"อีกนิด" กับการพัฒนานิสิตเรื่องการแต่งกาย


"อีกนิดนะครับ อีกนิดนะคะ"

ในฐานะนิสิตปริญญาเอก จุฬาฯ  คนหนึ่ง    รู้สึกชื่นชม ยินดีกับการเปิดตัวได้สวยกับ โครงการ           “ อีกนิด ” (A bit more Project) ของจุฬาฯ    โครงการที่หลายคนคงเฝ้ารอว่าเมื่อไร จุฬาฯ จะรณรงค์ในเรื่องการแต่งกายชุดนิสิตที่ถูกระเบียบ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นแผ่นป้ายประชาสัมพันธ์ โปสเตอร์ สติ๊กเกอร์ ที่คั่นหนังสือ ฯลฯ อย่างจริงจัง ต่อเนื่อง  และทั่วถึง เสียที … แล้วในที่สุด วันที่รอคอยก็มาถึง    กิจกรรมที่ใช้ชื่อโครงการแบบระมัดระวัง ร่วมกับการใช้ถ้อยคำเชิญชวนและโน้มน้าวใจนิสิตที่แสนจะสุภาพ  “ เสื้อเล็กไปหรือเปล่า ”  “ อีกนิดนะครับ  อีกนิดนะคะ ” …  “ เดินก็ไม่สะดวก  ก้มก็ไม่ได้ ”  “ อีกนิดนะครับ  อีกนิดนะคะ ”   “ มาเรียนหนังสือ หรือมาเดินแบบ ”  “ อีกนิดนะครับ  อีกนิดนะคะ ” …   แต่แฝงไปด้วยความตั้งใจจริงในลักษณะของปัญญาชนเตือนปัญญาชนด้วยกัน 
           ตนเองเห็นด้วยกับจุฬาฯ อย่างยิ่งที่ได้รณรงค์เรื่องการแต่งกายถูกระเบียบอย่างจริงจังเสียที  ถึงแม้ว่าจุฬาฯ จะไม่ค่อยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคม/สื่อมากนักในเรื่องของการแต่งกายของนิสิต แต่ก็ต้องยอมรับกันว่าปัจจุบันนิสิตจุฬาฯ หลายคนในหลายคณะ หลงใหลไปกับพฤติกรรมการแต่งกายตามกระแสแฟชั่น จนลืมประเพณีอันดีงามของชาวจุฬาฯ เสียแล้ว     เพราะยังพบเห็นว่ามีนิสิตหญิงบางคนใส่เสื้อรัดติ้ว  กระโปรงและเข็มขัดอยู่ใต้สะดือ  ใส่ตุ้มหูคู่ใหญ่  รองเท้าสีสรรสดแสบตา  รวมถึงการแต่งหน้าจัดจนเกินงาม  หรือแม้แต่นิสิตชายก็ไม่เบา  ที่ใส่เสื้อรัดรูป  กางเกงแฟชั่น  รองเท้าสุดหรู  ดูดีมีราคา (แพงเกินไป)
            จุฬาฯ เอง   ก็คงตระหนักดีว่าหากไม่ส่งเสริมให้เกิดการรณรงค์การแต่งกายที่ถูกระเบียบแล้ว  เอกลักษณ์และภาพลักษณ์อันดีงามของสถาบันคงจะถูกกลืนหายไปกับวัฒนธรรมเสรีนิยมของนิสิต และในฐานะที่เป็นสถาบันชั้นนำที่เป็นที่ยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ    การเป็นแบบอย่างที่ดีและคอยเตือนสติสังคมนับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จุฬาฯ ควรกระทำ   ไม่เพียงแต่เป็นการเตือนสตินิสิต แต่ยังเตือนสติอาจารย์ และบุคลากรอื่นๆ ในสถาบันด้วยว่า ถ้าทำให้นิสิตในสถาบันเป็นคนดี มีวินัยไม่ได้  จะไปชี้นำสังคมก็คงจะลำบาก    การฝึกให้นิสิตแต่งกายดี  เท่ากับเป็นการเสริมสร้างคุณธรรมจริยธรรม  ฝึกวินัย   ฝึกความอดทน  ฝึกความพอเพียงให้กับนิสิต    แสดงจุดยืนของจุฬาฯ ในการอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณี/ทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไว้    
            ถึงเวลาที่ต้องเอาจริงแล้ว  ถึงเวลาที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกันเฝ้ามอง   ช่วยกันตักเตือน…  
อย่าผลักภาระให้เป็นงานของฝ่ายกิจการนิสิตเพียงอย่างเดียว     และที่สำคัญ ต้องไม่ลืมที่จะชื่นชม ยกย่อง นิสิตที่แต่งกายดี เพื่อเสริมพลังอำนาจให้นิสิตที่ทำดีได้ทำดีต่อไป  และเป็นการส่งเสริมค่านิยมที่ดีให้เกิดขึ้นในสถาบัน
              
จึงขอปรบมือให้  อีกนิดนะครับ  อีกนิดนะคะ

หมายเลขบันทึก: 291777เขียนเมื่อ 28 สิงหาคม 2009 08:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 20 มิถุนายน 2012 19:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

สวัสดี ครับ

ผมกำลัง คิดถึงคำว่า อีกนิด เช่น กัน ครับ

มาเจอบันทึกนี้ ยิ้มออกเลย ครับ

เขียน อีก นะครับ

ชื่นชม ครับ

ขอบคุณ คุณแสงแห่งความดี .. ที่แวะมาเยี่ยมชมและให้กำลังใจนะคะ เรื่องดีๆ   ถ้ามีคนดีๆ มีความคิดสร้างสรรค์มาให้การสนับสนุน
หรือส่งเสริม ย่อมเป็นแรงผลักดันให้เกิดความมุ่งมั่นที่จะทำต่อไปค่ะ

แลกเปลี่ยนหน่อยนะครับ

ไม่ใช่ไม่เห็นด้วยกับคุณอาทิตยานะครับ

แต่เป้นการต้ังข้อสังเกตุกับจุฬา และมหาวิทยาลัยทั้งหลาย

ผมว่ามันประหลาดมาก ๆ ในการรณรงค์เรื่องนี้กับนักศึกษาในฐานะปัญญาชน

นึกไม่ถึงจริง ๆ ครับว่ามหาวิทยาลัยต้องมาทำรณรงค์เรื่องแบบนี้

ผมว่ามันน่าจะมีอะไรผิดพลาดสักอย่างในระบบการศึกษาบ้านเรา

ขอเพิ่มข้อสังเกต ในการคิดวิเคราะห์ เพิ่มเติมนะคะ

นิสิต นักศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ระดับชั้น ปีที่ 1 - 4

(ยกเว้น นิสิตแพทย์ 6 ปี ครุ 5 ปี)โดยประมาณ ที่เพิ่ง ถอดคอซอง มาจาก โรงเรียนมัธยม มาอยู่ในชั้นปีที่ 1 อายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 18-20 ปี

ตามหลักทฤษฎี ด้านพฤติกรรม ของ Lawrence Kohlberg อาจจะต้องอยู่ในช่วงที่จะต้อง "บ่มเพราะ" พวกเค้า อยู่นะคะ

กิจกรรมนี้ น่าจะเป็นกระบวนการกนึ่ง ในการพยายาม "บ่ม เพราะ" จริยธรรม ที่สง่างาม

ทั้งร่างกาย และ จิตใจ ตลอดจนพฤติกรรมที่แสดงออกอย่างเหมาะสม ....

ของ ระบบการจัดการใน "อุดมศึกษา" ซึ่ง ยังมีอีกมากมาย ที่ เข้าใจว่า หลายสถาบัน ก็พยายามจะร่วมกันทำค่ะ......

คงไม่ได้มีแค่นิสิตของจุฬาฯ เท่านั้น ที่กำลังนิยมแฟชั่นการแต่งกายชุดนิสิตนักศึกษาแบบนี้ เพราะไม่ว่าสถาบันไหนๆ ตอนนี้ก็น่าจะปวดหัวกับการแต่งกายของนักศึกษา ที่ดูไม่เหมือนชุดนักศึกษาเข้าไปทุกที ซึ่งแต่ละสถาบันก็พยายามงัดกลยุทธ์ต่างๆ ออกมาเพื่อโน้มน้าวให้นักศึกษาแต่งกายให้ถูกระเบียบขึ้น ในวิธีทั้งขู่ ทั้งปลอบ เช่น จัดประกวดแต่งกายนักศึกษาที่เป็นแบบอย่าง รวมถึงมีบางสถาบันฯ แอบถ่ายนักศึกษาที่แต่งกายไม่เหมาะสม ติดประกาศ เพื่อให้นักศึกษาอื่นขยาดก็มี ซึ่งต่างๆ เหล่านี้ ก็เพื่ออยากให้นิสิตนักศึกษา ตระหนักรู้ในสิ่งที่ดีงาม มีความพอดี พอเหมาะพอควร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องสู้กับกระแสแฟชั่นในโลกที่มาแรงในทุกๆ สื่อด้วย ดีใจที่มีโครงการอย่างนี้เกิดขึ้นค่ะ

ขับรถเข้าไปในจุฬาฯ เห็นป้ายสะดุดตาหลายป้ายติดๆ กัน ตอนแรกยังนึกสงสัยอยู่เลยค่ะ ว่าอะไร "อีกนิดนะครับ อีกนิดนะคะ" แต่พอได้อ่านข้อความในป้ายแล้ว นึกชื่นชมไอเดียของผู้จัดค่ะ ว่าสื่อได้สะดุดตา และน่าสนใจมาก ทำให้ชวนติดตามว่าคืออะไร และได้เห็นถึงความพยายามในการรณรงค์เรื่องการแต่งกายของนิสิตนักศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาที่พบในทุกสถาบันการศึกษา เคยได้อ่านกระทู้เรื่องชุดนักศึกษาหญิงในปัจจุบันกระทู้หนึ่ง มีผู้กล่าวไว้ว่า "ชุดที่เซ็กซี่ที่สุด คือชุดนักศึกษา" ทำให้นึกเป็นห่วงปัญหาที่อาจจะตามมาไม่น้อยค่ะ การรณรงค์ให้นิสิตนักศึกษาแต่งกายถูกระเบียบจึงเป็นเรื่องสำคัญ โครงการนี้เป็นตัวอย่างโครงการที่ดีมากค่ะ ขอชื่นชมผู้จัดด้วยใจจริง \\(^o^)//

เห็นด้วยกับโครงการนี้นะคะ คนคิดโครงการมี Idea เยี่ยมจริง ๆ เขียนคำโฆษณาชวนให้ติดตามว่ามันคืออะไร อ่านดูแล้วก็อยากให้นักศึกษาหันมาเอาใจใส่ในการแต่งกายบ้าง เพราะชุดนิสิตนักศึกษาเป็นชุดที่ใส่แล้วดูเรียบร้อยนะคะ ถ้าไม่สั้นจนเกินไป ไม่รัดจนหายใจไม่ออก หรือใส่เสื้อไว้ในกระโปรง กางเกง ให้เรียบร้อย

ในฐานะที่เป็นเราเองก็เป็นอาจารย์สอนระดับปริญญาตรีด้วย ก็รู้สึกว่าถ้านักศึกษาใส่ชุดถูกระเบียบของมหาวิทยาลัยก็น่าจะเป็นสิ่งที่ดีนะคะ เพราะนอกจากจะเรียบร้อยแล้ว ยังปลอดภัยสำหรับตัวนิสิตเองด้วย แต่ปัจจุบันค่านิยมในการแต่งกายเปลี่ยนไปมากค่ะ ถ้าเราไปเตือนนิสิตเรื่องการแต่งกาย เขาก็จะมีข้อแก้ตัวสารพัด เช่น "ถ้าใส่ถูกระเบียบก็เชย เดี๋ยวจะเข้ากลุ่มเพื่อนไม่ได้" หรือบางคนก็บอกว่า "คนอื่นเขาก็ใส่สั้น ๆ กันไม่เห็นเป็นอะไรเลย แล้วจะให้หนูใส่ยาวอยู่คนเดียวหรือคะ" พอได้คำตอบแบบนี้ก็อึ้งไปเหมือนกันนะคะ

