ความเดิม วิถีชีวิตก่อเกิดการเรียนรู้ (1) เมื่อชนบทยังขาดซึ่งสาธารณูปโภค คนในชุมชนจึงใช้แสงจากตะเกียงน้ำมันก๊าดเพื่อให้แสงสว่างภายในบ้าน...สำหรับบริเวณข้าง ๆ บ้านนั้น หากคืนไหนเป็นคืนเดือนมืดชาวบ้านก็จะใช้แสงจากไต้จุดให้ความสว่าง โดยจะนำไต้ไปปักไว้ที่ชายคาหน้าบ้าน(หลังคาที่ยื่นออกมา) สว่างพอที่จะช่วยให้เห็นคนเดินเข้าออกบริเวณนั้นและยังช่วยป้องกันแมว(คน)ขโมยสัตว์เลี้ยงยามค่ำคืน เช่น วัว ควาย เป็ด ไก่ แต่หากคืนไหนเป็นคืนเดือนหงายแสงจากพระจันทร์จะมาบดบังแสงไต้จดมิด ทำให้แสงไต้หมดความสำคัญไป...และถือว่าตัวเองโชคดีที่เกิดมาได้ทันเห็นและทันใช้สิ่งของเหล่านี้
การเดินทางไปโรงเรียน(วัด)ในสมัยนั้น ต้องเดินทางด้วยเท้าเป็นกิโล ๆ ผู้คนในชนบทไม่มีใครเลยจะเอ่ยถามหารถยนต์โดยสาร ไม่มีมอเตอร์ไซด์รับจ้าง ไม่มีแม้กระทั่งรถจักรยาน รถที่เห็นจนชินตาและดีที่สุดก็มีเพียง "รถรุน" ไว้ทุ่นแรงคน(รถเข็นไว้สำหรับบรรทุกสิ่งของหรือรวงข้าวจากท้องนา) เด็ก ๆ ในหมู่บ้านทุกคนมีวิถีชีวิตการเดินทางไปเรียนหนังสือที่เหมือนกัน คือต้องเดินทางผ่านถนนหลายเส้น ลัดเลาะไปตามป่าเสม็ด เดินไปได้สักระยะก็ต้องเหยียบย่ำลงบนถนนดินลูกลัง ต่อมาก็เป็นถนนที่เราเรียกว่า "คันนา" หากปีไหนฝนตกหนักน้ำหลากถนนขาด เด็ก ๆ ก็ต้องหยุดเรียนเป็นอาทิตย์ หน้าฝนร่มที่ดีที่สุดในสมัยนั้นคงหนีไม่พ้นใบกล้วย ใบบัว ใบตาล และกาบมะพร้าว พอช่วยประทังไม่ให้หัวเปียก แต่พอถึงช่วงน้ำลดลงหน่อยวิถีชีวิตแบบเดิม ๆ ของเราก็กลับมาอีกครั้ง ดังนั้น คำว่า "ลำบาก" คงไม่ต้องถามหาจากที่ไหน เพราะมันติดตามติดตัวเป็นสัญลักษณ์มาตั้งแต่กำเนิด ส่วนคำว่า "อดทน" มันเปรียบเสมือนเพื่อนแท้ที่สนิทสนมกันมากที่สุดในยามนั้น
ขอบคุณท่าน "มหา" มากค่ะ
เป็นการเขียนวิถีชีวิตตนจากชนบทสู่เมืองหลวงค่ะ...เพราะเห็นถึงความแตกต่างของวิถีชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือค่ะ...ทั้งความเจริญทางการศึกษาในสังคมเมืองกับสังคมชนบทแตกต่างกันอย่างริบลับค่ะ...ถ้าไม่มาเห็นกับตาเจอกับตัวคงไม่รู้ซึ้งค่ะ...เลยอยากจะเขียนเพื่อให้เห็นแง่มุมบางประเด็นของการศึกษาไทยในชนบทและในเมือง ครอบครัวที่สนับสนุนการศึกษาบุตร...ประมาณนี้ค่ะท่านมหา
ดูแลสุขภาพนะคะ...ด้วยความห่วงใยค่ะ
ไม่ได้เรียนศิลปะแต่มีศิลป์ในการเขียนแล้ว..ท่านมหาชม..ไชๆโยๆๆ
ฮ่าๆๆๆ ศิลป์การเขียนที่แลกด้วยน้ำตา...และความอดทน
ขอบคุณเจ้าค่ะ...คุณ "อ้อยเล็ก" สุดสวย
เปิดคอมทิ้งไว้ลงไปเดินชมวิวท้องทุ่งยามค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งซีกสลัวๆ
เลยมาอ่านบันทึกอาจารย์เห็นภาพเลยเพราะผ่านมาตะกี้นี้เอง
ตอนเด็กๆธรรมฐิตอยู่ป่าขาดสิงหนคร(บ้านโยมแม่)
วิถีชีวิตก็เหมือนกับอาจารย์นั่นแหละขอรับ
กับการที่ธรรมฐิตกระเสือกกระสนหาความรู้ในมหานครเกือบสิบปี
(เห็นภาพที่อาจารย์เล่าเลย)
สาธุสำหรับสิ่งที่ดีขอรับ..
นมัสการค่ะ...หลวงพี่
วิถีชีวิตชนบทไม่ต่างกันมากนัก...ป่าขาดสิงหานครยังไม่เคยได้เข้าไปเลยค่ะ
แต่มีเพื่อนอยู่แถวนั้นหลายคนเจ้าค่ะ...รู้สึกจะนามสกุล "มีทอง" หรือ "ทองมี" ไม่แน่ใจค่ะ...เรียนด้วยกันที่ สว. ค่ะ
สมัยก่อนเดินทางไปลำบากมาก แต่ตอนนี้กลับไปบ้านถนนสี่แลนแปดแลนทั้งนั้นเจ้าค่ะ
สุขสันต์วันหยุดนะจ๊ะ...
ว้าย! ตกใจหมด...คิดว่ากะเหรี่ยงคอยาวที่ไหนมาอยู่ในบันทึกเรา
ทำได้สวยมากเลยค่ะ...พวกหัวศิลป์ก็เก่งอย่างนี่แหละนะตัวเองนะ
ความคิดสร้างสรรค์...ขยันทำแผนการสอน...ประเทศไทยจงเจริญ
เมื่อคืนฝนตก ลมแรง ฟ้าร้องเสียงดังน่่ากลัวววววววมั๊กมากกกกก
สุขสันต์วันหยุดเช่นกันจ้าาาาาาา
สวัสดีครับ อาจารย์ Vij
อาจารย์อยู่บ้านเดียวกับผม ไม่แน่ใจอำเภอเดียวกับผมหรือเปล่า ผม อ.ระโนดครับ วิทยาลัยเทคนิคยะลา ก็เคยเข้าไป 2-3 ครั้งแล้ว ถ้าอาจารย์เห็นผ้าผูกคอสีหวาน ก็ให้แน่ใจได้เลยว่าชุด มชส.ฉก.ตชด.44 ครับ ผมเป็นลูกศิษย์อาจารย์ศิริเพ็ญ ภักดี.ครับ
สวัสดีค่ะคุณ "หมอน้อย 447"
อยู่บ้านแค่ ๆ กันนิ...อยู่แถวชายเลม่วงงามนั่น...รู้สึกว่่า อ.ศิริเพ็ญ จะเป็นคนระโนดด้วยใช่ไหมค่ะ
ผ้าพันคอคุณพี่สีหว้านหวานค่ะ...หากแวะมา วท.ยะลา อีกครั้ง คงได้เจอกัน ถามหาได้เลยค่ะ...ปกติจะนั่งอยู่ห้องปกครอง หรือไม่ก็ตึกสถาปัตย์ฯ ค่ะ
ยินดีที่ได้รู้จัก...ดูแลตัวเองนะคะ เพราะรู้สึกว่าเหตุการณ์จะเริ่มรุนแรงขึ้นอีก
ขอบคุณมากค่ะ...คงได้มีโอกาสเจอกันค่ะ
ราตรีสวัสดิ์จ้าขอให้ฝันเห็นงูมารัด...ฝากตามหาคนที่สำนักปลัดเทศบาลเมืองยะลาด้วย..ชื่อพิภพ โชติรัตน์ ไม่รู้สบายดีไหม..เป็นห่วงนามสกุลเดียวกันเคยมาทักแล้วพี่ท่านหายไปเลย..
สวัสดีค่ะ...คุณ "พชร" ขอบคุณค่ะที่แวะทักทาย
เดือนหน้าคงจะได้กลับยะลาค่ะ...เดี๋ยวจะไปควานหาคนชื่อ พิภพ โชติรัตน์ ให้...อิๆๆ แล้วจะบอกว่ามีสาวสวย ถามหา...ราตรีสวัสจ้าาาา ตะเอง
น้ำส้มจ้า..เช้าๆเติมพลัง..
สวัสดีครับ
ขอบคุณที่เข้าไปเยี่ยม "โลกของคนรักเห็ด"นะครับ
สบายดีนะครับ
น้ำส้มสักแก้ว...ขอบคุณจ้า...คุณแม่ "อ้อยเล็ก" ตื่นขึ้นมาเจ็บคอพอดีเลย ได้กินน้ำส้มคั้นสักแก้ว วิเศษสุด ๆ เจ้าค่ะ...ชุมคอชื่นใจ...หอมหวานน้ำใจ ตะเองนิน่ารักเสมอเลยเนอะ
ขอบคุณมากค่ะ
สวัสดีค่ะ...คุณเจษฎา เจ็บคอนิดหน่อยค่ะ อากาศเปลี่ยน ค่ำ ๆ จะแวะไปดูเห็ดนะคะ...ไม่ได้แวะไปหลายวัน
ขอบคุณมากค่ะ