กุ้ง(ความทรงจำเก่าๆจากลิ้นชัก)


มีคนบอกว่าคนเรานั้นเก็บความทรงจำไว้ต่างๆไว้มากมายซึ่งความทรงจำของคนเรานั้นจะถูกเก็บไว้เหมือนกับลิ้นชัก แต่ละชั้นก็จะมีความทรงจำแตกต่างกันไป ซึ่งลิ้นชักความทรงจำของเรานั้นจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเราความทรงจำใหม่ๆเข้ามา ความทรงจำเก่าๆของเรานั้นก็จะถูกทับด้วยลิ้นชักความทรงจำใหม่ แล้วกล่องความทรงจำเก่าๆของเราก็จะลึกลงไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าความทรงจำของเราจะมีมากสักเท่าไหร่แต่ความทรงจำเก่าๆของเราก็ยังไม่เลือนหายไปไหน แต่มันยังคงอยู่ในซอกใดซอกหนึ่งหรือมุมใดมุมหนึ่งในความทรงจำของเรา มันคงรอเวลาที่จะกลับมาโลดแล่นให้เราได้มีความสุขเหมือนกับเราได้ดูละครย้อนยุคที่มีตัวละครเป็นเด็กหญิงเด็กชายตัวเล็กๆมาแสดงให้เราได้ดู บางครั้งดูไปอมยิ้มไป ...............

กุ้ง

วันนี้อากาศแจ่มใสมากบนท้องฟ้าเป็นสีฟ้าครามมองดูราวกับว่ามีน้ำทะเลขนาดใหญ่ลอยได้อยู่เหนือศีรษะของเราแถมยังมีก้อนเมฆสีขาวรูปร่างต่างๆมองดูราวเหมือนกับมีคนไปเล่นน้ำทะเลบนท้องฟ้าทำให้เพลินไปกับการนั่งดูน้ำทะเลลอยได้อยู่เป็นพักใหญ่ๆเลยทีเดียว แถมบางครั้งก้อนเมฆก็เปลี่ยนรูปร่างได้เองยิ่งทำให้น่าสนุกและน่าตื่นเต้นเพิ่มมากขึ้น.....และนั่นมันก็เป็นเหตุให้ตัวของผมเองคิดถึงสิ่งต่างๆที่ผ่านมา คิดถึงคนที่เคยพูดคุยเคยรู้จักและเพื่อนสมัยเรียนชั้นประถม.....

                มีคนบอกว่าคนเรานั้นเก็บความทรงจำไว้ต่างๆไว้มากมายซึ่งความทรงจำของคนเรานั้นจะถูกเก็บไว้เหมือนกับลิ้นชัก แต่ละชั้นก็จะมีความทรงจำแตกต่างกันไป ซึ่งลิ้นชักความทรงจำของเรานั้นจะสูงขึ้นไปเรื่อยๆเมื่อเราความทรงจำใหม่ๆเข้ามา  ความทรงจำเก่าๆของเรานั้นก็จะถูกทับด้วยลิ้นชักความทรงจำใหม่ แล้วกล่องความทรงจำเก่าๆของเราก็จะลึกลงไปเรื่อยๆ  ถึงแม้ว่าความทรงจำของเราจะมีมากสักเท่าไหร่แต่ความทรงจำเก่าๆของเราก็ยังไม่เลือนหายไปไหน  แต่มันยังคงอยู่ในซอกใดซอกหนึ่งหรือมุมใดมุมหนึ่งในความทรงจำของเรา  มันคงรอเวลาที่จะกลับมาโลดแล่นให้เราได้มีความสุขเหมือนกับเราได้ดูละครย้อนยุคที่มีตัวละครเป็นเด็กหญิงเด็กชายตัวเล็กๆมาแสดงให้เราได้ดู   บางครั้งดูไปอมยิ้มไป  ...............

                อากาศช่วงเดือนกุมภาพันธ์อากาศที่บ้านเริ่มจะร้อนแล้วแสงแดดเจิดจ้าส่องความอบอุ่นมายังท้องน้ำอันใสสะอาดลมพัดเอื่อยๆมาเป็นระยะๆกระทบกับแม่น้ำทำให้เป็นเกลียวคลื่นลูกเล็กเรียงกันไปกระทบฝั่งและหาดทราย    เด็กๆ 5  คนกำลังเดินพูดคุยกันมาอย่างสนุกสนานกำลังเดินมายังแม่น้ำ เด็กชายเสือโตที่สุดในกลุ่มมีน้องชื่อเด็กชายอ่ำ  เรียนห้องเดียวกับเด็กหญิงนิดและเด็กหญิงแจ็ค    น้องชายของเด็กหญิงนิดอายุน้อยที่สุด ชื่อเด็กชายเบ้  ทั้ง 5 คนในมือจะถือสวิงคนละอันและมีข้อง สำหรับใส่กุ้งหอยปูปลา  เพราะว่าวันนี้เด็กเขาชวนกันไปช้อนกุ้งกัน 

พี่เสือวันนี้เราจะไปช้อนกุ้งที่ไหนกัน อ่ำถามพี่ชาย

 เสือหันมายิ้มให้น้องชายแล้วพูดว่า

  วันนี้พวกเราจะพากันไปช้อนที่ แก่งใต้ โน้นเราต้องเดินเลยไร่ตาแปลกไปก็จะถึงแล้ว

เด็กทั้ง 5 คน เดินทางมาได้ไม่นานนักก็มาถึงไร่ของตาแปลก บริเวณไร่เป็นทุ่งหญ้ากว้างและมีต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งสูงพอสมควร ใบสีเขียว มีลูกสีเขียวและสีม่วงเข้ม พอเด็กๆเห็นก็พากันวิ่งกรูเข้าไปเสือจึงตะโตนบอกว่า

  พวกเอ็งไม่ต้องรีบกันหรอกตอนกลับค่อยแวะมาขึ้นเอาก็ได้ แต่ตอนนี้รีบไปช้อนกุ้งดีกว่าเดี๋ยวคนอื่นช้อนไปก่อนแล้วพวกเราจะไม่ได้กุ้งนะ  เด็กหญิงแจ๊คตะโกนออกมาเสียงดังทันที

พวกเราอยากจะกินหมากเก็น ถ้ารีบก็ไปก่อนเลย เดี๋ยวพวกเราจะตามไป

ถ้าอย่างนั้นกูไปก่อนนะ ถ้าพวกมึงได้กุ้งน้อยแล้วอย่ามาว่ากูไม่เตือน

เสือกันน้องจึงเดินตรงไปยังท่าน้ำพอเดินลงไปจะเห็นแม่น้ำซึ่งเป็นแม่น้ำสายที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนที่อาศัยอยู่บริเวณริมแม่น้ำแห่งนี้มาช้านาน วันนี้ก็เช่นกัน อากาศแจ่มในท้องฟ้าโปร่ง มีก้อนเมฆสีขาวรูปร่างต่างๆลอยไปลอยมาเต็มท้องฟ้า พื้นน้ำใสสะอาดเห็นปลาตัวเล็กตัวใหญ่ลอยไปลอยมามองดูแล้วอยากจะลงไปเล่นน้ำให้ชุ่มช่ำเหมือนปลาเหล่านั้น ลมพัดเย็นเอื่อยๆเห็นคลื่นน้ำเป็นระลอกๆไหลผ่านไปยิ่งมองยิ่งอยากจะลงไปแหวกว่าย ….

                อ่ำไปทางโน้นนะตรงที่มันมีน้ำตื้นๆ ไปช้อนหาแมงอี่นิ่ว ส่วนพี่จะไปช้อนกุ้งตรงน้ำไหลเอง

  วันนี้จะช้อนแมงอี่นิ่วไปให้แม่หมกใส่ไข่อร่อยๆให้กินตอนเย็น ( คำแมงอี่นิ่ว คือ ตัวอ่อนของแมลงปอ ก่อนที่จะลอกคราบไปเป็นแมลงปอ(

                ดีเหมือนกันตอนเย็นจะได้กินแจ่วกุ้งกับหมกแมงอี่นิ่วคงจะอร่อยน่าดู พวกนั้นมันมัวแต่พากันเล่นอยู่  เรารีบช้อนเร็วๆวถ้าแยอะแล้วจะได้กลับก่อนพวกมัน

การช้อนกุ้งนั้นไม่ยากเลยก่อนอื่นเราจะต้องไปบริเวณที่มีก้อนหิน ซึ่งก้อนหินนั้นจะต้องเป็นก้อนหินขนาดกลางไปถึงใหญ่เพราะว่ากุ้งตอนกลางวันจะหลบอยู่ซอกก้อนหินแต่ตอนกลางคืนกุ้งจะออกมาลอกคราบและหาอาหารกิน  เราจะตั้งสวิงไว้ระหว่างขาของเราซึ่งสวิงจะมีลักษณะเป็นสามเหลี่ยมแล้ววางไว้ตรงหน้าก้อนหิน จากนั้นเราก็ทำการเอาก้อนหินออกแล้วใช้มือกวักหรือตวัดตัวกุ้งที่อยู่อยู่ใต้ก้อนหินให้เข้ามาอยู่ในสวิงของเราแต่จะต้องทำเร็วๆถ้าทำช้ากุ้งจะหนีไปก่อน เสือกับน้องช้อนกุ้งกับแมงอี่นิ่วได้สักพักพวกเด็กทั้ง 3 คนก็เดินลงมา พร้อมกับเอาร้องเท้าสอดเข้ากับสายข้องแล้วผูกติดกับเอว เป็นการป้องกันไม่ให้รองเท้าหาย เสือกับน้องก็ทำเช่นกัน แล้วทั้งสามก็ลงมือช้อนกุ้งโดยการช้อนกุ้งนี้จะต้องช้อนจากข้างล่างแล้วค่อยเดินขึ้นมาเรื่อยๆ

 เบ้ มึงไปช้อนกับบักอ่ำตรงน้ำที่มันไม่ลึกนะ  เดี๋ยวพี่จะไปตรงน้ำไหลที่มีก้อนหินเองแล้วนิดกับแจ็คก็พากันตรงไปหาเสือที่กำลังช้อนกุ้งอยู่

 ได้เยอะไหม แจ๊คร้องถามเสียงดัง  เสือไม่ตอบได้แต่ยิ้มแล้วก็ก้มหน้าก้มตาช้อนกุ้งต่อไป ดวงตะวันเริ่มทอแสงอ่อนสาดส่องลงมาลงมากระทบกับผืนน้ำที่มีเกลียวคลื่นเกิดเป็นแสงระยิบระยับ เด็กทั้ง 5 คน เริ่มจะอ่อนแรงกับการช้อนกุ้งและแมงอี่นิ่ว อ่ำกับเบ้ตอนนี้กำลังเล่นน้ำกันสนุกสนานอยู่ข้างๆริมฝั่ง โดยวางข้องและวิงไว้ในน้ำใกล้ๆฝั่ง

                ได้เยอะหรือยัง  ทำไมพากันเล่นอยู่ เดี๋ยวก็จะได้กลับบ้านแล้วเสือตะโกนบอกอ่ำกับเบ้

                พี่เสืออ่ำได้อี่นิ่วทรายด้วย  เอาไปหมกกับไข่ คงจะได้สัก 2 หมกใหญ่  อ่ำตะโกนบอกพี่

                นิด กับ แจ๊ค  พวกมึงได้หลายหรือยัง กลับบ้านเถอะใกล้มืดแล้ว เดี๋ยวแม่มาจากไร่ไม่เห็นจะเป็นห่วงเสือบอก   แล้วเด็กๆทั้งหมดก็พากันขึ้นจากน้ำเพื่อจะกลับบ้าน  และก่อนที่จะกลับบ้านสิ่งที่จะต้องทำคือจะต้องแลกกันดูว่าใครได้มากได้น้อย

                โอ้โห  ทำไมได้เยอะเลยพี่เสือเสือ แล้วบักอ่ำได้เยอะกันกันไหม  แจ๊คพูดเสียงดังแล้วก็หันมาดูที่ข้องของตัวเองก่อนที่จะทำหน้ามุ่ย

                มึงได้น้อยเพราะว่ามัวแต่เล่นไม่ได้ตั้งใจช้อน  นิดพูด

                ไม่เป็นไรหรอกหรอก กูจะแบ่งให้มึงเอง  เพราะว่ากูกับน้องสองคนก็ได้เยอะพอสมควรไม่ต้องเสียเวลามาช้อนอีกนี่ก็ใกล้จะค่ำแล้ว เดี๋ยวเราไปอาบน้ำตรงบริเวณตื้นๆ ดีกว่าจะได้ล้างสวิงและล้างตัวด้วย เสือหยิบกุ้งในข้องของตัวเองให้แจ๊ด 1 หยิบมือ แล้ววางลงในข้องของแจ็ค อ่ำมองตามด้วยความเสียดาย  กุ้งตัวใหญ่ที่พี่อุตส่าห์หามาได้ แล้วเด็กๆทั้งหมดก็เดินไปอาบน้ำล้างหน้าล้างตาแล้วพากันเดินกลับบ้าน

ระหว่างเดินกลับบ้านพวกเด็กเดินกลับอีกทางเพราะจะได้เก็บผักไปกินกับแจ่วกุ้งผักที่ว่านี้มี 2 ชนิดที่นิยมกินกัน คือผักกูด และผักแดง  ผักกูดที่ริมน้ำแถวบ้านของเสือนั้นไม่เหมือนกับผักกูดที่ขายตามตลาด ที่ขายตามตลาดจะมีขนาดใหญ่แต่ที่บ้านของเสือจะมีขนาดเล็กกว่า จะชอบขึ้นอยู่ตามริมฝั่งใบมีสีเขียวอ่อนแหลมตรงยอดจะงอม้วนเข้าเหมือนกับเลข หนึ่ง ไทย ส่วนผักแดงนั้นจะเป็นเครือเถาว์จะมีหลังจากน้ำลดจะเกิดตามฝั่งเหมืนกันแต่จะอยู่ข้างบนต้นกอไคร้ไม่ได้อยู่ข้างล่างชื่อจริงของผักแดงเสือจำไม่ได้ว่าชื่ออะไรแต่เสือจะเรียกตามลักษณะใบอ่อนที่กินได้จะมีสีแดงออกน้ำตาลรสชาติจะออกมันๆ ถ้าใบแก่จะมีสีเขียว  ( กอไคร้ คือ ต้นไม้ที่จะเกิดอยู่ตรงบริเวณที่มีลักษณะเป็นเกาะกลางน้ำหรือมีเนินดิน กอไคร้นี้เป็นพืชที่มีใบแหลมสีเขียวเป็นพุ่มเล็กพุ่มและมีความอดทนสูงมากเวลาน้ำหลากน้ำจะท่วมหมดเป็นเวลาหลายเดือนแต่พอเวลาน้ำลดได้ไม่ได้เจ้ากอไคร้ก็จะแต่ใบสวยงามออกมารับแสงอาทิตย์ได้อย่างน่าประหลาดใจ )  ระหว่างเดินทางกลับบ้านเด็กๆพูดคุยกันไปอย่างสนุกสนานด้วยความเพลิดเพลินและดีใจที่เย็นนี้จะได้กินอาหารที่ตนเองเป็นคนหามากับมือ ของตนเอง

ค่ำวันนั้น แม่ทำแจ่วกุ้งให้เสือกับอ่ำกิน ทั้งสองกินกันอย่างอร่อย   อ่ำใช้มือล้วงไปในกระติบข้าวเหนียวร้อนๆและจิ้มลงในถ้วยแจ่วกุ้งส่งเข้าปากและหยิบผักกูดและผักแดงใส่ตามเข้าไป เคี้ยวตุ้ยๆเติมปาก 

กินคำน้อยๆก็ได้ เดี๋ยวก็ติดคอตายกันพอดี ถ้าอร่อยมากวันหลังแม่จะพาไปช้อนเองจะได้เยอะๆ  แม่พูดพลางส่งยิ้มให้เสือที่กำลังจ้องมองน้องชายที่พูดไม่ได้เพราะข้าวเต็มปาก  ส่วนแม่งอี่นิ่วแม่จะทำหมกใส่ไข่ไว้ให้กินตอนเข้าก่อนไปโรงเรียนแม่พูดแล้วก็ลุกไปยังครัวจัดล้างแมงอี่นิ่วให้สะอาดแป็บเดียวแม่ก็ทำเสร็จห่อด้วยใบตองกลัดด้วยก้านมะพร้าวเรียบร้อยแล้วนำไปย่างบนเตาไฟ เพียงไม่นานกลิ่นหอมของหมกแม่งอี่นิ่วก็โชยมาทำให้น้ำลายไหลอีกรอบจริงๆ

ตอนเช้าหลังจากที่ล้างหน้าแต่งตัวที่จะไปโรงเรียนแม่เรียกให้เสือและน้องมากินข้าวเสือรีบมากินข้าวเพราะกลิ่นหอมของหมกยังหอมฉุยมาแต่ไกล  เพราะแม่น้ำไปอุ่นย่างไฟอีกรอบก่อนจะเอาให้เสือกับน้องกินขณะที่กำลังกินข้าวอยู่นั้นแม่ก็ยกมะขามหวานใส่จานมาให้เสือถามแม่ด้วยความสงสัย แม่เอามะขามหวานมาจากไหน บ้านเราไม่มีมะขามหวาน

                เมื่อเช้ามืดนี้แจ็คมันวิ่งเอามาให้ตั้งแต่เช้ามันบอกว่าแม่มันให้เอามาให้ และขอบใจที่เสือแบ่งกุ้งให้มันเมื่อวานนี้ ลูกเป็นคนมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อผู้อื่น แม่ดีใจที่ลูกของแม่เป็นคนดีเมื่อโตขึ้นมันจะเป็นนิสัยติดตัวของเราไปตลอดนะลูก  จำคำของแม่สอนไว้ให้ดี  แม่พูดเสร็จแล้ววางจานมะขามลง  เสือได้แต่ยิ้มและเข้าไปกอดแม่ และบอกแม่ว่า   ผมจะตั้งใจเรียนและจะเป็นคนดีเชื่อฟังพ่อแม่และครูครับ    เสือรู้สึกอิ่มเอิบใจอย่างบอกไม่ถูก   เขาเดินไปโรงเรียนในวันนั้นรู้สึกว่ามันเป็นวันที่มีความสุขมากเหลือเกิน...........................


หมายเลขบันทึก: 288503เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2009 22:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 21:19 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท