ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ


สัปดาห์นี้ทำงานในจุด verify ผลตรวจจากเครื่องวิเคราะห์อัตโนมัติรอง (เรามีเครื่องหลักที่ทำงานเต็มวันกับเครื่องรองที่ทำงานครึ่งวันและการทดสอบพิเศษอื่นๆด้วย) ที่ต้องตรวจสอบดูผลที่รายงานออกมาจากเครื่องว่าถูกต้อง สัมพันธ์กับค่าเดิมและค่าโดยรวม มีผลที่สมควรต้องตรวจสอบซ้ำหรือน่าสงสัยอะไรก่อนที่จะลงชื่อออกผลไปให้คุณหมอเอาไปรักษาดูแลคนไข้

ยังคงมีอาการเจ็บระบมเหงือกอยู่ รู้สึกครั้งนี้เป็นการถอนฟันที่เจ็บนานที่สุดเท่าที่เคยถอนมาเลย ยังไม่อยากเคี้ยวอะไร ไม่อยากพูดไม่อยากยิ้มเท่าไหร่ และยังต้องคอยประคองแก้มซ้ายอยู่เรื่อยๆเพราะมันหนักตึ้บๆอยู่  ทำอะไรก็เลยไม่รู้สึกปลอดโปร่งเท่าไหร่

ที่บรรยายความรู้สึกมานี้ เพราะคิดขึ้นมาว่า เมื่อเทียบกับคนไข้อีกมากมายที่เขาทุกข์ทรมาน เราเจ็บแค่นี้ถือว่าเล็กน้อยเหลือเกิน  ก็ยังมีอิทธิพลมากมายกับชีวิตประจำวัน ทำให้ไม่รู้สึกกระตือรือร้น ไม่อยากจะทำอะไร ทำให้วนเวียนอยู่แต่กับความรู้สึกของตัวเอง สนใจคนอื่นและเรื่องรอบข้างน้อยลง

นั่งดูผลแล็บของคนไข้ ซึ่งมีจำนวนมากเลยที่เป็นคนไข้โรคไต ซึ่งส่วนใหญ่จะมีผลแล็บย้อนหลังกันยาวๆทั้งนั้น เพราะเป็นโรคที่ต้องรักษาต่อเนื่องยาวนาน เห็นผลหลายๆรายที่มีค่าของเสียคั่งในเลือดเยอะๆ ส่อให้เห็นว่าไตทำงานไม่ไหวแล้ว ทำให้รู้สึกเลยว่า ทุกท่านเหล่านั้นคงจะทุกข์ทรมานมากกว่าเราหลายพันเท่า ไหนจะตัวเอง คนรอบๆตัวก็คงจะทุกข์ไม่แพ้กัน เพราะสิ่งที่เขาเป็นนั้น เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตประจำวันแน่นอน และการช่วยตัวเองก็คงจะทำได้ไม่เต็มที่อยู่แล้ว ต้องอาศัยทั้งกำลังกาย กำลังทรัพย์ กำลังใจจากคนรอบๆตัว เรียกว่าคงทุกข์กันไปทั้งครอบครัว

รู้สึกว่าเป็นหน้าที่อีกอย่างหนึ่ง ที่จะต้องให้ความรู้ ชักชวนให้ผู้คนรักษาสุขภาพพื้นฐานต่างๆที่จะช่วยป้องกันให้ไม่เกิดโรค โดยเฉพาะโรคที่ป้องกันรักษาแก้ไขได้ทั้งหลายแหล่ เพราะไม่ว่าจะเป็นเบาหวาน อัมพฤกษ์ อัมพาต โรคไต โรคตับ เป็นโรคที่มีส่วนอย่างมากมาจากการใช้ร่างกายอย่างไม่เหมาะสม ถ้ารณรงค์ให้คนเราช่วยกันดูแลตัวเองในเรื่องพื้นฐานต่างๆได้ดีแล้ว เราจะลดโอกาสที่จะเป็นโรคเหล่านี้ได้มากมายทีเดียว

ฝากถึงทุกท่านที่เข้ามาอ่านด้วยนะคะ อย่าลืมดูแลสุขภาพร่างกายในส่วนที่เราจัดการได้ให้ดีๆ อย่ารอให้ถึงวันที่ร่างกายร้องอุทธรณ์ เพราะบางทีอาจจะสายเกินแก้ไปแล้ว ดูแลตัวเองและคนรอบๆตัวด้วย ช่วยๆกันนะคะ กินอาหารให้ถูกส่วนอย่าตามใจปาก อย่าเห็นแก่ความสุขชั่วครู่ชั่วยามในปัจจุบัน ออกกำลังกายสม่ำเสมอ อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง ลุกขึ้นทำอะไรให้เหงื่อออกสักวันละ"ครึ่งชั่วโมง"เท่านั้นเอง วันนึงมีตั้งหลายสิบ"ครึ่งชั่วโมง" ทำจิตใจให้แจ่มใส เพื่อให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างผ่อนคลายไม่เครียด ไม่ทำร้ายร่างกายภายในโดยไม่รู้ตัวเพราะความเครียด เรื่องง่ายๆแค่นี้ที่ทำให้ได้ทุกวัน ก็จะช่วยรักษาสุขภาพดีๆไว้กับตัวได้ค่ะ  

หมายเลขบันทึก: 291081เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2009 23:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 พฤษภาคม 2012 16:42 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท