กลุ่มกองทุนชาวบ้านบ้านโนนสวรรค์ใต้
ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ
ความเป็นมา/แนวคิดในการก่อเกิดองค์กรชุมชน/เครือข่ายชุมชน
ความเป็นมาของบ้านโนนสวรรค์ใต้ หมู่ที่ 12 อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ชื่อเดิมคือบ้านน้อย เหตุที่ตั้งชื่อบ้านน้อยเพราะว่าสถานที่ตั้ง อยู่ด้านหลังสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก้งคร้อ โดยมีครอบครัวชาวบ้านที่ อพยพมาจากบ้านมูลนาค บ้านกุดลอบ อดีตคือชาวบ้านจากเขตอำเภอมัญจาคีรี ปัจจุบันคือโคกโพธิ์ชัย โดยมาตั้งบ้านเรือนอยู่เพียง 4-5 ครอบครัว ต่อมาก็ได้มีชาวบ้านได้มาอาศัยอยู่กันมากขึ้นเรื่อยๆจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าบ้านโนนสวรรค์โดยมีผู้ใหญ่บ้านคนแรก คือ นายคำพันธ์ สอนนำ ต่อมาผู้ใหญ่บ้านคนแรกเสียชีวิตเมื่อปี พ.ศ.2538 จึงมีผู้ใหญ่คนที 2 คือนายสมหวัง ขวัญเมืองคูณ เมื่อปี พ.ศ.2540 หมู่บ้านได้ใหญ่ขึ้นจึงได้แยกออกเป็น 2 หมู่บ้านคือโนนสวรรค์เหนือ หมู่ 6 และบ้านโนนสวรรค์ใต้ หมู่ 12 ปัจจุบันผู้ใหญ่บ้านชื่อ นางบายันต์ มหาสารินันทน์ ได้รับตำแหน่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ.2549 อยู่บ้านเลขที่ 66/1หมู่ 12 ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันมีประชากรทั้งหมด 875 คน
ชาย 435 คน
หญิง 440 คน
จำนวนหลังคาเรือน 246 หลังคาเรือน
พื้นที่ทั้งหมด 1,012 ไร่
แยกเป็นที่อยู่อาศัย 592 ไร่
ที่ทำนา 360 ไร่
ที่ทำไร่ 55 ไร่
ที่สาธารณะ 5 ไร่
สภาพภูมิอากาศ มี 3 ฤดู ได้แก่ ฤดูฝน ฤดูหนาว ฤดูร้อน
แนวคิดในการก่อตั้งกลุ่มกองทุนเพื่อเป็นเงินเก็บของชาวบ้านแบบไม่ต้องส่งฝากแต่เงินก็งอกเงยเพิ่มขึ้นได้อย่างดีด้วยความร่วมมือของคนในกลุ่มช่วยกันไม่ว่าจะเป็นการทำงานประเภทไหนก็ตามที่เป็นเครือข่ายของกลุ่มออมทรัพย์ก็จะได้ผลกำไรกลับเข้ามายังกลุ่มหลังหักค่าแรงคนงานแล้วอีกอย่างหนึ่งก็เป็นการสร้างงานไปในตัวของชุมชนด้วย โดยมีสำนักงานตั้งอยู่ที่ ศาลาประชาคมบ้านโนนสวรรค์ใต้ ตำบลหนองไผ่ อำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ
วัตถุประสงค์ในการจัดตั้ง
ในการจัดตั้งกลุ่มกองทุนบ้านโนนสวรรค์ใต้ขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้ที่มีรายได้น้อยได้รู้จักการออมโดยมีส่วนร่วมในการดำเนินไปกับกลุ่มร่วมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกันในการทำงานในกลุ่ม เครือข่ายของกลุ่มออมทรัพย์โดยมี วัตถุประสงค์ดังนี้
1. เพื่อส่งเสริมเผยแพร่วิชาการด้านการเกษตร
2. รวบรวมและให้บริการข้อมูลข่าวสารด้านการเกษตร
3. จัดหาวัสดุการเกษตรเช่นปุ๋ย และเครื่องมือทางการเกษตรมาบริการให้สมาชิก
4. รวบรวมผลผลิตทางการเกษตรและผลิตภัณฑ์ของสมาชิกมาจำหน่าย
5. นำเงินออมทรัพย์มาให้สมาชิกที่เดือดร้อนกู้ในอัดตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อประกอบอาชีพและรายจ่ายที่จำเป็น
6. จัดให้มีเครื่องมือ เครื่องจักรกลเกี่ยวกับการผลิตทางการเกษตรเพื่อให้สมาชิกใช้ประโยชน์
ส่งเสริมการประหยัด การช่วยเหลือตนเองและการร่วมมือช่วยเหลือกันในกลุ่ม
รูปแบบการบริหารจัดการองค์กรเป็นอย่างไร
กลุ่มออมทรัพย์บ้านโนนสวรรค์ใต้ มีการรับสมัครสมาชิกโดยไม่เสียค่าสมัครแลกเข้า สมาชิกเริมแรกมี 40 คน มีเงินทุน 20,000 บาท เงินทุนได้มาจากการจัดเป็นหุ้นให้คนในชุมชนได้มีส่วนร่วมชื้อหุ้น ตั้งแต่ 100-200 บาท แล้วแต่จะชื้อ หุ้นละ 100 บาท ละมีการคัดเลือกคณะกรรมการดำเนินการ 6 คน มาจากคนในกลุ่มและมีการเลือกตั้งประธานกลุ่มจากคณะกรรมการเลือกตั้งขึ้นมากรรมการจะมีวาระอยู่คราวระ 1 ปี กลุ่มออมทรัพย์บ้านโนนสวรรค์ใต้จะมีเครือข่ายอยู่ด้วยอย่างเช่น
- กองทุนเงินล้านมีสมาชิก 69 คน
- กลุ่มฌาปนกิจหมู่บ้าน 160 คน
- กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิต 69 คน
รายชื่อคณะกรรมการดำเนินการกลุ่ม
นายชัชวาลย์ มหาสารินันทน์ ประธาน
นางบายันต์ มหาสารินันทน์ รองประธาน
นางอุไร เรนคำมี เลขานุการ
นางสวัสดิ์ คำพรม เหรัญญิก
นางเฮียว ใจอารีย์ กรรมการ
นายนวน ทองดี กรรมการ
บทบาทหน้าที่ของคณะกรรมการ
- ให้ข้อมูลการเกษตร วางแผนพัฒนาอาชีพด้านการเกษตรขิงกลุ่ม ร่วมกับหน่วยงานราชการและองค์การบริหารส่วนตำบล
- จัดหาปัดใจการผลิตเพื่อบริการสมาชิก รวบรวมผลผลิตเพื่อจำหน่ายและแปรรูป
- ประสานงานแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเพื่อพัฒนากิจกรรมระหว่างกลุ่มเครือข่าย
- ติดตามวิเคราะห์ประเมินผลของกลุ่มอย่างต่อเนือง
- สรุปผล ถอดบทเรียนประจำปี
- การเรียกประชุมคณะกรรมการต้องมีคณะกรรมการเข้าประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง
- มีการประชุมคณะกรรมการทุกเดือน
และที่สำคัญคณะกรรมการต้องเป็นผู้ที่เสียสละ
- โปร่งใส
- ซื่อสัตย์
- เก่งดี มีจิตรอาสา
- ตรงต่อเวลาและเอื้อเฟื่อ
- กล้าที่จะร่วมแก้ไขปัญหาเพื่อกลุ่มและชุมชน
- ต้องมีจิตใจทีมีคุณธรรมจริยธรรมไม่ให้มีการทุจริตเกิดขึ้น
ผลการดำเนินงานของเครือข่าย
กลุ่มออมทรัพย์บ้านโนนสวรรค์ใต้จัดตั้งขึ้นโดยมีสมาชิก 20 คน ระดมเงินหุ้นจากคนในชุมชนหุ้นละ 100 บาท รวมเงินทั้งสิ้นเป็นเงิน 20,000 บาทปัจจุบันมีสมาชิก 110 คนมีเงินทุนเพิ่มเป็น 110,000 บาท และรวมกับเครือข่ายแล้วทั้งสิ้น 398 คน มีเงินทุ่นรวม 1,186,300บาท
การดำเนินการของกลุ่มออมทรัพย์บ้านโนนสวรรค์ใต้โดยการจัดหาปุ๋ย พันธุ์ปลา เชื่อเห็ด ยาปราศรัยตรูพืชทีมีราคาถูกมาให้แก่สมาชิกในกลุ่มเพื่อนำไปใช้นำไปบริโภคและจำหน่ายในราคาถูกกว่าทองตลาดไปใช้ก่อนแล้วค่อยจ่ายทีหลังโดยไม่คิดดอกเบี้ย
กลุ่มและองค์กรมีการพัฒนาดังนี้
- ปลูกเห็ดปลอดสารพิษ เศรษฐกิจพอเพียง
ได้เงินมาจากกลุ่มกองทุนทั้งหลายโดยการบริหารงานของคณะกรรมการเอาเม็ดเงินมาบุรณาการเมื่อขายได้ทุนแล้วก็เอาเงินคืนกองทุน ส่วนผลกำไรที่ได้ก็เก็บไว้เป็นกองทุนเห็ดต่อไป ส่วนผลผลิตทีได้ก็ขายไห้สมาชิกจะนำไปขายหรือบริโภคก็ได้ส่วนตลาดที่มีการนำเห็ดออกมาจำหน่ายก็คือ ตลาดสดแก้งคร้อ ตลาดน้อยบ้านแก้งคร้อและตลาดใกล้เคียง ประโยชน์อีกอย่างหนึ่งก็คือท่าเงินกองทุนไม่พอในการจ่ายให้แก่สมาชิกก็สามารถนำเอาเงินของกองทุนเห็ดไปใช้ก่อนได้เลยเพราะเป็นเครือข่ายกันอยู่แล้วพ่อได้เงินคือมาค่อยเอามาคืนกองทุนเห็ดโดยไม่คิดดอกเบี้ยและการเพาะเห็ดในแต่ละปีจะสามารถเพาะได้ สาม ครั้ง จากนั้นจะทำการหยุดพักโรงเห็นประมาน สามเดือน
- ทำปุ๋ยน้ำหมักชีวภาพ พร้อมศูนย์การเรียนรู้
เพื่อแจกจ่ายแก่สมาชิกของกลุ่มและเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ให้ความรู้แก่สมาชิกและผู้ที่สนใจ เพื่อต่อยอดในการลดการใช้ปุ๋ยเคมีไปในตัวด้วย ทั้งยังสนับสนุนในส่วนผสมบางตัวในการทำปุ๋ยด้วยที่หาไม่ได้ด้วยหรือหาอยาก เพื่อลดละเลิกการใช้สารเคมีอย่างเป็นรูปธรรม และใน ปัจจุบันได้มีปุ๋ยตัวใหม่ออกมาคือ พ ด. 12 ที่จะสามารถบำรุงได้ครบวงจรคือ บำรุงลำต้น บำรุงใบ บำรุงดอกและผลในขั้นตอนเดียว
- ส่งเสริมการเลี้ยงปลาดุกในบ่อชิเมน
การเลี้ยงปลาดุกของกลุ่มคือเลี้ยงโดยธรรมชาติ ต้นทุนไม่สูง ใช้มูลสัตย์แลจุลินทรีย์ มาทำเป็น อ าหารปลา จึงทำให้ปลาโตเร็วไม่เห็นคาว รสชาติดีเนื้อแน่นเพื่อจำหน่ายแก่สมาชิกและสมาชิกผู้ที่ สนใจที่จะเอาไปขายต่อหรือเอาไปประกอบอาหารในราคาถูกกว่าตลาดเพื่อว่าเมท่อเอาไปขายในตลาด แล้วราคาไม่แพงจะขายง่ายหมดเร็วเฟือป้องกันการขาดทุน และมีตลาดรองรับเอาไปขายได้ ตลอดเวลา
- จัดรถไถพร้อมรถสีข้าวไว้บริการสมาชิก
หากสมาชิกต้องการรถไถหรือรถสีข้าวก็ไห้สมาชิกไปลงชื่อไว้เพื่อป้องกันการลัดคิว กรรมการ จะไปทำงานตามลำดับชื่อที่ได้ลงไวแต่สมาชิกเมือถึงคิวแล้วข้าวยังไม่เสร็จก็ต้องไปลงชื่อเข้าคิวใหม่โดยไม่มีการรอ (สมาชิกต้องรู้ว่าข้าวของตัวเองจะสีได้เมื่อไหล่แล้วค้อยไปลงชื่อ)
ด้านสภาพคล่องทางการเงิน
กลุ่มกองทุนบ้านโนนสวรรค์ใต้มีสินทรัพย์หมุนเวียนทั้งสิ้น 1,136,300 บาทในขณะที่ไม่มีหนี้สินหมุนเวียน แสดงให้เห็นถึงสภาพคล่องทางการเงินของกลุ่มกองทุนหมู่บ้านจัดอยู่ในเกณฑ์ที่ดีมาก แต่อย่างไรก็ดี สินทรัพย์ส่วนใหญ่จะเป็นเงินสดและเงินฝากในธนาคารและเงินที่สมาชิกกลุ่มที่กู้ไปและในแต่ละวันกลุ่มจะมีเงินสดเพื่อดำเนินการวันละ 5,000 บาบ เพื่อใช้บริหารจัดการให้เกิดสภาพคล่องตัว
การปันผล
กลุ่มกองทุนบ้านโนนสวรรค์ใต้ ได้มีการปันผลกำไรให้แก่สมาชิกดังนี้
ปันผลตามหุ้น ร้อยละ 10
ปันผลเข้ากองทุน ร้อยละ 70
ปันผลคนทำบัญชี ร้อยละ 10
ปันผลกรรมการ ร้อยละ 10
การปันผลนี้จะปันผลทุกๆ 1 ปีและตัดยอดบัญชีเงินคงเหลือของกองทุนหมู่บ้านด้วย
ปัญหา/อุปสรรค์
- ประชาชนไม่เข้าใจในการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์เพราะอยู่ใกล้ธนาคาร
- การว่างงานและเกรียดคร้าน
- ปัญหาหนี้สิ้น
- ขาดความสามัคคี
- การอพยพไปทำงานต่างถิ่น
แนวทางการแก้ไข
- ประสารเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและบุคลทีสนใจจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์
- จัดอบรมและหางานไห้สมาชิกทำ
- จัดไห้มีการประชาคมทุกๆหนึ่งเดือน
ข้อเสนอแนะต่อการพิจารนาและสร้างความเข้มแข็งของเครือข่าย
ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบถึงข้อมูลข้าวสารและจัดไห้มีการประชุม ถึงประโยชน์ของการก่อตั้งกลุ่มกองทุนของชุมชนอย่างทั่วถึง
ในอนาคต
บ้านโนนสวรรค์ใต้มีโครงการจัดตั้งกลุ่มออมทรัพย์ของหมู่บ้านด้วยเพื่อไห้สมาชิกในชุมชนมีเงินออมเอาไว้ใช้ในยามขัดสนหรือเอาไปใช้หนี้ เงินกู้นอกระบบ และจัดชื่อรถสีข้าวไว้บริการสมาชิกและคนในชุมชนในราคาทีถูกกว่ารถสีข้าวของนายทุน
เอกสารอ้างอิง
สัมภาษณ์ นายชัชวาลย์ มหาสารินันทน์ ประธานคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านโนนสวรรค์ใต้