ความซื่อเป็นเหตุ


        บางครั้งในการที่ทรงสอบถามข้อมูลทั่วๆไปจากราษฎรนั้น ก็อาจมีเรื่องที่นึกไม่ถึงเกิดขึ้นจนเป็นเรื่องที่เล่าสู่กันฟังเสมอๆ ดังเช่น ครั้งหนึ่งได้เสด็จไปยังพื้นที่ที่สถาพดินไม่ดีนักเพราะมีกรดมาก ซึ่งเรามักจะเรียกกันว่า "ดินเปรี้ยว" ได้ทรงถามราษฎรผู้หนึ่งว่า
        "ดินแถวนี้เปรี้ยวไหม"
        ราษฎรผู้นั้นก็ทำท่าหน้าตาเฉย แล้วกราบบังคมทูลตอบพระองค์แบบซื่อๆสั้นๆว่า
        "ไม่รู้ ไม่เคยกิน"

...

        และอีกครั้งหนึ่ง เมื่อคราวทรงเสด็จเยี่ยมประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ขณะนั้นเป็นเวลาค่ำแล้วแต่พระองค์ยังคงเสด็จพระราชดำเนินตรวจสอบสถาพพื้นที่อยู่ โดยเสด็จเข้าไปยังทุ่งนา ก็ได้มีราษฎรผู้หนึ่งมานั่งเฝ้ารับเสด็จอยู่ ณ ที่นั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งชายผู้นั้นถึงเรื่องการทำมาหากินว่า ทำนาได้ผลเป็นอย่างไร ได้กี่ไร่ต่อถึง ฯลฯและปัจจุบันยังทำนาอยู่หรือไม่ ซึ่งชายผู้นั้นได้กราบบังคมทูลว่า
        "เดี๋ยวนี้ไม่ได้ทำเพราะแขนเจ็บ" (ชายผู้นั้นมีผ้าพันแขนไว้ข้างหนึ่ง)
        พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่อยู่จึงรับสั่งถามว่า "ไปโดนอะไรมาถึงเจ็บ"
        ชายผู้นั้นก็กราบบังคมทูลว่า "ตกสะพาน"
        และด้วยความที่ทรงห่วงใยราษฎรผู้นั้น จึงได้มีพระราชกระแสรับสั่งต่อไปว่า
        "แล้วแขนอีกข้างหนึ่งล่ะ ไม่เป็นอะไรหรือ"
        ราษฎรผู้นั้นกราบบังคมทูลตอบทันทีทันใดว่า
        "แขนอีกข้างไม่ได้ตกไปด้วย"

ที่มา : ที่สุดของหัวใจ
สำนักพิมพ์ : กันตนา

หมายเลขบันทึก: 28781เขียนเมื่อ 16 พฤษภาคม 2006 08:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 14:56 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
     ยิ้ม ๆ เบิกบานใจครับ

ยิ้มด้วยคนครับ

ว่าแต่รูปนั้น ถ่ายที่ไหนครับ  สวยจัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท