๆ นานาที่ใช้ในการสมัครด้วยตัวเอง.....หลังจากเหตุการณ์ถล่มตึกเวิร์ลเทรดซัก 2 เดือน ผมจึงได้กลับประเทศไทยเป็นครั้งแรก ก็กลับไปประมาณเดือนเศษๆ จึงบินกลับมาอีกครั้งและตั้งใจเอาไว้ว่า กลับมาคราวนี้จะต้องไม่เหมือนเดิม และมันก็ไม่เหมือนเดิมจริงๆ เพียงแต่มันไมได้เปลี่ยนไปในทางที่อยากให้เป็นเท่านั้น ซึ่งผมจะเล่าให้ฟังในครั้งต่อไปครับ

เขียนเมื่อ 29 กรกฏาคม 2548, Covina, California

คำสำคัญ (Tags): #บันทึกส่วนตัว
หมายเลขบันทึก: 292408เขียนเมื่อ 30 สิงหาคม 2009 00:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 09:05 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท