จากบันทึกที่แล้ว http://gotoknow.org/blog/attawutc/289467 ผมได้ตีความสรุปแนวคิดไว้ 3 บท มาในบทนี้ผมได้ทำเพิ่มได้อีก 6 บท จนถึงบทที่ 9 ดังนี้ครับ
บทที่ 4 แนวคิดแห่งการพัฒนาชีวิตในระยะยาวไกล
บทนี้เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับแนวคิดวิธีการที่จะไปถึงจุดหมายที่ต้องการดังนี้
- ทิศทางสำคัญยิ่งกว่าความพยายาม : ผมเคยเล่นเกมในงานฝึกอบรมเกมหนึ่งซึ่งสอนว่า ถึงแม้ว่าแผนคุณจะเลอเลิศสักปานใดก็ตาม ถ้ามันยังไม่บรรลุเป้าหมาย การทำงานนั้นก็สูญเปล่า
- มุ่งจับแต่ปลาเล็ก ย่อมถูกถูกบดบังไม่ให้เห็นปลาใหญ่ : คิดการใหญ่ต้องกล้าเสี่ยง วางเป้าให้ไกลคำนึงถึงคุณค่าแท้คุณค่าเทียม เช่น ซื้อโทรศัพท์มือถือ ไม่ใช่เพราะเท่ห์ สวยถูกใจ มีฟังก์ชันหลากหลายแต่ประโยชน์ของมันคือใช้ติดต่อสื่อสาร ฟังก์ชันที่หลากหลายเราได้ใช้หรือไม่ จำเป็นต่อธุรกิจเราหรือไม่
- ทำในสิ่งที่ละได้ ละทิ้งสิ่งที่ทำไม่ได้ : ทำในสิ่งที่ถนัดและมุ่งมั่นจนถึงที่สุด มีนิทานเล่าว่าเต่ากับค้างค้าวได้ไปเรียนหนังสือด้วยกัน ซึ่งหลักสูตรระบุไว้ว่าต้องว่ายน้ำได้ บินได้ ปรากฏว่าเต่าต้องทนฝึกบินและค้างคาวต้องทนฝึกว่ายซึ่งต่างคนต่างไม่ถนัด มิหนำซ้ำพอกลับมาเรียนเรื่องถนัดกลับทำได้ไม่ดีเพราะร่างกายสะบักสะบอมจากกิจกรรมที่ต้องทนฝึกมา ทำให้ไม่ได้ดีซักอย่าง ถ้าเราฝึกคนให้ทำในสิ่งที่เขาถนัดและทำได้ดี ผมคิดว่าศักยภาพของเขาก็จะพัฒนาขึ้นเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตามคนที่ถูกฝึกต้องมีความตั้งใจและอดทนฝึกด้วย
บทที่ 5 แนวคิดที่ทำให้เกิดความเป็นเลิศในการปฏิบัติงาน
บทนี้เป็นเนื้อหาสั้นๆ มีเพียงหน้าเดียวที่เน้นเรื่องความซื่อสัตย์ในการทำงาน
- ความซื่อสัตย์สำคัญกว่าความสามารถ : จากหนังสือ Good to Great ได้รวบรวมข้อมูลการวิจัยไว้ว่าองค์กรที่ยั่งยืนส่วนใหญ่จะต้องเริ่มต้นจากการรับคนดีก่อนแล้วความสามารถค่อยมาฝึกกันทีหลัง เรื่องนี้ผมประสบกับตัวเอง หน่วยงานผมเป็นหน่วยงานฝึกอบรมและมีการเรียนการสอนให้ครบ KUSA ตามนโยบายด้านความปลอดภัยและการบริการ ดังนั้นแม่พิมพ์ที่ต้องเป็นคนฝึกอบรมต้องเป็นคนที่มีทัศนคติด้านความปลอดภัยและการบริการที่ดีเสียก่อน จึงจะไปสอนคนอื่นได้ เพราะการสอนไม่ใช่แค่สอนด้วยวาจา แต่ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีเหมือนกันที่พ่อ แม่สอนลูก
บทที่ 6 แนวคิดรบชนะจากการพิจารณาสถานการณ์ ณ เวลานั้นๆ และแนวโน้มของมัน
บทนี้เป็นเนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงข้อดีของการยอมรับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น ซึ่งผมคิดว่าส่งที่ผู้อื่นทักท้วงมาเราควรรับฟังไว้ก่อน แล้วใช้หลักกาลามสูตรและโยนิโสมนสิการ เพื่อ พินิจ พิเคราะห์ พิจารณา พิสูจน์ ในการดำเนินการต่อไป
- ปัญหาที่เกิดซ้ำๆ เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด : ผิดครั้งแรกยังให้อภัยได้ ถือว่าเป็นบทเรียน ผิดครั้งที่สอง-สาม ถือเป็นอวดดี โง่ดักดาน ผิดแล้วต้องยอมรับผิดด้วยความจริงใจจะได้น่าหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
- การเชื่อมั่นตนเองมากเกินไปน่ากลัวกว่าการขาดความเชื่อมั่น : การดูแสสอนคนจากคนที่ขาดความเชื่อมั่นให้มีความเชื่อมั่นง่ายกว่าการ การดูแสสอนคนจากคนที่ชื่อมั่นตนเองมากเกินไปให้ทำงานด้วยสายกลาง ดังจะเห็นได้จากการรับสมัครนักบิน หรือคนขับรถไฟฟ้า ถ้าคนที่มีความเชื่อมันมากเกินไป จะไม่เชื่อใครและอาจจะทำผิดกฎระเบียบทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังเช่น ตัวอย่างรถไฟใต้ดิน BMCL ชนกันเมื่อหลายปีก่อนที่แต่ละคนเป็นคนเก่งและมีความเชื่อมั่นตนเองสูง
บทที่ 7 แนวคิดคบเพื่อนให้มาก สร้างศัตรูให้น้อย
บทนี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการสร้างเครือข่าย เพื่อช่วยเหลือซึงกันและกัน
- แม้ไม่มีธุระก็ต้องไปมาหาสู่กัน ลงทุนสร้างความผูกพันเสมอ : คนเราต้องมีความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน ซึ่งผมมองว่านี่ไม่ใช่การลงทุน แต่เป็นการสร้างบารมี ซึ่งต้องทำด้วยความจริงใจ ทำเพื่อทำไม่ต้องคาดหวังสิ่งตอบแทน แต่ถ้าเขามีน้ำใจให้ก็ไม่ต้องปฏิเสธ
- เรียกร้องตนเองก่อน ถึงจะเรียกร้องผู้อื่น : ก่อนที่จะเปลี่ยนคนอื่นให้เปลี่ยนตัวเองให้ได้เสียก่อน ก่อนที่จะเอาชนะผู้อื่น เอาชนะตัวเองให้ได้เสียก่อน
- อย่าลืมจุดอ่อนของต้นเอง ใช้จุดดีของผู้อื่นให้มาก : .ในโลกนี้ไม่มีอะไร Perfect ในดีมีเสีย ในเสียมีดี จงเลือกเอาแต่สิ่งที่ดีๆ อย่าจับผิด แต่ข้อให้จับถูก
บทที่ 8 สร้างแนวคิดเป็นนายของเวลา
บทนี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการบริหารเวลาให้มีประสิทธิภาพ
- เรื่องสำคัญต้องมาก่อน : หนังสือเล่มนี้ให้ความสำคัญกับเรื่องสำคัญ คือ ทำเรื่องสำคัญ ทิ้งเรื่องจุกจิก ทำเรื่องสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน ฝึกให้มีความเคยชินในการทำเรื่องที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน แต่อย่างไรก็ตามผมอยากจะให้พิจารณาความสัมพันธ์ของเรื่องความสำคัญกับเรื่องเร่งด่วนทั้ง 4 ด้วยคือ 1.สำคัญแต่ไม่ด่วน เป็นเรื่องต้องทำก่อน 2. สำคัญด่วน ถ้ามัวทำแต่เรื่องสำคัญด่วนตลอดเวลา เราจะไม่มีโอกาสคิดพัฒนางานงานได้เลย เราจะเหนื่อยตลอดเวลา ผมเชื่อว่าถ้าทำสิ่งที่คัญแต่ไม่ด่วนจนเสร็จแล้ว ที่สำคัญและด่วนจะหมดไปเอง 3. ไม่สำคัญแต่ด่วน เป็นเรื่องเล็กน้อยที่ทำเสร็จได้ทันทีและต้องทำเช่นการรับโทรศัพท์ เป็นต้น และ 4. ไม่สำคัญไม่ด่วน
- การป้องกันปัญหาสำคัญกว่าการแก้ปัญหา : อย่าปล่อยให้ปัญหาเล็กน้อยสะสมจนขยายตัวเป็นปัญหาใหญ่ได้ ต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม
- ใช้เ ”เวลาที่ 2” ให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ : อย่าดูหมิ่นเวลาเพียงเล็กน้อย อย่ารอเวลา อย่าผลัดวันประกันพรุ่ง เวลาน้อยสะสมทำไปเรื่อยๆ นานไปก็จะได้งานที่สะสมมากขึ้นตามไป
บทที่ 9 แนวคิดวิ่งนำหน้าสุดแห่งยุคไม่โดนคัดออกตลอดกาล
บทนี้เป็นเนื้อหาเกี่ยวกับแนวคิดการพัฒนาตนเอง ให้กว้างไกลออกไป
- ดีเยี่ยมเป็นศัตรูของยอดเยี่ยม : เมื่อเราทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ต้องพัฒนางานขึ้นไปอีกให้ดีเยี่ยมอย่าหยุดอยู่เพียงแค่นี้ ใส่ใจกับรายละเอียดให้มากขึ้น
- ขยันอ่าน ฉลาดศึกษา : ศึกษาหาความรู้อยู่เสมอ ยิ่งอ่านมาก ยิ่งจุดประกายความรู้ให้มีการเชื่อมโยงมากขึ้น การอ่านเป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่งอีกทั้งยังเปรียบเสมือนการออกกำลังสมองให้มีการคิดอยู่ตลอดเวลาด้วย ผมเคยได้ยินมาว่าการอ่านหนังสือเป็นการป้องกันโรคความจำเสื่อม (อัลไซเมอร์) ด้วย
- สติปัญญาสำคัญกว่าความรู้ : ต้องรู้จักใช้ความคิดให้เหมาะสมกับสถานการณ์ นำความความรู้ไปใช้ให้เห็นจริง ฉลาดอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีความเฉลียวฉุกคิดด้วย คิดตัดสินใจตอนที่จิตนิ่งไม่มีอคติ
- มองการณ์ไกล ยืดเวลาความพอใจออกไป : มีความอดทนรอผล อดเปรี้ยวไว้กินหวาน รู้จักการรอคอย เช่น การเลี้ยงลูกหรือฝึกคนต้องใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์กว่าจะได้ในสิ่งทีพึงประสงค์ อย่าใจเร็วด่วนได้ อย่ามองความสำเร็จเป็นเรื่องสำเร็จรูป ต้องนึกถึงผลประโยชน์ระยะยาว
ยังเหลือเนื้อหาอีก 3 บท ติดตามต่อในบันทึกต่อไปครับ
แอบมาใช้ความรู้ของท่าน ขอบคุณมากนะครับ
อิอิ