ภูมิปัญญาท้องถิ่นในอำเภอเสนา


ภูมิปัญญาท้องถิ่นในอำเภอเสนาที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์

ยังไม่สมบูรณ์ เดี๋ยวรูปจะตามมา

ภูมิปัญญาท้องถิ่น

 

เรื่อง  การทำน้ำส้มควันไม้

 

 

 

 

จัดทำโดย

 

 

นางยุภา  สัญญะพล

 

นักศึกษาระดับประถมศึกษา

กลุ่มสามกอ        หลักสูตร 2551

 

 

 

 

ประวัติของภูมิปัญญา

นายวิเชียร จุลวานิช  อายุ 80 ปี  อาชีพรับทำวงกบ

 

บ้านเลขที่ 3/1 หมู่ที่ 5 ตำบลบางนมโค อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

 

มีบุตร 3 คนดังนี้

 

1. นายบัญชา  จุลวานิช

 

2. นายอดุล  จุลวานิช

 

3. นายวันชัย  จุลวานิช

 

ปัจจุบันนายวิเชียร จุลวานิช  ได้ถ่ายทอดวิชาการเผาถ่านให้แก่ นายอดุล จุลวานิช มา

 

 

ประมาณ 20 ปีแล้ว ที่มาของการเผาถ่านคือที่บ้านได้รับทำวงกบ จึงมีเศษไม้เหลือเป็นจำนวน

 

มากจึงคิดว่าการเผาถ่านที่แรกก็มีคนทำน้อยแต่ระยะหลังๆ ก็มีคนทำจำนวนมาก เพราะการเผา

 

ถ่านยังไดรับประโยชน์อีกทางหนึ่ง คือการได้น้ำส้มควันไม้เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่ง

 

  

ขั้นตอนในการเผาถ่าน

 

1. เรียงไม้ในถังประมาณ 1 เมตร ให้แน่น

2. นำขี้เลื่อยมาโรยรอบถัง แล้วปิดฝาให้แน่น จึงจุดไฟแล้วทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง จึงจะมีน้ำส้มควันไม้ไหลออกมา

3. หลังจากนั้นทิ้งไว้ประมาณ 2 คืนจึงจะเก็บเป็นถ่านได้ แล้ก็ได้น้ำส้มควันไม้ประมาณ 5 ลิตร

4. จากนั้นก็เก็บถ่านใส่ถุงเพื่อจำหน่าย และอีกส่วนหนึ่งคือน้ำส้มควันไม้ ก็จะมีชาวนามารับซื้อเพื่อนำไปใช้ในการฉีดกันแมลงในนา

 

การเก็บรักษาน้ำส้มควันไม้

 

น้ำส้มควันไม้ ที่ได้จากการดักเก็บจะไม่นำมาใช้ประโยชน์ทันที เนื่องจากการเปลี่ยนจากไม้ถ่านไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งเตา น้ำมันดินที่ละลายน้ำไม่ได้ จะนำไปใช้ประโยชน์ในการเกษตรไม่ได้ เพราะจะไม่ไปปิดปากใบของพืช และการเกาะติดรากพืชทำให้พืชเติบโตช้าหรือตายได้ นอกจากนั้น หากเทลงพื้นดินจะทำให้ดินแข็งเป็นดานรากพืชไม่สามารถไชลงดินได้ ดังนั้นเมื่อเก็บน้ำส้มไม้แล้วต้องทิ้งช่วง และมีการทำให้น้ำส้มไม้บริสุทธิ์ก่อนนำไปใช้ประโยชน์อย่างน้อย 3 เดือน แล้วต้องเก็บไว้ในที่เย็น ร่มหรือเก็บไว้ในภาชนะทึบแสงและไม่มีสิ่งรบกวน หากเก็บไว้ที่โล่งแจ้ง    น้ำส้มควันไม้จะทำปฏิกิริยากับอากาศและรังสีอุลตราไว-โอเลทในแสงอาทิตย์เป็นน้ำมันดิน ซึ่งน้ำมันดินก็จะมีสารก่อมะเร็งด้วย และหากนำไปใช้กับพืช น้ำมันจะจับกับใบไม้ ทำให้ต้นไม้ไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ดี ดังที่กล่าวไปแล้ว

 

การใช้ประโยชน์จากน้ำส้มควันไม้

 

ด้านการเกษตร

 

เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีความเป็นกรดสูง ดังนั้นก่อนนำไปใช้ต้องนำมาเจือจางให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของการใช้งาน ซึ่งอัตราส่วนที่ต่างกันออกไปดังนี้

อัตราส่วน 1:20 หรือ ผสมน้ำ 20 เท่า ใช้พ่นลงดินเพื่อฆ่าจุลินทรีย์และแมลงในดิน เช่น โรคเน่าเละจากแบคทีเรีย โคนเน่าจากเชื้อรา ไส้เดือนฝอย ควรทำก่อนเพาะปลูก 10 วัน เพราะน้ำส้มควันไม้ ที่รดลงดินจะไปทำปฏิกิริยากับสารที่มีฤทธิ์เป็นด่าง เกิดคาร์บอนโมโนออกไซด์(CO) ซึ่งเป็นพิษต่อพืช แต่เมื่อแก๊สคาร์บอนโมโนออกไซด์ ทำปฏิกิริยากับออกซิเจนเปลี่ยนเป็นก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO) แล้วจึงจะสามารถปลูกพืชได้ รวมทั้งพืชจะได้รับประโยชน์จาก C2O

 

ด้านปศุสัตว์

การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ด้านปศุสัตว์ จะช่วยลดกลิ่นและแมลงในฟาร์มปศุสัตว์ โดยการใช้ครั้งแรกควรผสมน้ำ 100 เท่า หลังจากนั้นเพิ่มเป็นผสมน้ำ 200 เท่า จะกำจัดกลิ่นและลดจำนวนแมลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนั้นใช้ผสมอาหารสัตว์ เพื่อช่วยการย่อยอาหารและป้องกันโรคท้องเสีย แต่การให้โดยตรงโดยการผสมน้ำจะมีกลิ่นควันไฟ ควรนำไปผสมกับผงถ่านเสียก่อน โดยนำน้ำส้มควันไม้ 2 ลิตร ผสมกับผงถ่าน 8 กิโลกรัม แล้วนำผงถ่านที่ชุ่มด้วนน้ำส้มควันไม้นี้ไปผสมกับอาหารสัตว์ 99 กิโลกรัม ก็จะได้อาหารสัตว์ 1 ตันพอดี

 

ข้อควรระวังในการนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้

 

1. ก่อนนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ ต้องทิ้งไว้หลังจากดักเก็บไว้อย่างน้อย 3 เดือน เพื่อให้เกิดการตกตะกอน แยกเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำส้มควันไม้สำหรับนำไปใช้

2. เนื่องจากน้ำส้มควันไม้มีความเป็นกรดสูง ระวังอย่าให้เข้าตา

3. น้ำส้มควันไม้ไม่ใช่ปุ๋ย แต่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ดังนั้นการนำไปใช้ในทางการเกษตร จะเป็นตัวเสริมประสิทธิภาพให้กับพืชใช้แทนปุ๋ยไม่ได้

4. การใช้น้ำส้มควันไม้เพื่อฆ่าเชื้อจุลินทรีย์และแมลงในดินเป็นโทษกับพืช ควรทำก่อนเพาะปลูกอย่างน้อย 10 วัน

5. การนำน้ำส้มควันไม้ไปใช้ต้องผสมน้ำให้เจือจางตามความเหมาะสมของพืชแต่ละชนิด หากใช้กับพืชกินใบ ควรใช้ฉีดพ่นใต้ใบ เนื่องจากจะช่วยขับไล่แมลงใต้ใบ

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 289080เขียนเมื่อ 19 สิงหาคม 2009 16:05 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 22:22 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

ชาว กศน. อำเภอเสนา เป็นอย่างไรบ้างคะ

ปีนี้น้ำท่วมหรือเปล่าหวังว่าคงไม่โชคร้ายเหมือนปีก่อนๆ

นะคะขอเป็นกำลังใจให้ ชาว กศน.อำเภอเสนา

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท