nui
นาง เสาวลักษณ์ พัวพัฒนกุล

วันรุ่นทำแท้ง เอาเด็กไปฝัง เราจะจัดการกับเหตุซ้ำๆ นี้อย่างไร


เพศศึกษา จะเดินหน้าได้ดี เมื่อผู้บริหารสถานศึกษาเปิดใจรับ ครูที่สอนมีเจตคติที่เหมาะสม มีทักษะการสอนเฉพาะด้าน และ มีตัวอย่างแผนการสอนดีๆ

          เช้านี้มีข่าวเรื่องวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง เอาห่อเด็กทารกอายุในครรภ์น่าจะสัก ๔ เดือนไปฝังในป่าช้า  ชาวบ้านเห็นโทร.ไปบอกตำรวจ  ตามจับได้ทันควัน

          คนเล่าข่าวดูจะสะใจ  บอกว่า  “ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย”

          ใครจะคิดสะใจ หรือ คิดว่า จะได้เป็นเยี่ยงอย่างแก่วัยรุ่นรายต่อๆไป  แต่ฉันนั่งดูข่าวด้วยความรู้สึกสะเทือนใจ คิดแบบผู้ใหญ่มองเห็นปัญหาที่ป้องกันได้

·        เด็กหญิง หรือ เพิ่งผ่านวัยเด็กหญิงไม่กี่วัน ไม่สมควรหมดอนาคตด้วยเรื่องที่ป้องกันได้

·        เด็กหญิงที่พลาดพลั้ง ไม่สมควรถูกประณามจากพ่อแม่ จากครู จากสังคม จากตำรวจ จากนักเล่าข่าว

·        ทุกคนผิดพลาดในชีวิตได้ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทุกคนควรได้รับโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีต่อไปได้

·        สังคมต้องแยกแยะ ความพลาดพลั้งของเพื่อนมนุษย์ กับ การทำผิดโดยสันดาน และ รู้จักให้อภัย  ไม่เหยียบย่ำ 

·        เด็กและเยาวชน สมควรได้รับการปกป้อง ได้รับโอกาสมากกว่าผู้ใหญ่ เพราะความอ่อนโลก และถือเป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ต้องชี้แนะ ช่วยเหลือ

          ตำรวจตามแม่มา  แม่ผู้ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ร้องไห้ปานจะขาดใจ  ชีวิตคนในครอบครัวนี้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป  เพราะ “เรา” ลืมสอนสิ่งที่เรียกว่า  “เพศสัมพันธ์ไม่คาดคิด” และ “เพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบ” แก่เด็กๆ ในวัยอันควรสอน

 

เพศสัมพันธ์ไม่คาดคิด คือ    การที่ชายหญิงมีโอกาสอยู่ใกล้กัน ในสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวย

มีเพศสัมพันธ์กันซึ่งเกิดจากอารมณ์พาไป โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิด

          ก่อนที่จะตำหนิเด็กว่า “ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ” ผู้ใหญ่(ชาย)ทั้งหลาย  ลองไตร่ตรองดูว่า  คุณสามารถควบคุมอารมณ์ใคร่ได้ในระดับไหน  ถ้าสภาพแวดล้อมเอื้ออำนวย 

เพศสัมพันธ์ไม่คาดคิด  เกิดจาก ๒ ปัจจัย

1.     ชายหญิงคิดต่างกันเรื่องเพศ   เป็นธรรมชาติของเพศชาย หญิง

·        ผู้ชาย เมื่ออยู่ใกล้หญิงที่พึงใจคิดเรื่องความใคร่ อยากมีเพศสัมพันธ์ 

·        ผู้หญิง  เมื่ออยู่ใกล้ชายที่พึงใจ เธอคิดถึงเรื่องความรัก ความอบอุ่น  อ่อนโยน เอาอกเอาใจจากผู้ชาย ไม่ได้คิดเรื่องการมีเพศสัมพันธ์

·        ความรู้สึกนึกคิดตามธรรมชาติของเด็กหญิงเป็นภัยต่อตัวเธอเอง  เมื่อถูกลูบเนื้อลูบตัว จะเลยเถิดไปจนถึงมีเพศสัมพันธ์  หยุดยั้งอารมณ์มาได้

2.     ปัจจัยแวดล้อม  สนับสนุนให้เกิดเพศสัมพันธ์  คือ อารมณ์ถูกกระตุ้นจาก ดูหนังรักโรแมนติค หนังสือปกขาว การดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้สติสัมปชัญญะเหลือน้อยลง  การอยู่ตามลำพังในบ้านฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด

 

          ครั้งแรกของวัยรุ่นชายหญิงเกือบทุกราย  เป็นเพศสัมพันธ์ที่ “ไม่คาดคิด”  เกิดแล้วก็เลยตามเลย  บางคนหยุดได้  บางคนดิ้นไม่หลุด ไม่รู้ทางออก 

เราป้องกัน “เพศสัมพันธ์ไม่คาดคิด” ได้  โดย

·        สอนเรื่อง  “ความแตกต่างระหว่างชายหญิงเรื่องเพศ “ ให้เด็กหญิงและชายตระหนักรู้ว่าชายหญิงคิดต่างกันเรื่องเพศ

·        สอนให้รู้วิธีเลี่ยง “ความเสี่ยง” ที่เป็นปัจจัยแวดล้อม ก่อนที่จะถลำลึกจนควบคุมไม่ได้

 

เพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบ  คือ  ความตระหนักรู้ว่า หญิงและชายต้องรับผิดชอบร่วมกันในสิ่งที่เกิด

ตามมาหลังจากมีเพศสัมพันธ์

เมื่อจบเพศสัมพันธ์แล้ว  ชายหญิงก็ยังคิดต่างกัน

·        ชายคิดว่า เพศสัมพันธ์เป็นการมีความสุขร่วมกัน เกิดขึ้นได้ จบได้ และ ไม่ต้องรับผิดชอบ

·        หญิงคิดว่า  เพศสัมพันธ์คือ การแสดงความรัก เป็นความผูกพัน เพราะฉะนั้น  เธอต้องรักฉันคนเดียวนะ เธอต้องแต่งงานกับฉันนะ  ถ้าฉันท้องเธอต้องรับผิดชอบ

 

          เราจึงต้องสอนเรื่อง “เพศสัมพันธ์ที่รับผิดชอบ”  ให้เด็กๆ รู้ว่า 

·        เราต้องรับผิดชอบการกระทำทุกเรื่อง รวมทั้งเรื่องเพศสัมพันธ์ ไม่สามารถเรียกร้องความรับผิดชอบจากผู้อื่นได้ 

·        เรื่องการมีเพศสัมพันธ์  เมื่อใดก็ตามที่ยังรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้  เราต้องป้องกันมิให้เกิด

·        เด็กชายในวัยเรียน ต้องตระหนักว่า การมีเพศสัมพันธ์เป็นความรับผิดชอบ ถ้ายังรับผิดชอบตัวเองไม่ได้  ต้องไม่มีเพศสัมพันธ์ 

·        เด็กหญิง ต้องตระหนักว่าเธอต้องรับผิดชอบต่อการมีเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นเท่ากับผู้ชาย  เมื่อไม่พร้อมที่จะรับผิดชอบตัวเอง ต้องไม่ยอมให้มีเพศสัมพันธ์

 

อาจมีคนแย้งว่า  เด็กๆ สมัยนี้ใจแตก  เราจะไปทำอะไรได้  ฉันอยากให้มองแง่ดีว่า “ทำได้ค่ะ"

โดยสอนเรื่อง  “เพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย” คือ

·        ชาย ต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์  เพราะเป็นวิธีเดียวที่จะปลอดภัยจาก โรค จาก การตั้งครรภ์

·        หญิง ต้องไม่ยอมเด็ดขาดให้เกิดเพศสัมพันธ์ ถ้าชายไม่ใช้ถุงยางอนามัย

 

ผู้ใหญ่บางคนอาจรับไม่ได้กับวิธีคิดแบบที่พูดมาทั้งหมด  แต่เราต้องยอมรับความจริงว่า สังคมมา

ไกลเกินกว่าจะไม่สอนเพศศึกษาแก่เด็กๆ   เราสอนเพศศึกษาได้ตั้งแต่อนุบาล  เริ่มที่บ้านตั้งแต่ลูกยังไม่ไปโรงเรียน  เพียงแต่เราต้องรู้วิธี

          เพศศึกษา จะเดินหน้าได้ดี    เมื่อผู้บริหารสถานศึกษาเปิดใจรับ  ครูที่สอนมีเจตคติที่เหมาะสม มีทักษะการสอนเฉพาะด้าน  และ มีตัวอย่างแผนการสอนดีๆ ในระยะเริ่มแรก

          ในหลักสูตรการศึกษา มีคำ “เพศศึกษา” ปรากฏอยู่  พร้อมให้ครูทำความเข้าใจเพศศึกษาในมุมมองที่กว้างกว่าความสัมพันธ์เชิงกายภาพ  

          เมืองเชลฟ์ฟิลด์ ประเทศอังกฤษมีโปรแกรม  “Sex can be fun ”  ออกโดยกรมสาธารณสุข  ข่าวบอกว่าโครงการนี้กำลังเป็นหัวข้อถกเถียง ฉันไม่เห็นรายละเอียด  แต่คาดเดาจากชื่อว่า ถ้าฉันจะทำโครงการ “Sex can be fun”  ฉันจะกำหนดแนวคิดหลักว่า 

·        เรื่องเพศไม่ควรต้องเป็นเรื่องเครียดเรื่องทุกข์อีกต่อไป  ถ้าเรารู้เท่าทันมันทุกแง่มุม

·        ต้องไม่ใช่การสนับสนุนให้เด็กสนุกสนานกับการมีเพศสัมพันธ์  แต่หากจะมีเพศสัมพันธ์ก็ต้องให้ปลอดภัย 

·        ผู้ใหญ่ต้องสามารถเปิดอกคุยกับเด็กๆ ในเรื่องเพศได้เหมือนคุยเรื่องอื่นๆ ที่คุยเล่นอย่างสนุกสนานในครอบครัว

 

ข้อสุดท้ายนี่สำคัญมาก   การที่เมื่อเด็กมีปัญหาเรื่องเพศแล้วไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่

เช่น  พ่อ แม่ ครู ไม่ได้  พวกเขาก็จะไปหาทางออกกันเองในหมู่เพื่อนๆ ผลมันก็จะออกมาแบบที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี่แหละค่ะ

              ถ้าผู้ใหญ่เปลี่ยนวิธีคิด เราอาจช่วยกันค่อยๆ แก้ปัญหานี้ได้.

 

ศุกร์ที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๒

 

บันทึกที่เกี่ยวข้อง

JUNO : หนังที่น่าจะเป็นสื่อการสอนเพศศึกษาในโรงเรียน  http://gotoknow.org/blog/nuinui/191889

หมายเลขบันทึก: 289831เขียนเมื่อ 21 สิงหาคม 2009 21:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 มิถุนายน 2014 15:28 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)
  • นอกจากนั้นแล้ว กฏหมายต้องเล่นงานสื่อต่างๆที่ยั่วยุ ซึ่งมีอย่างมากมาย หาได้ง่าย แทบไม่ต้องหา..อย่างเข้มงวด จริงจัง
  • หากผู้รักษากฏหมายเคร่งครัด ตระหนักถึงผลที่จะเกิดขึ้นต่อเด็กๆ ต่อสังคม ไม่เห็นแก่ประโยชน์ เงินทอง หรืออามิสสินจ้างจนเกินไป..น่าจะช่วยได้มากครับ
  • ขอบคุณความรู้ ข้อแนะนำที่ดีๆ สำหรับหลายๆคนที่เกี่ยวข้อง

เรื่อง นักเรียนมีท้องในวัยเรียน และออกกลางคัน มีมาก ก ก เลยะนะคะ เพราะผู้ใหญ่ ไทย ทำใจให้ยอมรับไม่ได้ ในการกระทำการ ที่ไม่สมควรก่อนวัยของเด็กๆ   ส่วนมาก จะเริ่มที่ เด็ก ม.2 เป็นต้นไป ค่ะ

  โครงการของคุณ nui น่าสนใจนะคะ  น่าจะเอามาลองทำดูค่ะ

เรื่อง นักเรียนมีท้องในวัยเรียน และออกกลางคัน มีมาก ก ก เลยะนะคะ เพราะผู้ใหญ่ ไทย ทำใจให้ยอมรับไม่ได้ ในการกระทำการ ที่ไม่สมควรก่อนวัยของเด็กๆ   ส่วนมาก จะเริ่มที่ เด็ก ม.2 เป็นต้นไป ค่ะ

  โครงการของคุณ nui น่าสนใจนะคะ  น่าจะเอามาลองทำดูค่ะ

  • สวัสดีค่ะ อาจารย์ธนิต 
  • ปัญหา ๑ เรื่อง มีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายอย่าง  การแก้ปัญหาจึงมีหลายๆ วิธี  คงต้องทำไปด้วยกัน
  • การสอนเพศศึกษา เป็นอีก ๑ วิธี ที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันที่เรียกว่า "ทักษะชีวิต" ให้เด็กๆ ค่ะ
  • ในการสอนทักษะชีวิตทั้งหมด  ดิฉันคิดว่าเรื่องนี้ทำยากที่สุด
  • ครู ช่วยเรื่องนี้ได้มากค่ะ
  • พ่อแม่ ก็ช่วยได้อีกทางค่ะ
  • ดีใจค่ะที่อาจารย์สนใจเรื่องนี้ 
  • สวัสดีค่ะ คุณครูเดือน
  • เราจะสอนเรื่อง "ความแตกต่างระหว่างชายหญิง" และ "เพศสัมพันธ์ที่ไม่คาดคิด" ตั้งแต่ ม1 หรือ ป.6 ค่ะ  สำหรับเด็กที่เข้าวัยรุ่นเร็ว
  • ถ้าจะทำเรื่องเพศศึกษาให้ดีจริงๆ ผู้ใหญ่อาจต้องเปลี่ยนวิธีคิด  ไม่มองความผิดพลาด เป็นความผิดที่ใหญ่โตจนปิดโอกาสของเด็กๆ
  • องค์กร Path เคยเข้ามาทำในโรงเรียน  ดิฉันไม่แน่ใจว่า เวลานี้ยังทำอยู่หรือเปล่านะคะ
  • ถ้าอาจารย์สนใจ  ลองเข้าไปดูในเว็บไซด์ของ Path สิคะ
  • ดีใจค่ะ ที่อาจารย์มีมุมมองที่ดีๆ กับเรื่องนี้ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท