เทคนิคการพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ในการทำงานร่วม
กับผู้อื่น
1. เข้าใจและยอมรับธรรมชาติของอารมณ์ บุคคลแต่ละคนมีความรู้สึกและอารมณ์พื้นฐานของตนเอง เช่น ดีใจ เสียใจ
อิจฉา และมีการแสดงออกที่ต่างกันตามวาระกัน แต่ละคน
จะมีอารมณ์และความรู้สึกที่ผันแปรต่างกันไป ยากที่จะนำ
ความรู้สึกดี-ชั่วของตัวเราเองไปตัดสินได้
2. รับฟังทำความเข้าใจและให้เกียรติผู้อื่น การยอมรับและ
เข้าใจภาวะที่บุคคลแสดงออก เป็นสิ่งจำเป็นในการเสริม
สร้างความภาคภูมิใจตนเอง การรักษาหน้า ความมั่นใจ
การไว้วางใจซึ่งกันและกัน ซึ่งจะมีผลต่อคุณภาพและผลผลิต
ที่บุคคลมีส่วนต่อองค์กรการปฏิเสธที่จะรับฟังหรือทำความ
เข้าใจกับภาวะอารมณ์ที่แสดงออก เช่น เพิกเฉย วิพากษ์
ตำหนิ การเห็นเป็นเรื่องปกติ การบั่นทอนล้อเลียนความรู้สึก
ของบุคคลเป็นการทำลายระดับความมั่นใจของตัวเอง ความ
คิดสร้างสรรค์และเกียรติภูมิแห่งตนเองและไม่เป็นการเคารพ
ความเป็นปัจเจกบุคคลอีกด้วย
3. การแก้ไขความขัดแย้ง บางครั้งการใช้เพียงเหตุผลแต่
โดยลำพังไม่สามารถแก้ไขปัญหาทางอารมณ์ ความรู้สึกได้
ควรยอมรับความรู้สึกโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ ก่อนแล้วค่อยมา
พิจารณาการแสดงออก ผู้มีความฉลาดทางอารมณ์สูงกว่า
จะไม่ใช้วิธีการที่บั่นทอนความรู้สึกของคนอื่น แต่ความ
สามารถในการจัดการกับอารมณ์ได้ดีจะช่วยทั้งความรู้สึก
ของตัวเองและช่วยให้อีกฝ่ายสงบลงได้ การที่บุคคลแสดง
ภาะวะอารมณ์ออกในทางลบแสดงให้เห็นว่าความต้องการ
ทางอารมณ์ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ยังมีความตึงเครียด
อยู่ในจิตใจ ผู้บริหาร เพื่อนร่วมงานและผู้เกี่ยวข้องควรทำ
ความเข้าใจ รับฟังความคิดเห็น เห็นใจและยอมรับภาวะ
อารมณ์ที่เกิดขึ้น
สรุป ความฉลาดทางอารมณ์มีประโยชน์ต่อชีวิตมนุษย์อย่าง
เราอย่างมากมายมหาศาล หรือที่เราเรียกว่าอีคิว ซึ่งถึงแม้ว่า
จะเป็นศักยภาพทางสมองเหมือนกันแต่ก็สามารถปรับเปลี่ยน
เรียนรู้และพัฒนาได้ค่ะ
ที่มาSPECY 31 jAN -6 fEB 2009
แวะมาหาความรู้ค่ะพี่ บทความถูกใจจัง
ขอบคุณสำหรับเทคนิคดี ๆ และคิดว่าทุกอย่างสามารถพัฒนาได้
ถ้าทุกคนเป็นแบบนี้ คงจะดีมากเลยค่ะพี่
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
ขอบคุณนะคะสำหรับบทความที่นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันคะ เอาไว้จะเข้ามาขอรับอาหารสมองใหม่นะคะ
เป็นความฉลาดที่ควรนำไปใช้อย่างยิ่งค่ะ
แล้วจะนำไปใช้นะคะเพื่อความฉลาดในอนาคต