แต่อย่างไรก็ตามก็ยังเห็นด้วยกับโครงการนี้ และมหาวิทยาลัยอื่นก็น่าจะจัดโครงการรณรงค์เรื่องการแต่งกายของนิสิตนักศึกษาด้วยนะคะ

โครงการนี้เป็นโครงการที่ดีในสายตาของผู้พบเห็นค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในตัวของนิสิตได้มากน้อยแค่ไหน เพราะตัวเองเคยเจอประสบการณืกับตัวเองเกี่ยวกับพฤติกรรมหลายๆ อย่างของนักศึกษาที่คิดว่าไม่เหมาะสม..ไม่ได้บ่นนะคะ...เล่าสู่กันฟัง คือมารยามการใช้ห้องสมุดในจุฬาฯ เอง(ขอไม่ระบุละกัน)ก็ยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่างๆ รวมทั้งมารยาทการพูดในกลุ่มเพื่อนและการพูดคุยกับอาจารย์ทั้งในห้องและนอกห้องเรียน....เป็นเรื่องที่น่ากังวลจริงๆ ค่ะ ดังนั้น ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ครูอาจารย์ควรให้ความใส่ใจบุตรหลานและนักศึกษามากกว่าเดิมในด้านการแต่งกายและสอนสอดแทรกเรื่องเหล่านี้ในการเรียนการสอน..น่าจะเป็นทางแก้ปัญญาที่ดีค่ะ

โครงการรณรงค์ เรื่องการแต่งกาย เป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่ตัวเองยังเป็นห่วงว่าโครงการนี้คงไม่เป็นไฟไหม้ฟางนะค่ะ เพราะตราบใดที่หมดการรณรงค์โครงการนี้แล้วไม่แน่ใจว่านิสิตนักศึกษาจะแต่งตัวอย่างไร เพราะจากข้อมูลที่ผ่านมาในหนังสือพิมพ์ จากการสัมภาษณ์นิสิตนักศึกษา รายหนึ่งบอกว่า "ไม่ใช่เธอเพียงคนเดียวที่ไม่เชื่อตามคำเตือน เพื่อนๆ อีกหลายคนก็เห็นว่าเป็นสิ่งเหลวไหล แถมยังใส่ตัวเล็กลงๆ ฉันใส่มาตั้งแต่อยู่ปี 1 ตอนนี้ 3 ปีมาแล้ว ไม่เห็นเป็นอะไร เกรดเฉลี่ยก็ไม่เคยตก " จะเห็นได้ว่าถ้านิสิตนักศึกษามีความคิด ความเชื่อแบบนี้แล้วหรือว่าที่ผ่านมาสถาบันให้อิสระเรื่องการแต่งกาย แล้วอยู่ๆสถาบันมารณรงค์ เรื่องการแต่งกาย ตรงประเด็นนี้คงเป็นภาระหนักของสถาบันอุดมศึกษาที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันอย่างเป็นรูปธรรมและเอาจริงเอาจัง ต้องบ่มเพาะ เปลี่ยนค่านิยมและทัศนคติในตัวนักศึกษา ช่วยชี้แนะนิสิตนักศึกษาให้เดินในทางที่เหมาะสม เสริมสร้างความมีคุณค่าในตนเองจากภายในไม่ใช่แสดงให้เห็นจากรูปร่างภายนอกจากการแต่งกาย ในเครื่องแบบที่รัดและสั้น และต้องปลูกฝังค่านิยมรักนวลสงวนตัว ให้เกิดกับเด็กรุ่นใหม่เพราะเราอยู่ภายใต้สังคมวัฒนธรรมไทย

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท