ใน บล็อก http://gotoknow.org/blog/thaikm/286076 ผมได้เล่าเรื่องการไปร่วมงานแสดงมุทิตาจิต ในโอกาสที่ ศ. ดร. เจตนา นาควัชระ มีอายุครบ ๖ รอบนักษัตร เมื่อวันที่ ๑๘ ก.ค. ๕๒ และได้เอ่ยว่า ผมได้เสนอวิธีพัฒนาอาจารย์แบบแหวกแนวไว้ด้วย
เรื่องมันเริ่มจาก รศ. ดร. มณีปิ่น พรหมสุทธิรักษ์ คณบดีคณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร กล่าวเปิดงาน และกล่าวว่า เมื่อมีการริเริ่มงานทางวิชาการใหม่ๆ ก็มักจะต้องไปขอคำแนะนำจากท่าน ศ. ดร. เจตนา นาควัชระ และได้พูดปูทางไว้ว่า ยังจะต้องขอรบกวนอีก ในโอกาสต่อๆ ไป
ผมจึงเล่าเรื่องโครงการเมธีวิจัยอาวุโส สกว. และชุดโครงการวิจัยที่ ศ. ดร. เจตนา นาควัชระ ได้รับ เป็นเครื่องมือสร้างอาจารย์ที่เก่งวิจัยเป็นพิเศษได้อย่างดี หากมหาวิทยาลัยศิลปากรลงทุนอีกเล็กน้อย หาอาจารย์รุ่นใหม่ที่เด่นเป็นพิเศษเข้าร่วมวิจัยกับ ศ. ดร. เจตนา นาควัชระ ให้ติดตามรับช่วยงาน เพื่อฟูมฟักเป็นนักวิชาการระดับยอดผ่านการเคี่ยวกรำทำงานกับท่าน แม้จะไม่ใช่ cloning ทางวิชาการ ก็จะเป็นการสร้างอาจารย์ที่มีคุณภาพสูงเด่น ได้เป็นอย่างดี
เมื่อพิสูจน์ตัวเองว่าทำงานจริง ความสามารถใช้ได้ ทุนศึกษาต่อก็จะมาเอง มหาวิทยาลัยก็จะทุ่นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาอาจารย์ผู้นี้ในที่สุด
แต่ที่ยิ่งกว่านั้น มีค่ายิ่งกว่านั้นมาก คือการได้เป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของ ศ. ดร. เจตนา นาควัชระ ที่จะได้ซึมซับความรู้ที่หลากหลายและลุ่มลึกของท่าน ผ่านการเคี่ยวกรำทำงาน
การพัฒนาอาจารย์แบบนี้ เน้นการติดตามฝึกทำงานกับนักวิชาการระดับยอด ค่อนข้างจะเป็นวิธีการนอกแบบ แต่ก็สามารถเอาวิธีการตามรูปแบบเข้าไปเสริมได้ เช่นทุนปริญญาเอก คปก.
วิจารณ์ พานิช
๑๘ ก.ค. ๕๒
ไม่มีความเห็น