พาคุณแม่แปดสิบห้าแห่ผ้าขึ้นพระธาตุที่พระธาตุสวี ..........................ที่นี่สถานีสวี ๔

 

                วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่มีความสุขความอิ่มเอิบเป็นอย่างยิ่ง  การได้เข้าวัดทำบุญจะส่งผลให้ผู้ปฏิบัติมีความสุข  แต่การได้พาบุพการี หรือผู้สูงอายุไปวัดทำบุญกลับมีความสุขยิ่งกว่า  เมื่อมีช่วงวันปิดที่ตรงกับวันสำคัญทางศาสนา  คุณแม่ก็จะคอยว่ามีลูกคนไหนกลับมาเยี่ยมบ้างนะ  จะได้พาคุณแม่ไปวัดทำบุญ   ขณะเดียวกันลูกก็จะแอบดีใจว่าปีนี้เป็นอีกปีหนึ่งนะที่คุณแม่ยังแข็งแรง   ยังดูแลตัวเองและไปวัดทำบุญได้   และก็จะแอบหวังในใจว่าปีหน้าลูกกับคุณแม่ก็จะยังได้มาทำบุญเช่นปีนี้อีก 

 

                ในวันอาสาฬหบูชาของปีนี้  ครูภาทิพ  ได้มีโอกาสพาคุณแม่ไปแห่ผ้าขึ้นบูชาพระธาตุสวี  ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสแม้ว่าทางราชการจะจัดให้มีมาหลายปีแล้ว    พระธาตุสวีเป็นพระธาตุที่มีประวัติมายาวนาน ได้รับการบูรณะมาหลายครั้ง ขณะเดียวกันก็ได้รับการปล่อยปละละเลยรกร้างมาหลายครั้งเช่นกัน  

 

                ประธานในพิธีก็คือ  นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ  ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร  โดยมีงานวัฒนธรรมอำเภอเป็นเจ้าภาพ    ผู้มาร่วมงานคือผู้นำท้องถิ่น  ผู้สูงอายุในชุมชนใกล้   ชาวบ้านที่ผู้นำท้องถิ่นบางตำบลจัดเกณฑ์มา   นักเรียนชั้นประถมศึกษาที่คุณครูพามา   จุดประสงค์ของการจัดงานสืบทอดการแห่พระผ้าบูชาพระธาตุ จากที่ท่านนายอำเภอสวีกล่าวรายงาน ก็คือต้องการให้งานนี้เป็นงานประเพณีที่ลูกหลานจะกลับมาร่วมงานเหมือนงานประเพณีเดือนสิบของชาวนครศรีธรรมราช   ซึ่งจะบรรลุผลหรือไม่ก็คงต้องขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของคนในท้องถิ่น  การประชาสัมพันธ์ของทางราชการ และการร่วมมือของหลายๆ องค์กร

 

                เมื่อประธานกล่าวเปิดงานเสร็จ  ก็มีผู้จัดงานมาเล่าประวัติพระธาตุสวี   และตามด้วยการแห่ผ้าผืนยาวโดยมีท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำ จำนวน ๓ รอบ  ก็จะมีหนุ่มๆที่สวมชุดขาวขึ้นไปบนพระธาตุ  รับผ้าที่แห่ขึ้นไปห่มพระธาตุโดยมีชาวบ้านช่วยกันส่งผ้าขึ้นไป   งานนี้คุณแม่คนเก่งของครูภาทิพในวัยแปดสิบห้า  เกือบจะปีนบันไดขึ้นไปส่งผ้าด้วยแล้วเชียว   หลังจากนั้นก็ไปห่มผ้าพระพุทธรูปที่รายรอบพระธาตุ  ซึ่งของคุณแม่ครูภาทิพได้หมายเลข ๑๐๒  อากาศจะร้อนอย่างไร  คุณแม่ก็ยังไหวอยู่   แต่เมื่อกลับถึงบ้านนั่นล่ะ   คนเก่งก็มีอันเป็นลมเหนื่อยอ่อนในทันที

 

คุณแม่คนเก่ง และด้านล่างเพื่อนบ้านเสมือนญาติ

ประวัติพระธาตุสวี

ที่ตั้ง             วัดพระธาตุสวี ตั้งอยู่ที่หมู่ ๑ ตำบลสวี อำเภอสวี จังหวัดชุมพร
ลักษณะทางสถาปัตยกรรม 
                     พระบรมธาตุสวี มีลักษณะรูปแบบสถาปัตยกรรมเลียนแบบพระบรมธาตุเจดีย์นครศรีธรรมราช สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นสมัยกรุงศรีอยุธยา และได้มีการบูรณะซ่อมแซมหลายครั้ง ครั้งหลังสุดเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ โดยกรมศิลปากร ในปัจจุบันพระบรมธาตุสวีมีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงระฆังตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม ๒ ชั้น ฐานชั้นล่างกว้าง ๘.๕๐ เมตร ประดับด้วยซุ้มรูปช้างโผล่ศีรษะและขาหน้า เสมือนค้ำเจดีย์ไว้ด้านละ ๓ ซุ้ม สลับกับรูปยักษ์ถือกระบองและประดับด้วยเสาหลอก ๖ ต้น (เว้นด้านทิศใต้ มีบันไดทางขึ้น จึงมีช้างเพียง ๒ ซุ้ม) มุมทั้งสี่ของฐานมีเจดีย์จำลองเลียนแบบเจดีย์ประธาน ฐานชั้นบนมีพระพุทธรูปปางสมาธิประทับนั่งในซุ้มด้านละ ๕ ซุ้ม มุมทั้ง ๔ ของฐานมีเจดีย์จำลองประดับไว้เช่นกัน ตัวเจดีย์เป็นทรงระฆัง เหนือขึ้นไปเป็นเสาหาร ก้านฉัตร บัวเถา ปล้องไฉน ๗ ชั้น บนสุดเป็นปลียอด และเม็ดน้ำค้าง
ประวัติ/ตำนาน 
                    มีตำนานเล่าถึงประวัติการสร้างพระธาตุบรมสวีว่า เมื่อครั้งที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชเสด็จยกทัพมารี้พลมาพักที่วัดร้างแห่งหนึ่งในเขตอำเภอสวี ได้พบกาเผือกและกาฝูงหนึ่งเกาะอยู่บนกองอิฐกระพือปีกและส่งเสียงร้อง พระองค์จึงให้รื้อเศษกองอิฐที่กองทับถมกันออกพบฐานเจดีย์ใหญ่ เมื่อขุดลึกลงไปได้พบผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ จึงให้แม่ทัพนายกองไพร่พลช่วยกัน สร้างเจดีย์ขึ้นมาใหม่แทนที่เดิม แล้วจัดงานสมโภชเป็นการใหญ่เป็น เวลา ๗ วัน ๗ คืน จากนั้นพระราชทานชื่อว่า พระบรมธาตุกาวีปีก (วีปีกแปลว่ากระพือปีก) ต่อมาเรียกกันว่าพระธาตุกาวี และคำว่า กาวี ได้เพี้ยนจนเป็นกลายเป็นสวีในปัจจุบัน ก่อนที่พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชจะเสด็จยกทัพกลับ ทรงห่วงใยพระบรมธาตุว่าจะไม่มีผู้ดูแลรักษา จึงสั่งเรียกบรรดาทหารในกองทัพซึ่งกำลังนอนหลับสนิท ในขณะนั้นมีทหารคนหนึ่งชื่อ เมือง ขานรับพระองค์จึงมีรับสั่งถามว่า ต้องการจะอยู่ดูแลรักษาพระบรมธาตุแห่งนี้ไหม นายเมืองขานรับอาสา พระองค์จึงสั่งให้นายทหารตัดศีรษะนายเมืองเซ่นสรวงบูชาไว้ในศาลเพียงตา ศาลนี้เรียกว่า ศาลพระเสื้อเมือง ให้เป็นผู้เฝ้ารักษาพระบรมธาตุ ในปัจจุบันศาลนี้ยังมียังมีคนทั่วไปเคารพนับถือในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวจีน
                    ต่อมาศาลพระเสื้อเมืองมีสภาพชำรุดทรุดโทรม กรมศิลปากรจึงได้ออกแบบอาคารใหม่ให้มีลักษณะสอดคล้องกับพระบรมธาตุสวี โดยเป็นอาคารทรงไทยหลังคาจั่ว หลังคามุงกระเบื้องดินเผาเคลือบ ผนังก่ออิฐฉาบปูน ด้านหน้ามีราวระเบียงลวดบัว พื้นอาคารปูนด้วยหินอ่อน
                    วัดพระธาตุสวี  (วัดสวี) ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ  และถือเป็นโบราณสถานสำคัญของจังหวัดชุมพร

เอกสารอ้างอิง

- สำนักงานโบราณคดีและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติที่ ๑๑ นครศรีธรรมราช. โบราณสถานจังหวัดชุมพร. เอกสารประกอบการอบรมทบทวนอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม (อส.มศ.) จังหวัดชุมพร วันที่ ๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๑.

พระเสื้อเมือง  ประวัติว่าเดิมคือทหารชื่อเมืองที่อาสาพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เฝ้าพระธาตุนี้ โดยถูกบั่นศีรษะ  เพื่อให้ดวงวิญญาณได้คอยเฝ้าสถานที่แห่งนี้

 

แหล่งอ้างอิงเพิ่มเติม

ที่มา http://gotoknow.org/blog/chumphon-nation-museum/4836

อ่านเพิ่มเติมงานแห่ผ้าขึ้นพระธาตุ

[ขจิต ฝอยทอง]

เคยไปที่สวี แต่ไม่เคยไปพระธาตุนี้ครับพี่ พี่ครูสบายดีไหม

[หยั่งราก ฝากใบ]

สวัสดีค่ะ

อนุโมทนากับการได้กราบบูชาพระธาตุและยังได้พาคุณแม่ไปด้วย...ดีจ้งเลยค่ะ

คนไม่มีรากยังไม่เคยได้ไปกราบนมัสการพระธาตุสวีเลยค่ะ

แต่วันนี้ได้ทราบประวัติแล้ว

ขอบคุณค่ะ

(^___^)

[ภาทิพ]

สวัสดีค่ะ อ.ขจิต  และคนไม่มีราก   พระธาตุสวีอยู่ใกล้ถนนใหญ่  ใกล้สะพานแม่น้ำสวีหนุ่ม  

หากมีโอกาสไปสวี  ขอแนะนำโปรแกรมเที่ยวค่ะ

เช้า ๐๙.๐๐ น.  ไปถวายภัตตาหารที่วัดถ้ำขวัญเมือง  ไปแต่ตัวกับใจและแรงศรัทธาได้เลยค่ะ  วัดเงียบสงบ  สะอาดมาก ๆ  พระปฏิบัติธรรมและปฏิบัติกิจสงฆ์อย่างเคร่งครัด  มีป้ายริมถนนบริเวณที่เขาขายพวกสละและสับปะรด  ใกล้ๆ  โรงเรียนรักธรรม

 

เที่ยง แวะร้านอาหารศิริวรรณ  ใกล้ป้อมตำรวจสวี   อาหารอร่อย  กุ้งแม่น้ำสดๆ  แกงส้มปูนิ่มกับสับปะรด  ผัดฉ่ากรามหอย

 

บ่าย ไปนมัสการพระธาตสวี

 

เย็นแวะหาหอยหลอด  

 http://gotoknow.org/blog/tipstudy/256615