5. ควรทำการบันทึกรายละเอียด ข้อมูลของเห็ดที่เก็บอย่างถูกต้องแม่นยำเกี่ยวกับพื้นที่ ถิ่นอาศัย พืชอาศัย วันเดือนปีที่เก็บ และนิสัยในการดำรงชีวิต เช่นเป็น Saprophytes หรือ Mycorrhizas โดยเฉพาะเห็ดราที่หายาก ควรบันทึกข้อมูลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
6. ควรทำรายงานการสำรวจศึกษาวิจัยของท่านต่อเจ้าหน้าที่ที่ท่านเข้าไปทำการศึกษาสำรวจนั้น และอธิบายถึงความสำคัญของเห็ดราแต่ละชนิด ที่ท่านเข้าไปสำรวจว่าสำคัญต่อระบบนิเวศน์และสาธารณะชนอย่างไร
7. ถ้าท่านได้รับอนุญาตให้ทำการเก็บตัวอย่างเห็ดราเพื่อวัตถุประสงค์ในการศึกษาวิจัยแล้ว ท่านไม่ควรเก็บเห็ดมาเพื่อรับประทานหรือวัตถุประสงค์อย่างอื่น
8. โปรดให้ข้อมูลเผยแผ่ข้อมูลข่าวที่ท่านได้ทำการศึกษาวิจัยแล้ว ต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบพื้นที่สำรวจ เผยแพร่ความรู้ให้กับประชาชนทั่วไป และต่อประเทศชาติ โดยแบ่งตัวอย่างหรือนำตัวอย่าง หรือหัวเชื้อตัวอย่างที่ท่านเก็บได้ ไปเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ พร้อมทั้งรูปภาพที่ถ่ายไว้ให้กับองค์กร หรือสถาบันการศึกษา เพื่อใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการต่อไปในอนาคต
อ่านแล้วขอความกรุณาแสดงความคิดเห็นหน่อยนะคะ เพื่อเป็นประโยชน์ในการทำผลงานค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกรุณา ขอบคุณ ล่วงหน้าอีกครั้ง
อ่านแล้วมีประโยชน์มากนะคะ ให้เผยแพร่บทความดีอย่างนี้บ่อย ๆ จะได้เป็นประโยชน์กับคนอื่น ค่ะ
ขอบคุณนะครับสำหรับบทความที่เป็นประโยชน์อย่างนี้
ทางโรงเรียนกำลังดำเนินการเพาะเห็ด ได้ความรู้มากๆ จากบทความนี้
สวัสดีค่ะคุณครูสุวิมลหนูได้ศึกษาบทความข้างบนได้ความรู้มากมายเลยค่ะเช่น
ได้รู้จักเห็ดต่างๆและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ค่ะ
สวัสดีค่ะ
เห็นเรื่องเห็ดแล้วชอบมากเลยค่ะ
เลยแวะเข้ามาศึกษาหาความรู้ค่ะ
โดยเฉพาะเห็ดหอมสด นั้นอร่อย ชอบมากเป็นพิเศษค่ะ กินเป็นประจำเลยค่ะ มีแกงเลียง ผัด แกงจืด
พูดแล้วหิวค่ะ
ขอบคุณมากนะค่ะที่นำสาระดีๆมาฝาก
สวัสดีค่ะคุณครู สุวิมล หนุได้ศึกษาหาความเกี่ยวกับ เห็ด เห็ดมีทั้งที่เป็นเห็ดมีพิษและไม่มีพิษ สามารถบริโภคได้ ซึ่งในกลุ่มที่บริโภคได้นี้เมื่อแบ่งตามวิธีนำมาใช้แล้ว สามารถแบ่งได้ 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ
1. เห็ดที่ใช้เป็นอาหาร (Dietary mushroom) มีอยู่ประมาณ 90% ของเห็ดที่พบทั่วไป เช่น เห็ดฟาง เห็ดหอม เห็ดหูหนู เห็ดโคน เห็ดถั่ว และเห็ดเข็มทอง เป็นต้น
2. เห็ดที่ใช้เป็นยาสมุนไพร (Medicinal Phalloides) เห็ดสมุนไพรค่อนข้างมีจำกัด เป็นเห็ดที่กินได้ และเป็นที่รู้จักกันอย่างดี เช่น เห็ดหอม เห็ดหลินจือ เห็ดโคนและเห็ดหูหนู เห็ดบางอย่างอาจยังไม่เป็นที่รู้จักและหายาก เช่น เห็ดหัวลิง (Hericium Erinaceus) และเห็ดไมตาเกะ (Mitake) นอกจากนี้เห็ดสมุนไพรยังได้จากเห็ดพิษบางชนิดด้วย เช่น เห็ดพิษเบื่อเมา (Amanita Phalloides) เห็ดร่างแห เป็นต้น
เป็นความรู้ที่มีประโยชน์มากค่ะ
สวัสดีค่ะ
คุณพ่ออายุ 84 กำลังสนใจจะลองดื่มน้ำเห็ดหลินจือ เพราะมีเพื่อน สว.แนะนำ
ก็เลยหาข้อมูลก่อน ว่าเหมาะสมกับผู้สูงอายุ?
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ขอบคุณมากนะครับที่ให้ความรู้เรื่องเห็ด เห็ดมีประโยชน์มากจริง ๆ หากเลือกบริโภคเห็ดที่ไม่มีพิษรับรองว่า มีแต่ประโยชน์ เป็นทั้งกากอาหาร เป็นทั้งยอดอาหาร เป็นทั้งยา สารพัดมากคร้บ
สวัสดีค่ะ คุณครู สุวิมล ไวยารันต์ หนู ด.ญ.กัณฐิกา ลาภมูล นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 ร.ร.บ้านสร้างม่วงส้มเสี้ยว
อ.บุณฑริก จ.อุบลราชธานี หนูอ่านบทความของคุณครู สุวิมล แล้ว หนูได้ก็ได้รู้ว่าเห็ดมีประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะมีประโยชน์ทางด้านทางแพทย์ และทำให้หนูคิดที่จะกินเห้ดมากขึ้น เป็นประโยชน์มาก ...กัณฐิกา...
ได้รู้ว่าเห็ดหลินจือ นอกจากใช้รับประทานแล้ว ปัจจุบันยังมีการนำไปเป็นส่วนผสมของเครื่องสำอางค์อีกด้วย เพราะมีคุณสมบัติช่วยต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเนื้อร้าย รวมทั้งกระตุ้นภูมิคุ้มกันไวรัสด้วย
ได้รู้ว่า เห็ดหูหนู เป็นกลุ่มคาร์โบไฮเดรต สามารถเพิ่มความแข็งแรงให้เม็ดเลือดขาวในผู้สูงอายุ ทำให้ภูมิต้านทานร่างกายดีขึ้น รวมทั้งช่วยรักษาโรคกระเพาะและริดสีดวง เห็ดหูหนูขาว ช่วยบำรุงปอดและไตด้วยค่ะ สนุกมากเลย