จะใช้ คอมพิวเตอร์เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
เขาควรรู้จุดสำคัญเป็นเบื้องต้นและพื้นฐาน
สารสนเทศได้มีบทบาทสำคัญมากขึ้น อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมที่สำคัญ 3 ประการ คือ ระบบเศรษฐกิจยุคใหม่ การเปลี่ยนแปลงด้านองค์การและการบริหารการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งทีจะเรียนรู้ในการจัดการกับระบบสารสนเทศเพื่อนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างเต็มที่
ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ หรือข้อมูลดิบที่ยังไม่ผ่านการประมวลผล ยังไม่มีความหมายในการนำไปใช้งาน สารสนเทศคือข้อมูลที่ได้ผ่านการประมวลผลหรือจัดระบบแล้ว หรือให้มีความหมายและคุณค่าสำหรับผู้ใช้ ความรู้ คือการรับรู้และความเข้าใจในการนำสารสนเทศ ไปใช้ในการแก้ปัญหาในการดำเนินงาน ลักษณะที่ดีของสารสนเทศ มี 4 มิติ คือ มิติด้านเวลา คือ การทันเวลา ความเป็นปัจจุบัน และการมีข้อมูลทั้งในอดีต ปัจจุบันอนาคต มิติด้านเนื้อหา คือ ความถูกต้องเที่ยงตรง ความสัมพันธ์กับเรื่อง ความสมบูรณ์ ความน่าเชื่อถือได้ รวมยืดหยุ่นและตรวจสอบได้ มิติด้านรูปแบบ รวมถึงความชัดเจนระดับการเสนอรายละเอียดที่เหมาะสม รูปแบบการนำเสนอ สื่อในการนำเสนอและความประหยัด มิติด้านกระบวนการ คือความสามารถในการเข้าถึง การมีส่วนรวมและการเชื่อมโยงระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ หมายถึง ระบบที่รวบรวมประมวล เก็บรักษา และเผยแพร่สารสนเทศ เพื่อใช้ในการบริหาร องค์ประกอบของระบบสารสนเทศที่ใช้คอมพิวเตอร์มี 2ส่วนได้แก่ อาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ ฐานข้อมูล เครื่องข่าย กระบวนการและคน แนวคิดเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร มี 3แนวทางคือ เน้นทางด้านพฤติกรรมการเน้นการผสมผสานแนวทางด้านเทคนิคและด้านพฤติกรรม และทัศนคติของผู้เกี่ยวข้อง แนวทางด้านพฤติกรรมการเน้นการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม และทัศนคติผู้เกี่ยวข้อง แนวทางด้าน Sociotechnical Systems เป็นการผสมผสานแนวทางด้านเทคนิคและด้านพฤติกรรมเข้าด้วยกัน เพื่อทำให้เกิดดุลยภาพระหว่างความพึงพอใจของผู้ใช้และประสิทธิภาพด้านเทคโนโลยี ประโยชน์ของระบบสารสนเทศมี 4 ประการคือ
(1) ประสิทธิภาพได้แก่ ความรวดเร็วในการปฏิบัติงานการจัดการเก็บข้อมูลปริมาณมาก การติดต่อสื่อสารที่รวดเร็ว การลดต้นทุนและการขยายขอบเขตการติดต่อประสานงานของหน่วยงานต่างๆ
(2) ประสิทธิผลได้แก่ การช่วยสนับสนุนการตัดสินใจขององค์การ การช่วยเลือกสินค้า/บริการที่เหมาะสม และการปรับปรุงคุณภาพสินค้า/บริการให้ดีขึ้น
(3) ความได้เปรียบในการเเข่งขันได้แก่ การสร้างนวัตกรรม การให้บริการลูกค้าที่ไม่เหมือนใครและการติดต่อกับซัพพลายเออร์เพื่อลดต้นทุนและทำให้การส่งวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ เป็นอย่างรวดเร็ว
(4) คุณภาพชีวิตการทำงานคือการทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความพึงพอใจและเกิดประสิทธิภาพการทำงานพร้อมกันด้วย
ความสัมพันธ์ระหว่างองค์การและระบบสารสนเทศ มีแนวคิดอยู่ 2 แนวคิด คือ
1) แนวคิดแรก เชื่อว่าระบบสารสนเทศมีผลกระทบต่อองค์การด้านเดียว กล่าวคือ เมื่อนำระบบสารสนเทศไปติดตั้งในองค์การจะเกิด ผลกระทบต่อองค์การในด้านใดด้านหนึ่ง
2) แนวคิดที่สองเชื่อว่าระบบสารสนเทศและองค์การมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน กล่าวคือ ผลกระทบของระบบสารสนเทศต่อองค์การขึ้นอยู่กับลักษณะต่าง ๆ ขององค์การด้วยองค์การเสมือนจริง คือ เครือข่ายขององค์การซึ้งเชื่อมโยงกันด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อเปลี่ยนแปลง ทักษะ ทรัพยากร สินค้า บริการ การเข้าถึงตลาด และเพื่อลดต้นทุน ซึ่งมีลักษณะที่แตกต่างจากองค์การแบบเดิม คือมีโครงสร้างไม่เป็นทางการไม่มีขอบเขตที่ชัดเจนและทีมงานมีความสำคัญมาก รีเอ็นจิเนียริ่ง (Business Process Reengineering BPR ) เป็นเทคนิคการปรับปรุงองค์การซึ่งใช้เมื่อลูกค้ามีความต้องการมากขึ้น การแข่งขันมีสูงตลอดจนสถานการณ์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความไม่แน่นอนสูง รีเอ็นจิเนียริ่งมีความหมายว่า การทบทวนความถูกต้องพื้นฐานและการออกแบบกระบวนการใหม่โดยสิ้นเชิง เพื่อให้การบรรลุผลการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในผลงาน
องค์ประกอบที่สำคัญของรีเอ็นจิเนียริ่ง คือ
(1) การออกแบบใหม่
(2) การปรับปรุงเครื่องมือการทำงานใหม่
(3) การปรังปรุงการทำงานใหม่
ในขณะที่รีเอ็นจิเนียริ่งมีข้อดีในการช่วยปรับปรุงกระบวนการทำงนขององค์การและมีแนวคิดในการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการทำงาน ข้อจำกัด ทางด้านแนวคิดและวิธีการนำไปปฎิบัติก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาด้วยเช่นกัน แนวคิดเกี่ยวกับผลกระทบเทคโนโลยีสารสนเทศจำแนกได้เป็น 3 กลุ่มคือ
(1 ) กลุ่มที่มองในด้านบวก (Optimism)
(2) กลุ่มที่มองในด้านลบ (Pessimism)
(3) กลุ่มที่มองในด้านลักษณะสัมพันธ์(Relativism)
มาเยี่ยมชมผลงานค่ะ
เข้ามาเยี่ยมจ้างานดีมาก
คอมพิวเตอร์ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการทำงานไปแล้วล่ะ