ชาดา ~natadee
ชาดา ชาดา ~natadee ศักดิ์รุ่งพงศากุล

ลมหายใจแห่งการสร้างบารมี


สมบัติแม้มีมากมายก็ไม่อาจสามารถหยุดยั้งเวลาและลมหายใจที่กำลังจะหมดไปของเราได้

.....จะมีสักกี่คนไหมที่มีโอกาสเตรียมตัวตาย จะมีสักกี่คนไหมหนอ ที่มั่นใจว่า ถ้าตายไปแล้วจะมีบุญพอที่จะเป็นเสบียงนำทางไปสู่สุคติสวรรค์ เพราะพญามัจจุราชไม่เคยปราณีใคร ความตายจึงเป็นสิ่งที่ใครๆ จะหลบหนีพ้นได้ยาก

ดังนั้น ผู้มีปัญญาเห็นคุณค่าของชีวิต จึงไม่ควรประมาทในชีวิต มุ่งสั่งสมบุญเพื่อเป็นเสบียงในการเดินทางข้ามวัฏสงสารให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้สั่งสมบุญ ไม่เห็นแก่ความสุขชั่วครั้งชั่วคราว และก็ไม่แสวงหาความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น แต่จะสร้างบุญบารมีในทุกโอกาส ส่วนผู้ไม่รู้ก็ปล่อยชีวิตไปวันๆ ไม่ได้มองไปในอนาคต ไม่ทำบุญกุศลอะไร นอกจากจะไม่ทำแล้ว ยังขัดบุญของคนอื่นอีกด้วย เมื่อละโลกไปแล้ว ก็ต้องไปเป็นเปรต ผู้หิวโหย ไม่ได้รับความอิ่มหนำสำราญใจแม้แต่วันเดียว


มีวาระพระบาลีที่ปรากฏในคาถาธรรมบทว่า ผู้ทำบุญแล้ว ย่อมบันเทิงในโลกนี้ ละโลกไปแล้ว ย่อมบันเทิงยิ่งขึ้นไปย่อมชื่อว่าบันเทิงในโลกทั้งสอง เมื่อมองเห็นกรรมอันบริสุทธิ์ของตนแล้ว ย่อมร่าเริงบันเทิงใจมากยิ่งขึ้น

จะเห็นว่า สิ่งที่เราได้ทำเอาไว้ไม่สูญหายไปไหน ไม่ว่าจะเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว จะก่อตัวเป็นดวงบุญและดวงบาปติดอยู่ในกลางกายของเรา คอยวันเวลาที่จะส่งผล เหมือนผลไม้ที่สุกงอมแล้วก็ต้องร่วงหล่นจากต้น หรือเหมือนฝนที่ตกลงมาเต็มลำธาร แล้วจะไหลไปสู่แม่นํ้า เอ่อล้นไหลต่อไปถึงทะเลมหาสมุทร เพราะฉะนั้น บุญบาปที่สั่งสมในสมัยที่เป็นมนุษย์ แม้ไม่ทันส่งผลในชาตินี้ ก็จะตามไปให้ผลในภพชาติต่อไป

คนเราแม้ไม่อาจจะกำหนดความตายได้ แต่เราก็สามารถเลือกเกิดได้ ชีวิตของเราจะให้เป็นอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับใจของเรา เมื่อเราละจากโลกนี้ไป โอกาสที่เราจะเลือกเกิดในสุคติภพก็ไม่ยาก ขึ้นอยู่กับว่าเราจะได้ใช้โอกาสที่เป็นมนุษย์นี้ ทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดสำหรับชีวิตของเราหรือเปล่า หากมีบุญเสียแล้วต้องเลือกเกิดได้ จะไปเป็นเศรษฐีหรือเป็นสหายแห่งเทพในโลกสวรรค์ หรือจะไปทนทุกข์ทรมานอยู่ในอบายภูมิ ก็อยู่ที่ตัวของเราเอง ชีวิตนี้แล้วแต่เราจะเลือกเดิน

เพราะฉะนั้น พวกเราทุกคนควรให้ความสำคัญกับการสั่งสมบูญให้มากๆ เพราะบุญเท่านั้นที่จะไปเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเรา บุญเท่านั้นเป็นที่พึ่งทั้งในโลกนี้และโลกหน้า

นักปราชญ์บัณฑิตทั้งหลาย ท่านรู้คุณค่าบุญ ลมหายใจของท่านเป็นไปเพื่อการสั่งสมบุญกุศลล้วนๆ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยได้กล่าวเอาไว้ว่า ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ เราก็ต้องสั่งสมบุญและก็ฝึกฝนอบรมตนเองให้ดียิ่งๆ ขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง จนกว่าจะเป็นผู้ที่สมบูรณ์พร้อมทั้งวิชชาและจรณะ เราจะต้องมีหัวใจของนักสร้างบารมีอย่างพระบรมโพธิสัตว์เจ้าทั้งหลาย คือไม่ว่าจะเกิดกี่ภพกี่ชาติก็ตาม ต้องสร้างความดีไม่รู้จักหยุด ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า ท้อก็ไม่ได้ ถอยก็ไม่เป็น เป็นแต่สร้างความดีให้เต็มที่ ในทุกที่ ทุกเวลานาที เราต้องสั่งสมบุญตลอดเวลาเหมือนกับการหายใจ ให้มีกระแสบุญคอยหล่อเลี้ยงอยู่ตลอดเวลา เหมือนไฟไม่ขาดเชื้อ ถ้าหมดบุญก็หมดลม เราจึงไม่ควรหายใจเข้าออกฟรี เพราะเราเป็นนักสร้างบารมีพันธุ์อกาลิโก คือสั่งสมบุญกันทุกที่ ทุกเวลานาที เป็นนักสร้างบารมีพันธุ์อจินไตย ลมหาย! ใจนี้มีไว้เพื่อการสร้างบารมีอย่างเดียว...

 ขอบคุณเพื่อนแอนที่ส่งบทความดีๆ มาให้อ่านทำให้ได้คิดว่าถึงเวลาเริ่มสร้างสมบุญเป็นเสบียงแล้วสินะเรา...แถมงานนี้เพื่อนรัก...ยังชวนไปทำบุญด้วยการจัดทำหนังสือธรรมะบริจาคที่ลำพูนอีกด้วยค่ะ...ทำตอนที่เรายังมีลมหายใจน่าจะดีกว่า....

หมายเลขบันทึก: 291051เขียนเมื่อ 25 สิงหาคม 2009 22:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 10 มิถุนายน 2013 19:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

อ่านแล้วทำให้นึกถึงนิทานเรื่องหนึ่งครับ เรื่อง ภรรยา 4 คน เรื่องมันมีอยู่ว่า

ชายคนหนึ่งมีภรรยา อยู่ 4 คน 
 
ภรรยาคนที่ 1 เขารักที่สุด ไปไหนมาไหนด้วยกัน ตามใจตลอดอยากได้อะไร  
เขาหาให้ทุกอย่าง  
 
ภรรยาคนที่ 2 เขารักมาก เขาจะทำทุกสิ่ง 
ทุกอย่างเพื่อภรรยาคนนี้  
และจะไปหาภรรยาคนนี้เสมอ 

 

ภรรยาคนที่ 3 เขารักรองลงมา ดูแลเอาใจใส่พอควร แวะไปหาบางเป็นครั้งคราว  
 
ภรรยาคนที่ 4 เขาไม่เคยสนใจ ไม่เคยดูแลเอาใจใส่ ไม่เคยไปหา ไม่คิดถึงเลย ด้วยซ้ำ


ต่อมาชาย คนนี้ไปกระทำความผิดร้ายแรง 
และถูกจับ ต้องถูกประหารชีวิต ก่อนที่จะถูกประหาร เขาขอร้องว่า เขาขอกลับบ้าน 
เพื่อไปร่ำลาภรรยาสุดที่รักซักครั้ง  
ผู้คุมเห็นใจจึงอนุญาต  
เมื่อกลับมาถึงบ้าน เขารีบตรงไปหา
ภรรยาคนที่ 1  
เล่าเหตุการณ์ต่างๆ ให้ฟัง  
และถามภรรยา คน ที่ 1 ว่า

" ถ้าเขาต้องตายภรรยาคนที่ 1  จะทำอย่าง ไร? "  

 

ภรรยาคนที่ 1 ตอบน้ำเสียงที่เย็นชาว่า  
ถ้าเธอตาย เราก็จบกัน  
คำตอบที่ได้รับ  
เหมือนสายฟ้าที่ผ่าเปรี้ยง!! ลงมาที่เขาอย่างจัง  
เขารู้สึกเจ็บปวด และเสียใจเป็นอย่างยิ่ง 
นึกเสียดาย ว่าเขาไม่ควรทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เลย

 
 

จากนั้นเขาก็ ไปหา ภรรยาคนที่ 2  
ด้วยอาการเศร้าโศก เล่า เรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง  
และถามคำถามเดิมกับภรรยาคนที่ 2 ว่า 

 

" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 2  จะทำอย่างไร? "

 

ภรรยาคนที่ 2 ก็ ตอบอย่างหน้าตาเฉย ว่า  
" ถ้าเธอตาย ฉันจะมีใหม่ "  
เหมือนสายฟ้า!! ผ่าลงมาซ้ำที่เขา อย่างจัง  
เขารู้สึกเสียใจมาก และนึกเสียดายว่าที่ผ่านมา 
เขาไม่ควร ทุ่มเทให้ภรรยาคนนี้เช่นกัน 

 

เขาเดินคอตกมาหาภรรยาคนที่ 3  
เล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ ฟัง  
และถาม ภรรยา คนที่ 3 ว่า 

 

"ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคน ที่ 3  จะทำอย่างไร? "

 

ภรรยาคนที่ 3 ตอบว่า  
"ถ้าเธอตาย ฉันจะไปส่ง "  
ทำให้เขาคลายความ เศร้าโศกขึ้นมาได้บ้าง  
อย่างน้อยก็ ยังมีภรรยาที่จริงใจกับเขา  

 

ก่อนกลับไปรับโทษ 
เขานึกขึ้นมาได้ว่ามีภรรยาอีกคน ซึ่งไม่เคยไปหาเลย จึงไปหา
ภรรยาคนที่ 4 และถามว่า  

 

" ถ้าเขาต้องตาย ภรรยาคนที่ 4  จะทำอย่าง ไร?" 

ภรรยาคนที่ 4 ตอบว่า  
" ถ้าเธอตาย ฉันจะตามไป ด้วย "  
แทนที่เขาจะดีใจกลับนึกเสียใจหนักขึ้นไปอีก  
เพราะ...มัน สายเกินไปเสียแล้ว ช่วงที่เขามีชีวิตอยู่ 
เขาไม่เคยเห็นค่าของภรรยาคนนี้ แต่ภรรยาคนนี้ไม่คิดที่จะทิ้งเขา จะติดตามเขาไปอยู่ด้วย  
แล้วชายคนนี้ก็กลับไปรับโทษประหาร 
และเมื่อเขาตาย ภรรยาคนที่ 4 ก็ตายตามไป ด้วย.....

 

เราทุกคนก็ มีภรรยา 4 คน นี้ 
 
มีคำถามว่า
ภรรยาทั้ง 4 คนเป็นใคร? คิดกันก่อนนะ แล้วค่อยเฉลย...

 

ทีนี้เรามาดูกันว่า  ภรรยาคน ที่ 1, 2, 3 และ 4  เป็นใครกันบ้าง

 

ภรรยาคน ที่ 1  
 
ร่างกายของเรา เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่  
เราจะบำรุงบำเรอด้วยของสิ่งทุกอย่าง  
อยากได้อะไรก็หาให้  
แต่พอเราตายมันกลับไม่ไปกับเรา  
เมื่อเราตาย
ร่างกายมันก็มีค่าเท่ากับท่อนไม้ 
ท่อนหนึ่งเท่านั้น

 

ภรรยาคน ที่ 2  
 
ทรัพย์สมบัติ เพราะเวลาเรามีชีวิตอยู่  
เราจะทำทุกอย่าง เพื่อให้ได้มันมา  
แต่พอเราตาย มันกลับไม่ไปกับเรา  
แต่ไปเป็นของคนอื่น 

 

ภรรยาคนที่ 3  
 
พ่อแม่ ลูกเมีย ญาติ พี่น้อง เพราะพอเราตาย  
เขาจะทำศพให้เรา ทำบุญไปให้ 
แปลว่า
เขาแค่ไปส่งเราเท่านั้น  

 

ภรรยาคนที่ 4  
 
บุญกับบาป เมื่อเราตายไป  
เราไม่สามารถเอาอะไรไปด้วยได้  
มีเพียงแค่บุญกับบาปเท่านั้น 
ที่จะตามเราไป ..... 

 

 

สมบัติแม้มีมากมายก็ไม่อาจสามารถหยุดยั้งเวลาและลมหายใจที่กำลังจะหมดไปของเราได้

หวัดดีคุณชิด  ขอบคุณมากที่มาเล่านิทานให้ฟัง

ถ้าเป็นเรา จะบอกคนที่เรารักไปว่า

ถ้าเธอตาย....ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอ...คอยโอบกอดร่างเธอไว้ไม่ให้เดียวดาย...เราจะอยู่คู่กันตลอดไป.....(ซึ้งป่าวเนี่ย.....)

สวัสดีค่ะครูโย่ง...

บุญบารมี และบาป เท่านั้นที่คงอยู่คู่เรา...แม้หมดลมหายใจ

ขอบคุณค่ะ

พระท่านให้ตาย ก่อน ตาย ทุกครั้งที่หายใจเข้า คือ ได้เกิดใหม่

สวัสดี ครับ คุณ

P ชาดา ~natadee

ผู้มีปัญญาเห็นคุณค่าของชีวิต จึงไม่ควรประมาทในชีวิต มุ่งสั่งสมบุญเพื่อเป็นเสบียงในการเดินทางข้ามวัฏสงสารให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้สั่งสมบุญ

เป็นข้อคิด ที่อ่านผ่านสายตาแล้ว ต้องทำ....เพราะเป้นสิ่งที่ไม่เกินความสามารถที่จะทำ

ขอบพระคุณ กับบันทึก ดี ดี เช่นนี้ ครับ

(ผมเคยเห็น คุณ นั่งใกล้ ๆ คุณมนัญญา ในหลาย ๆ รูป ไม่ทราบว่าใช่หรือไม่ ครับ....เป็นกำลังใจให้คุณชาดาและทีมงานที่คุณ ทำงานด้วย นะครับ)

 

สวัสดีคะ คุณแสงแห่งความดี
มีหลายรูปนะคะ  ที่เราไปทานอาหารหรือทำกิจกรรมร่วมกัน

เช่นรูปนี้ (ไม่ได้อยู่ใกล้ เพราะมี อ.JJ มาคั่นกลางค่ะ) 

  • การเตรียมตัวตาย
  • ตั้งแต่ยังบ่ตายแต้
  • เปิ้นว่าทำหื้อเฮารู้จักการเตรียมพร้อม
  • และยอมรับความจริงที่ว่า
  • โลกนี้บ่มีอะหยังแน่นอนเจ้า
  • แต่  ตอนนี้ยังบ่อยากตายเตื้อ
  • พรุ่งนี้เย็นๆ
  • ไปกิ๋นข้างแลงโตยกั๋นแฮ๋มเน้อ

ฮ่าๆๆๆ   จำได้ขึ้นใจเลยค่ะ 

อ.JJ  บอกทุกครั้งว่า ถ้าตื่นมาแล้วยังมีลมหายใจ ถือว่าโชคดีแล้ว....

ขอบคุณที่มาเตือนสติอีกรอบค่ะ 

 

ดีจ้าพี่หมอเขี้ยว

ชวนกันไปเพิ่มพุงอีกแล้วเหรอคะ

แต่ว่า......ที่ไหน....กี่โมงดีคะ....ฮ่าๆๆๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท